นิทานอาเซียน ประเทศลาว
เรื่องภูท้าวภูนาง
กาลครั้งหนึ่ง มีนางยักษ์ตนหนึ่งชื่อว่ากินนา อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ใกล้ภูเขา นางกินนายังเป็น
สาวไม่มีผัว อยู่ตัวเดียวเดี่ยวโดด ทุก ๆ เช้านางกินนาจะเดินไปตามป่า จะกลับมาบ้านต่อเมื่อถึงเวลาอาหาร
นางจะเฝ้าดูน้ําที่ไหลไปตามซอกหินและต้นหญ้า บ่อยครั้งที่นางจะนั่งอยู่ใต้ต้นไทรที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกไป
กว้าง ทําให้ร่มเย็นแสนสบาย
การที่นางกินนาใช้ชีวิตส่วนมากอยู่ในป่าเช่นนั้น ทําให้นางคุ้นเคยกับสัตว์ป่านานาชนิด บางครั้งจะ
เห็นนางนั่งเล่นอยู่กับนกจํานวนมาก นกเหล่านั้นจะร้องเพลงให้หล่อนฟัง และบางครั้งหล่อนก็จะขึ้นไปนั่ง
บนคอช้างป่า
เช้าวันหนึ่ง นางกินนาได้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกําลังเดินเข้ามาในป่า ชายหนุ่มคนนั้นมีรูปร่างงดงาม
ราวกับพระอินทร์ (ลาวชอบเปรียบคนรูปงามว่างามราวกับอินทา ในต้นฉบับอธิบายไว้ว่า อินทาเป็นเทพเจ้า
แห่งความงาม) หนุ่มผู้นั้นถือปืนไว้ในมือ นางกินนาใฝ่ฝันอยู่นานแล้วที่จะมีสามีสักคนหนึ่ง หล่อนจึงรู้สึกปลื้ม
ใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อแลเห็นหนุ่มรูปงามคนนี้
ขณะที่นางกินนากําลังรําพึงฝันหวานอยู่นั้น นางก็ระลึกขึ้นได้ว่านางเป็นยักษ์รูปร่างหน้าตาน่า
เกลียด เมื่อชายหนุ่มเห็นเข้าก็คงจะไม่หลงรักอย่างแน่นอน อย่ากระนั้นเลยปลอมแปลงกายให้งดงาม
เสียก่อนจะดีกว่า นางจึงร่ายเวทมนต์กลายร่างจากยักษ์เป็นหญิงสาวรูปงาม มีเสน่ห์ยากที่หญิงใดจะ
เทียบเคียงได้ เมื่อแปลงกายแล้ว นางกินนาก็ออกเดินเข้าไปหาชายหนุ่มแล้วถามว่า
"พี่เข้ามาในป่าจะไปไหนหรือ"
"ฉันมาล่าสัตว์" ชายหนุ่มตอบ แล้วถามต่อไปว่า "เธออยู่ที่นี่คนเดียวหรือ"
"จ้ะ ฉันอยู่คนเดียว อยู่กับนกกับต้นไม้"
เสน่ห์ของนางกินนาทําให้ชายหนุ่มเริ่มจะหลงรัก เขาเดินเข้ามายืนอยู่ใกล้ ๆ แล้วชวนพูดคุยถึงเรื่อง
ต่าง ๆ เมื่อเห็นหญิงสาวไม่รังเกียจ ก็ชวนไปนั่งคุยที่ลานหญ้าใกล้ลําธารชายหนุ่มได้บอกชื่อของเขาให้หล่อน
ทราบว่า เขาชื่อพุทเสนแล้วเล่าเรื่องราวให้หล่อนฟัง นางกินนาได้ขอร้องให้ชายหนุ่มพักอยู่กับหล่อนนาน ๆพุทเสนก็ยอมตกลงด้วยความยินดี พุทเสนอยู่กับนางกินนาด้วยความสุขสําราญ จนทําให้เขาลืม
มารดาที่อยู่อย่างยากจนทางบ้าน
วันหนึ่งนางกินนาได้บอกความลับของนางให้พุทเสนฟังด้วยความไว้วางใจ "พี่ ฉันลืมบอกพี่ไปว่าใน
หีบใบนี้มีมะนาวที่ไม่รู้จักสุกไม่รู้จักเหี่ยวอยู่หลายผล เป็นมะนาววิเศษที่ตกทอดมาตั้งแต่ครั้งย่าครั้งยายของ
ฉันทีเดียว มะนาวเหล่านี้มีอํานาจวิเศษมาก พี่เคยไปเที่ยวสวนของฉันบ้างไหม" "ไม่เคยเลย" ชายหนุ่มตอบ
"อยู่ที่ไหนล่ะ" "อ๋อ" กินนาตอบ "อยู่ห่างจากนี่สักแปดสิบเส้นเห็นจะได้ แต่ฉันขอร้องอย่าได้คิดไปเลย มันมี
อันตรายมาก" พุทเสนไม่ตอบ แต่เขาก็ยังคงคิดถึงเรื่องสวนแห่งนี้
วันหนึ่งเมื่อนางกินนาไม่อยู่ พุทเสนก็ถือโอกาสตอนที่นางกินนาไม่อยู่นั้นไปที่สวนที่นางกินนาห้าม
ในสวนแห่งนั้นพุทเสนได้พบกระดูกมนุษย์ทับถมอยู่ในคูเกือบเต็ม พุทเสนนึกเดาเรื่องได้ตลอด นางกินนา
ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอย่างแน่นอน เขาเกิดความกลัวขึ้นมาจึงวิ่งกลับมาบ้านแล้วเข้าไปในห้องเปิดหีบหยิบ
มะนาววิเศษออกมา เขาไม่รีรอให้เสียเวลารีบวิ่งออกจากป่าไปทันที
หลังจากที่พุทเสนหนีไปได้ไม่นานเท่าไรนัก นางได้เข้าไปดูที่เก็บมะนาวไว้ พอรู้ว่ามะนาวหายก็นึกรู้
ได้ทันทีว่าพุทเสนรู้ความลับและหนีไปแล้ว นางจึงกลับกลายเป็นยักษ์ตามเดิมแล้วไล่ตามพุทเสนไป
ด้วยกําลังยักษ์ นางกินนาวิ่งตามเพียงพักเดียวก็แลเห็นหลังพุทเสนไว ๆ นางกินนาร้องเรียกให้พุทธ
เสนหยุดพูดกันก่อน แต่พุทเสนไม่ยอมฟังเสียง เมื่อเห็นนางกินนาใกล้เข้ามา พุทเสนก็ล้วงเอามะนาวในย่าม
ออกมาผลหนึ่งแล้วขว้างไปตรงหน้านางกินนา ทันใดนั้นก็เกิดเป็นกองไฟกองมหึมาลุกลามกั้นนางกินนาไว้
ได้ยินแต่เสียงนางกินนาร้องเรียกแต่มองไม่เห็นตัว เพราะเปลวไฟลุกโพลง
พุทเสนไม่รอช้าขณะที่ไฟกําลังลุกโชติช่วงอยู่นั้น เขาก็วิ่งหนีต่อไป แต่หนีไปไม่ได้ไกลเท่าไร ก็ได้ยิน
เสียงนางกินนาร้องเรียกใกล้เข้ามา นางกินนาได้ใช้เวทมนต์ดับไฟสามารถไล่ตามเขามาได้อีก พุทเสนเห็น
จวนตัวจึงหยิบมะนาวอีกผลหนึ่งออกมาจากย่ามแล้วขว้างไป คราวนี้เป็นทะเลสาบกว้างใหญ่มองแทบไม่เห็น
ฝั่ง
นางกินนาถึงจะเหนื่อยอ่อนแต่ก็ยัง ไม่ละความพยายามกระโจนลงน้ําว่ายข้ามทะเลสาบมาอย่างกล้า
หาญ เมื่อนางกินนามาถึงฝั่งตรงข้าม นางก็เหนื่อยอ่อนเต็มที นอนหลับอยู่ริมตลิ่งนั่นเอง นางไม่สามารถจะขยับเขยื้อนกายต่อไปได้อีก นางได้อ้อนวอนต่อสวรรค์ ขอให้ลงโทษต่อสามีที่ไม่ซื่อสัตย์ของนาง เมื่อนางอ้อน
วอนสิ้นสุดลงดวงตาของนางก็ปิดสนิทนางกินนาขาดใจตายเสียแล้ว
เมื่อพุทเสนแลเห็นนางกินนานอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนกายเช่นนั้นก็นึกว่านางคงจะเหนื่อย อ่อนกําลังไม่
สามารถจะทําอะไรเขาได้แล้ว นึก ๆ ไปพุทเสนก็เกิดสงสารนางกินนาขึ้นมา เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
นางกินนาได้เอาอกเอาใจเป็นอย่างดี นางกินนารักพุทเสนด้วยใจจริง เมื่อคิดถึงความหลังขึ้นมาอีก พุทเสนก็
ใจอ่อนเดินกลับไปหานางกินนาที่นอนอยู่ และพอรู้ว่านางกินนาขาดใจตายไปแล้ว พุทเสนก็ทรุดตัวลงข้าง ๆ
ร่างของนางกินนา พยายามพยาบาลจะให้นางฟื้นขึ้นมาอีก แต่ไม่สําเร็จพุทเสนเสียใจมาก เขาล้มฟุบลงบน
ร่างของนางกินนา และขาดใจตายตามไปอีกคนหนึ่ง
ร่างของนางกินนาและพุทเสน คงอยู่ริมแม่น้ําแห่งนั้น และเมื่อหลายร้อนปีผ่านไป ร่างของทั้งสองก็
กลายเป็นภูเขาสองลูก ซึ่งเรียกกันว่า ภูท้าว และ ภูนาง ยังคงมีอยู่ใกล้ ๆ กับหลวงพระบางในเวลานี้