Spatial information on soils genera

Spatial information on soils generally results from local observations that are destructive and time consuming especially
in the case of heterogeneous soils. Geophysical technics can be a great help for soil mapping since they
are non-destructive and fast. Large areas can be surveyed with a high density of measurements. Electrical resistivity
is particularly interesting for soil study because it covers a wide range of values (several decades) and depends
on many characteristics of the soil.
The main objective of this paper was to study soil spatial variability using an original approach to electrical data
processing. Electrical data from a 3-depth survey, usually treated as three apparent resistivity maps, were considered
as many electrical soundings each with three apparent resistivity values. The study of the vertical succession
of these values led to define nine reference geophysical taxa. This taxonomy relies on a parameter (α) which discriminates
soil layers and is defined as the interval (in Ω m) beyond which two successive apparent resistivity
values on a sounding are considered different. Geophysical taxa mapping highlighted their spatial coherence,
which was related to pedological characteristics such as the presence of a clay layer or the depth of the soil profile.
The comparison between the spatial distribution of geophysical taxa and a pre-existing soil map showed that the
delineations of taxa clusters closely matched soil unit boundaries but were much less smooth. This method
allowed the assignment to each soil type of a specific apparent electrical resistivity profile which was consistent
with soil profile description. The method is straightly applicable to data from other surveys, and opens the way to
the development of semi-automatic soil mapping from electrical resistivity data.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อมูลปริภูมิในดินเนื้อปูนโดยทั่วไปผลจากการสังเกตการณ์ภายในที่จะทำลาย และใช้เวลานานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของดินเนื้อปูนแตกต่างกัน เพาธรณีสามารถช่วยสำหรับการแม็ปดินตั้งแต่พวกเขาได้อย่างรวดเร็ว และไม่ทำลาย พื้นที่ขนาดใหญ่สามารถสำรวจได้ ด้วยความหนาแน่นสูงวัด ความต้านทานไฟฟ้าเป็นที่น่าสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งศึกษาดินเนื่องจากครอบคลุมค่า (หลายทศวรรษที่ผ่านมา) และขึ้นอยู่ลักษณะต่าง ๆ ของดินวัตถุประสงค์หลักของเอกสารนี้คือการ ศึกษาสำหรับความผันผวนพื้นที่ดินโดยใช้วิธีการเดิมข้อมูลไฟฟ้าการประมวลผล ไฟฟ้าข้อมูลจากการสำรวจความลึก 3 มักจะเป็นสามแผนที่ชัดเจนความต้านทาน ได้ถือมากไฟฟ้า soundings ละ มีค่าความต้านทานที่ชัดเจน 3 การศึกษาการสืบทอดตำแหน่งแนวตั้งค่าเหล่านี้นำไปสู่กำหนด taxa ธรณีอ้างอิงเก้า ระบบนี้อาศัยพารามิเตอร์(ด้วยกองทัพ) ที่ discriminatesชั้นของดิน และถูกกำหนดให้เป็นช่วง (Ω m) เกินกว่าที่ความต้านทานชัดเจนต่อเนื่องสองค่าในหูที่จะถือว่าแตกต่างกัน การแม็ป taxa ธรณีเน้นศักยภาพของพื้นที่ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับลักษณะ pedological เช่นสถานะของดินชั้นความลึกของดินโพรไฟล์เปรียบเทียบการกระจายของ taxa ธรณีและแผนที่ดินที่มีอยู่ก่อนชี้ให้เห็นว่าการdelineations ของคลัสเตอร์ taxa ตรงขอบเขตหน่วยดินอย่างใกล้ชิด แต่ก็ราบรื่นมากน้อย วิธีการนี้อนุญาตการกำหนดแต่ละประเภทดินค่าความต้านทานไฟฟ้าปรากฏเฉพาะที่สอดคล้องกันมีคำอธิบายส่วนกำหนดค่าดิน วิธี straightly ใช้ข้อมูลจากแบบสำรวจอื่น ๆ และวิธีการเปิดการพัฒนาแผนที่ดินกึ่งอัตโนมัติจากข้อมูลความต้านทานไฟฟ้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อมูลเชิงพื้นที่ในดินโดยทั่วไปเป็นผลมาจากการสังเกตในท้องถิ่นที่เป็นอันตรายและใช้เวลานานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของดินที่ต่างกัน
เทคนิคฟิสิกส์อาจจะเป็นความช่วยเหลือที่ดีสำหรับการทำแผนที่ดินตั้งแต่พวกเขาจะไม่ทำลายและรวดเร็ว พื้นที่ขนาดใหญ่สามารถสำรวจที่มีความหนาแน่นสูงของการวัด ความต้านทานไฟฟ้าเป็นที่น่าสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการศึกษาดินเพราะมันครอบคลุมหลากหลายของค่า (หลายสิบปี) และขึ้นอยู่ในหลายลักษณะของดิน. วัตถุประสงค์หลักของการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความแปรปรวนของดินเชิงพื้นที่โดยใช้วิธีการเดิมข้อมูลไฟฟ้าการประมวลผล ข้อมูลไฟฟ้าจากการสำรวจ 3 เชิงลึกได้รับการรักษามักจะเป็นสามแผนที่ต้านทานชัดเจนได้รับการพิจารณาเป็นหยั่งไฟฟ้ามากแต่ละคนมีสามค่าความต้านทานที่เห็นได้ชัด การศึกษาต่อเนื่องแนวตั้งค่าเหล่านี้นำไปสู่การกำหนดเก้าแท็กซ่าอ้างอิงทางธรณีฟิสิกส์ อนุกรมวิธานนี้อยู่บนพื้นฐานพารามิเตอร์ (α) ซึ่งเลือกปฏิบัติชั้นดินและถูกกำหนดให้เป็นช่วงเวลา(ในΩเมตร) เกินกว่าที่สองความต้านทานที่ชัดเจนต่อเนื่องค่าในการทำให้เกิดเสียงที่มีการพิจารณาที่แตกต่างกัน การทำแผนที่แท็กซ่าฟิสิกส์เน้นการเชื่อมโยงเชิงพื้นที่ของพวกเขาซึ่งได้รับการที่เกี่ยวข้องกับการ pedological ลักษณะเช่นการปรากฏตัวของชั้นดินเหนียวหรือความลึกของรายละเอียดดิน. การเปรียบเทียบระหว่างการกระจายแท็กซ่าธรณีฟิสิกส์และแผนที่ดินที่มีอยู่ก่อนแสดงให้เห็นว่าdelineations กลุ่มแท็กซ่าจับคู่อย่างใกล้ชิดขอบเขตหน่วยดิน แต่น้อยมากที่ราบรื่น วิธีการนี้ได้รับอนุญาตที่ได้รับมอบหมายในแต่ละชนิดของดินของรายละเอียดความต้านทานไฟฟ้าที่เฉพาะเจาะจงชัดเจนซึ่งสอดคล้องกับคำอธิบายรายละเอียดของดิน วิธีการคือดิ่วที่ใช้บังคับกับข้อมูลจากการสำรวจอื่น ๆ และจะเปิดทางไปสู่การพัฒนาของการทำแผนที่ดินกึ่งอัตโนมัติจากข้อมูลความต้านทานไฟฟ้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลเชิงพื้นที่ข้อมูลบนดินโดยทั่วไปจากการสังเกตท้องถิ่นที่ถูกทําลาย การบริโภคโดยเฉพาะ
ในกรณีของดินที่แตกต่างกันและเวลา เทคนิคฟิสิกส์สามารถช่วยที่ดีสำหรับการทำแผนที่ดินตั้งแต่พวกเขา
เป็นแบบไม่ทำลายและรวดเร็ว พื้นที่ขนาดใหญ่สามารถสำรวจที่มีความหนาแน่นสูงของการวัด ความต้านทานไฟฟ้า
ที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับการศึกษาดินเพราะมันครอบคลุมช่วงกว้างของค่า ( หลายสิบปี ) และขึ้นอยู่กับลักษณะของดินมากมาย
.
วัตถุประสงค์หลักของงานวิจัยนี้ เพื่อศึกษาความแปรปรวนของดินเชิงพื้นที่จะใช้วิธีการเดิมเพื่อการประมวลผลข้อมูล
ไฟฟ้า ข้อมูลไฟฟ้าจาก 3-depth การสำรวจ ถือว่าเป็นสามแผนที่ความต้านทานชัดเจนมีการพิจารณา
กไฟฟ้าเครื่องวัดความลึกแต่ละคนมีสามความต้านทานชัดเจนค่า การศึกษาแนวสันตติวงศ์
ค่าเหล่านี้นำไปสู่การกำหนดเก้าอ้างอิงฟิสิกส์ซ่า . อนุกรมวิธานนี้อาศัยพารามิเตอร์ ( α ) ซึ่งไม่ยอมรับ
ชั้นดิน และ หมายถึง ช่วงเวลา ( ในΩ M ) เกินกว่าที่ 2 ต่อเนื่องชัดเจนความต้านทานไฟฟ้า
ค่าเสียงมีการพิจารณาที่แตกต่างกันธรณีฟิสิกส์และแผนที่เน้นการเชิงพื้นที่ของพวกเขา
ที่เกี่ยวข้องกับลักษณะ pedological เช่นสถานะของดินชั้นหรือความลึกของดิน .
เปรียบเทียบและการกระจายเชิงพื้นที่ของทางธรณีฟิสิกส์และแผนที่ดินแล้ว พบว่าในกลุ่มอย่างใกล้ชิด
อธิบายและจับคู่ดินหน่วยขอบเขตแต่ราบรื่น น้อยมาก .วิธีนี้
อนุญาตให้ดินแต่ละประเภทที่เฉพาะเจาะจงชัดเจนความต้านทานไฟฟ้าโปรไฟล์ซึ่งสอดคล้องกับคำอธิบาย
โปรไฟล์ดิน โดยตรงใช้ได้กับข้อมูลจากการสำรวจอื่น ๆ และเปิดทางให้
การพัฒนาแผนที่ดินกึ่งอัตโนมัติจากข้อมูลสภาพต้านทานไฟฟ้า