A long time ago, people found creat

A long time ago, people found create a nice smell. They put nice-smelling wood or leaves into a fire. A nice smell come through the smoke. that is how we got the word perfume. In Latin, per menns through, and fumus means smoke.
In ancient times, people used a lot of perfume. The Greeks uesd different perfume for different parts of the body. Everybody used perfume , both men and women. when guest came for aspecial dinner, the host gave them more perfume to put on themselves. The Romans did the same as the Greeks. But they did not just perfume themslves once a day. They perfume themselves three times a day Thay also perfumed their dogs and horses. They perfumed their flags and things around the house such as drapes and cushoins. perfume was as important as food.
Today, perfume is not natural as it was in the past . Perfume is also not simple to make. A perfume expert must tell the difference among nineteen thousand differrent smells. Most of these smells are from chemical, thet are not from real flowers. For a very good perfume today, the expert mixes more than a hondred ingradients.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นเวลานาน พบคนสร้างกลิ่นดี พวกเขาใส่กลิ่นดีไม้หรือใบไม้ลงในไฟ กลิ่นดีมาผ่านควัน นั่นคือวิธีการที่เราได้น้ำหอมคำ ในละติน ต่อผ่าน menns และ fumus หมายความว่าควัน ในสมัยโบราณ คนใช้จำนวนมากน้ำหอม ชาวกรี uesd ต่าง ๆ น้ำหอมสำหรับส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทุกคนใช้น้ำหอม ทั้งชายและหญิง เมื่อเข้าพักสำหรับอาหารค่ำ aspecial โฮสต์ให้พวกเขาเพิ่มเติมน้ำหอมใส่ตัวเอง ชาวโรมันได้เหมือนชาวกรี แต่พวกเขาไม่ใช่แค่น้ำหอม themslves วันละครั้ง พวกเขาน้ำหอมเองสามครั้งต่อวัน Thay หอมสุนัขและม้า พวกเขาหอมธงและสิ่งต่าง ๆ รอบบ้านเช่น drapes และ cushoins น้ำหอมถูกที่สำคัญเป็นอาหาร วันนี้ น้ำหอมไม่ได้ธรรมชาติเหมือนในอดีต น้ำหอมยังไม่ได้จะให้ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอมต้องบอกความแตกต่างระหว่างกลิ่นหลักพัน: 43 ส่วนใหญ่ของกลิ่นจากสารเคมี เทศไม่ได้มาจากดอกไม้จริง สำหรับน้ำหอมดี วันนี้ ผู้เชี่ยวชาญผสมผสานมากกว่าการ ingradients hondred

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นเวลานานที่ผ่านมาคนพบสร้างกลิ่นที่ดี พวกเขาวางไม้หอมหรือใบลงในกองไฟ กลิ่นที่ดีผ่านเข้ามาในควัน นั่นคือวิธีที่เราได้คำน้ำหอม ในละตินต่อ menns ผ่านและ fumus หมายความว่าควัน
ในสมัยโบราณคนใช้จำนวนมากของน้ำหอม ชาวกรีก uesd น้ำหอมที่แตกต่างกันสำหรับชิ้นส่วนต่างๆของร่างกาย ทุกคนที่ใช้น้ำหอมทั้งชายและหญิง เมื่อผู้เข้าพักมาสำหรับอาหารค่ำ aspecial โฮสต์ให้พวกเขามีน้ำหอมมากขึ้นที่จะใส่ในตัวเอง เข้าเมืองตาหลิ่วก็ทำเช่นเดียวกันในขณะที่ชาวกรีก แต่พวกเขาไม่ได้เพียงแค่ themslves น้ำหอมวันละครั้ง พวกเขาน้ำหอมตัวเองสามครั้งต่อวัน Thay ยังหอมสุนัขและม้าของพวกเขา พวกเขาหอมธงและสิ่งที่พวกเขาไปรอบ ๆ บ้านเช่นผ้าม่านและ cushoins น้ำหอมเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอาหาร
วันนี้น้ำหอมไม่ได้เป็นธรรมชาติที่มันเป็นในอดีตที่ผ่านมา น้ำหอมยังไม่ง่ายที่จะทำให้ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอมจะต้องบอกความแตกต่างในหมู่หนึ่งหมื่นเก้าพันกลิ่นแตกต่าง ส่วนใหญ่ของกลิ่นเหล่านี้มาจากสารเคมี, Thet ไม่ได้มาจากดอกไม้จริง สำหรับน้ำหอมที่ดีมากในวันนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านการผสมมากกว่า ingradients hondred

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นานมาแล้วที่ผู้คนพบสร้างกลิ่นดี พวกเขาใส่ดี กลิ่นไม้หรือใบไม้ลงในไฟ หอมมาผ่านควัน นั่นเป็นวิธีที่เราได้คำว่าน้ำหอม ในภาษาละติน ต่อ menns ผ่าน และ fumus หมายถึงควันในสมัยโบราณ ผู้คนใช้มากของน้ำหอม กรีกที่ใช้น้ำหอมที่แตกต่างกันสำหรับส่วนต่างๆของร่างกาย ทุกคนใช้น้ำหอมทั้งชายและหญิง เมื่อแขกมาทานอาหาร aspecial , โฮสต์ให้หอมมากใส่ตัวเอง ชาวโรมันได้เช่นเดียวกับชาวกรีก แต่พวกเขาไม่ได้แค่น้ำหอม themslves วันละครั้ง พวกเขาใช้น้ำหอมสามครั้งต่อวันก็คือ ก็อบของสุนัขและม้า พวกเขาอบธงของพวกเขาและสิ่งรอบ ๆบ้าน เช่น ผ้าม่านและ cushoins . น้ำหอม คือ ที่สำคัญเป็นอาหารวันนี้ น้ำหอมไม่ธรรมชาติเหมือนในอดีต น้ำหอมก็ไม่ง่ายที่จะทำ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอมต้องบอกความแตกต่างระหว่างเก้าพันได้รับกลิ่น ที่สุดของกลิ่นจากสารเคมี เทศน์ไม่ได้มาจากดอกไม้จริง ๆ สำหรับน้ำหอมที่ดีมากในวันนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการผสมมากกว่า hondred ส่วนผสมที่ .