Students needed to answer the quest

Students needed to answer the questions in order to explain the phenomenon and to plan the experiment.
Then, students were required to explain their conceptual and procedural knowledge. The results obtained were analyzed using descriptive statistics and inference. Consequently, frequencies and percentages were used to
obtain information. Part A and B of UTPKPP consist of 6 questions. Full score for each sub-question is 2. Total
full score is 40 and it is multiplied by the percent. As shown in Table 1, the score determines the level of problem
solving based on procedural and conceptual knowledge. The scoring scheme is based on the guideline provided
by the Ministry of Education.
To measure the correlation between A and B, SPSS 19.0 for Windows was used to combine both data in this
section. In addition, Pearson Correlation Test was used to determine the correlation between conceptual
knowledge and procedural knowledge which enabled students to solve problems. The first step was to determine
the hypothesis, the null hypothesis and alternative hypothesis. The next step was to set the level of significance
and value, determine value and critical areas, and finally did the interpretation. The value of Contingency
Coefficients in Table 2 was used to examine the relationship between problem solving based on conceptual and
procedural knowledge (Earnest, 1994).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักเรียนต้องตอบคำถาม เพื่ออธิบายปรากฏการณ์ และ การวางแผนการทดลอง แล้ว นักเรียนจำเป็นต้องอธิบายความรู้แนวคิด และขั้นตอนการ ผลได้รับถูกวิเคราะห์โดยใช้สถิติพรรณนาและข้อ ดังนั้น ความถี่และเปอร์เซ็นต์เคยใช้ได้รับข้อมูล ส่วน A และ B UTPKPP ประกอบด้วยคำถาม 6 คะแนนเต็มสำหรับแต่ละคำถามย่อยเป็น 2 ผลรวมคะแนนเต็ม 40 และจะถูกคูณ ด้วยเปอร์เซ็นต์ ดังแสดงในตารางที่ 1 การให้คะแนนกำหนดระดับของปัญหาแก้ตามขั้นตอน และแนวคิดความรู้ แผนงานการให้คะแนนตามหลักเกณฑ์การให้ด้วยกระทรวงศึกษาธิการ การวัดความสัมพันธ์ระหว่าง A และ B, 19.0 โปรแกรมสำหรับ Windows ใช้ในการรวมข้อมูลทั้งนี้ ส่วนการ นอกจากนี้ ทดสอบสหสัมพันธ์ของเพียร์สันถูกใช้เพื่อกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างแนวคิดความรู้และความรู้ขั้นตอนซึ่งนักเรียนในการแก้ปัญหาการเปิดใช้งาน ขั้นตอนแรกคือการ กำหนดทฤษฏี สมมติฐานว่าง และสมมติฐานทางเลือก ขั้นตอนต่อไปคือการ กำหนดระดับของความสำคัญค่า กำหนดค่าและพื้นที่ที่สำคัญ และสุดท้าย ได้ตีความ ค่าของฉุกเฉินใช้ค่าสัมประสิทธิ์ในตารางที่ 2 การตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการแก้ปัญหาตามแนวคิด และขั้นตอนความรู้ (เอาจริงเอาจัง 1994)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักเรียนที่จำเป็นในการตอบคำถามเพื่อที่จะอธิบายปรากฏการณ์และการวางแผนการทดลอง.
จากนั้นนักเรียนจะต้องอธิบายความรู้แนวคิดและขั้นตอนของพวกเขา ผลที่ได้มาวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและการอนุมาน ดังนั้นความถี่และร้อยละถูกนำมาใช้เพื่อ
ให้ได้ข้อมูล ส่วน A และ B ของ UTPKPP ประกอบด้วย 6 คำถามที่ คะแนนเต็มสำหรับแต่ละย่อยคำถามคือ 2. รวม
คะแนนเต็ม 40 และจะมีการคูณด้วยร้อยละ ดังแสดงในตารางที่ 1 คะแนนกำหนดระดับของปัญหาที่
แก้อยู่บนพื้นฐานของความรู้ขั้นตอนและแนวคิด รูปแบบการให้คะแนนจะขึ้นอยู่กับแนวทางที่ให้ไว้
โดยกระทรวงศึกษาธิการ.
การวัดความสัมพันธ์ระหว่าง A และ B, SPSS 19.0 สำหรับ Windows ถูกใช้ในการรวมข้อมูลทั้งใน
ส่วน นอกจากนี้การทดสอบความสัมพันธ์เพียร์สันถูกใช้ในการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างความคิด
ความรู้และความรู้ในการดำเนินการซึ่งทำให้นักเรียนในการแก้ปัญหา ขั้นตอนแรกคือการกำหนด
สมมติฐานสมมติฐานและสมมติฐานทางเลือก ขั้นตอนต่อไปคือการกำหนดระดับนัยสำคัญ
และความคุ้มค่าในการกำหนดมูลค่าและพื้นที่ที่สำคัญและในที่สุดก็ไม่ได้แปลความหมาย ค่าของฉุกเฉิน
สัมประสิทธิ์ในตารางที่ 2 ถูกใช้ในการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการแก้ปัญหาบนพื้นฐานของความคิดและ
ความรู้ในการดำเนินการ (อย่างจริงจัง, 1994)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักเรียนต้องตอบคําถามเพื่ออธิบายปรากฏการณ์และการวางแผนการทดลอง
จากนั้นนักเรียนต้องอธิบายแนวคิดและความรู้ของกระบวนการ . ผลลัพธ์ที่ได้นำมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงบรรยายและสถิติอนุมาน ดังนั้น ความถี่ ร้อยละและค่าเฉลี่ย ใช้

ขอรับข้อมูล ส่วน A และ B ของ utpkpp ประกอบด้วย 6 คำถามคะแนนเต็มรูปแบบสำหรับแต่ละคำถามย่อยเป็น 2 คะแนนเต็มทั้งหมด
40 และก็คูณด้วยร้อยละ ดังแสดงในตารางที่ 1 คะแนนจะกำหนดระดับของการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอน
แนวคิดและความรู้ คะแนนนี้จะยึดตามแนวทางให้
โดยกระทรวงศึกษาธิการ
วัดความสัมพันธ์ระหว่าง A และ B , SPSS 190 สำหรับ Windows คือใช้ในการรวมข้อมูลในส่วนนี้

นอกจากนี้ การทดสอบสหสัมพันธ์เพียร์สันศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง ความรู้ ความคิด และความรู้ ซึ่งทำให้กระบวนการ
นักเรียนเพื่อแก้ไขปัญหา ขั้นตอนแรกคือการตรวจสอบ
สมมติฐาน , สมมติฐานโมฆะและสมมติฐานทางเลือก ขั้นตอนต่อไปคือการกำหนดระดับความสำคัญ
และค่าตรวจสอบค่าและพื้นที่วิกฤต และในที่สุดก็มีการตีความ ค่าของสัมประสิทธิ์การจรณ์
ในรางที่ 2 ถูกใช้เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง การแก้ไขปัญหาบนพื้นฐานของแนวคิดและ
ความรู้เชิงกระบวนการ ( จริงจัง , 1994 )