The transformation of grazing lawns

The transformation of grazing lawns into alternative ecosystem states can result from either too-infrequent or too-frequent grazer utilisation of a lawn. Grazing lawns that are used too infrequently are vulnerable to being shaded out following invasion by tall-grass species or a switch to upright growth forms by facultative lawn species (Belsky, 1992). The duration of the absence of grazing that is necessary for this transformation to occur should be shorter in areas with higher rainfall or soil nutrient levels, and in lawns with a greater percentage cover of facultative lawn species (see Section II). Exceptionally heavy grazing and trampling may also be detrimental to grazing lawns, although it is not yet clear what warning indicators should be recognised under different environmental conditions or for different lawn communities. An increase in the area of bare earth in a grazing lawn patch, if it persists, may lead to loss of the soil A-horizon by run-off and wind erosion (Kelly & Walker, 1976; van de Koppel, Rietkerk & Weissing, 1997). Soil compaction can result in reduced water infiltration and soil aeration, with consequences for soil biota and the cycling of nutrients in these systems (Schrama et al., 2013b). Further research is required to ascertain how resilient different grazing lawn systems are to frequent grazing, and to provide warning indicators (e.g. a shift from obligate to facultative lawn species, development of biological soil crusts) of degradation risk to managers.

Frequent grazing that leads to a predominance of annual or wire-grass species (e.g. Aristida sp.), rather than grazing lawn species, would also be considered as degradation of the grassland, in the sense that it is less supportive of herbivores (e.g. Kelly & Walker, 1976). However, the conditions under which Aristida species are favoured, as opposed to grazing lawn species, are not well understood. In communal rangelands on sandy soils adjacent to the Kruger National Park, South Africa, two species of Aristida increased in plots that were lightly grazed by cattle, while Digitaria eriantha (a stoloniferous, facultative grazing lawn species) increased in heavily grazed plots, with each showing little change in cover under the alternate treatment over a 3-year period (O'Connor, 1991). However, a subsequent drought led to a predominance of Aristida in both of these treatments, but not at a comparative site 10 km away that had experienced lower grazing pressures over the 20 years preceding the study (O'Connor, 1995). Rainfall patterns, in particular drought frequency, and the history of grazing at a site, thus appear to influence the potential for a switch to an Aristida-dominated sward. Soil nutrient status may further modify the impact of grazing pressure, with high stocking rates appearing to favour Aristida species more on sandy, nutrient-poor soils than on finer-textured, higher nutrient soils in both the Transkei (Owen-Smith & Danckwerts, 1997) and Swaziland (Tefera, Dlamini & Dlamini, 2010). However, our understanding of the conditions under which heavy grazing leads to the invasion of unpalatable, unproductive grasses such as Aristida sp., and when it leads to the formation of grazing lawns, remains limited.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การเปลี่ยนแปลงของเล็มหญ้าสนามหญ้าเป็นระบบนิเวศทางเลือกอเมริกาเป็นผลมาจากใช้ grazer ไม่บ่อย นักเกินไป หรือ บ่อยเกินไปทั้งสนามหญ้า สนามหญ้าทุ่งที่ใช้เกินไปนาน ๆ ครั้งมีความเสี่ยงที่จะเป็นร่มเงาต่อบุกสายพันธุ์หญ้าสูงหรือสลับไปยังรูปแบบเติบโตตั้งตรงพันธุ์หญ้า facultative (Belsky, 1992) ระยะเวลาของการขาดการเล็มหญ้าที่จำเป็นสำหรับการแปลงนี้จะเกิดขึ้นควรจะสั้นกว่า ในพื้นที่ที่ปริมาณน้ำฝนสูงขึ้นหรือระดับสารอาหารของดิน และ ในสนามหญ้ามีหน้าปกเปอร์เซ็นต์มากกว่าพันธุ์หญ้า facultative (ดูส่วนที่สอง) หนักเป็นพิเศษเล็มหญ้า และทาสอาจจะอันตรายต่อสนามหญ้า เล็มหญ้าแม้จะไม่ได้ ล้างอะไรเตือนควรรับรู้ภาย ใต้สภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน หรือ สำหรับชุมชนสนามหญ้าที่แตกต่างกัน การเพิ่มขึ้นในพื้นที่ของโลกเปลือยในแพทช์สนามหญ้าทุ่ง ถ้ามันยังคงอยู่ อาจทำให้สูญเสียของดิน A-horizon โดยทิ้งและลมกัดเซาะ (ชาย Walker, 1976; van de Koppel, Rietkerk & Weissing, 1997) การบดอัดดินจะส่งผลในการแทรกซึมน้ำลดลง และ อากาศดิน มีผลกระทบสำหรับหน้าดิน และการขี่จักรยานของสารอาหารในระบบเหล่านี้ (Schrama et al. 2013b) จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจยืดหยุ่นวิธีต่าง ๆ ทุ่งหญ้า มีระบบบ่อยเล็มหญ้า และ เพื่อให้เตือน (เช่นการเปลี่ยนจาก obligate ไปสนามหญ้า facultative พันธุ์ พัฒนาคราดดินชีวภาพ) ของการลดความเสี่ยงผู้จัดการเล็มหญ้าบ่อยที่นำไปสู่ความเด่นของปีหรือหญ้าสายพันธุ์ (เช่น Aristida sp.), แทนที่จะแทะเล็มหญ้าพันธุ์ จะยังถือว่าเป็นการเสื่อมสภาพของทุ่งหญ้า ในแง่ที่ว่า มันเป็นสัตว์กินพืช (เช่นชาย & Walker, 1976) สนับสนุนน้อย อย่างไรก็ตาม มีเงื่อนไขภายใต้ Aristida ซึ่งสายพันธุ์ที่เป็นที่โปรดปราน ตรงข้ามกับพันธุ์หญ้า เล็มหญ้าอยู่ไม่เข้าใจดี ในส่วนกลาง rangelands บนดินทรายที่ติดไปกับครูเกอร์อุทยาน แอฟริกาใต้ สองพันธุ์ Aristida เพิ่มในแปลงที่ถูกเบา ๆ ถลอกเกิด โดยวัว ในขณะที่หญ้า eriantha (stoloniferous, facultative ทุ่งหญ้าสายพันธุ์) เพิ่มขึ้นในแปลงสัตว์เล็มหญ้าอย่างหนัก มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแต่ละแสดงในใต้การรักษาแบบอื่นเป็นระยะ 3 ปี (บุก 1991) อย่างไรก็ตาม ภัยแล้งต่อมานำไปสู่ความเด่นของ Aristida ในทั้ง การรักษาเหล่านี้ แต่ไม่ได้อยู่ ที่เว็บไซต์เปรียบเทียบ 10 กิโลเมตรที่มีแรงดันต่ำทุ่งประสบการณ์ 20 ปีก่อนหน้า (บุก 1995) การศึกษา ลายฝน ภัยแล้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งความถี่ และประวัติศาสตร์ของการแทะเล็มที่ไซต์ จึงมีอิทธิพลต่อศักยภาพในการสลับไปยังการครอบงำ Aristida sward ดินธาตุอาหารสถานะอาจปรับเปลี่ยนผลกระทบของการแทะเล็มความดัน ราคาถุงสูงปรากฏโปรดปราน Aristida พันธุ์ เพิ่มเติมในดินทราย สารอาหารต่ำกว่าบนพื้น ผิวละเอียด สูงสารอาหารดินทั้งทรานสไก (โอเว่น-สมิธ & Danckwerts, 1997) และราชอาณาจักรสวาซิแลนด์ (Tefera องเลิศ & องเลิศ 2010) อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจเงื่อนไขภายใต้หนักซึ่งนำไปสู่การบุกรุกของปร่า ก่อผลหญ้า เช่น sp. Aristida และ เมื่อจะนำไปสู่การก่อตัวของเล็มหญ้าสนามหญ้า เล็มหญ้ายังคงจำกัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเปลี่ยนแปลงของสนามหญ้าทุ่งเลี้ยงสัตว์เป็นรัฐระบบนิเวศทางเลือกที่สามารถเป็นผลมาจากทั้งเกินไปไม่บ่อยเกินไปหรือบ่อยการใช้ประโยชน์หญ้าของสนามหญ้า สนามหญ้าทุ่งเลี้ยงสัตว์ที่ใช้บ่อยเกินไปมีความเสี่ยงที่จะถูกสีเทาออกหลังการรุกรานโดยสายพันธุ์ที่สูงหญ้าหรือเปลี่ยนไปใช้รูปแบบการเจริญเติบโตตรงไปตามสายพันธุ์หญ้าตามอำเภอใจ (Belsky 1992 บริการ) ระยะเวลาของการขาดหายไปของทุ่งเลี้ยงสัตว์ที่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเกิดขึ้นควรจะสั้นลงในพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำฝนสูงกว่าหรือระดับสารอาหารในดินและในสนามหญ้าที่มีฝาครอบเปอร์เซ็นต์ของสายพันธุ์หญ้าตามอำเภอใจ (ดูมาตรา II) แทะเล็มหนักเป็นพิเศษและเหยียบย่ำก็อาจจะเป็นอันตรายกับสนามหญ้าปศุสัตว์แม้ว่ามันจะยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าตัวชี้วัดคำเตือนควรจะได้รับการยอมรับภายใต้สภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันหรือชุมชนสนามหญ้าที่แตกต่างกัน การเพิ่มขึ้นในพื้นที่ของแผ่นดินเปลือยในแพทช์หญ้าทุ่งเลี้ยงสัตว์ถ้ามันยังคงมีอยู่อาจนำไปสู่การสูญเสียดินขอบฟ้าโดยวิ่งออกและการพังทลายลม (เคลลี่และวอล์คเกอร์ 1976; แวนเดอปเพล, Rietkerk & Weissing, 1997) การบดอัดดินได้ผลในการลดการแทรกซึมของน้ำและการให้อากาศในดินที่มีผลกระทบสำหรับสิ่งมีชีวิตในดินและการขี่จักรยานของสารอาหารในระบบเหล่านี้ (Schrama et al., 2013b) นอกจากนี้การวิจัยจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีความยืดหยุ่นระบบแทะเล็มหญ้าที่แตกต่างกันไปทุ่งเลี้ยงสัตว์ที่พบบ่อยและเพื่อให้สัญญาณเตือน (เช่นเปลี่ยนจากหนี้บุญสายพันธุ์หญ้าตามอำเภอใจพัฒนาของเปลือกดินทางชีวภาพ) ของความเสี่ยงการย่อยสลายให้กับผู้จัดการ.

ทุ่งเลี้ยงสัตว์บ่อยครั้งที่จะนำไปสู่ เด่นของสายพันธุ์ประจำปีหรือลวดหญ้า (เช่น Aristida Sp.) มากกว่าเล็มหญ้าสายพันธุ์หญ้าก็จะได้รับการพิจารณาเป็นการย่อยสลายของทุ่งหญ้าในแง่ที่ว่ามันมีค่าน้อยสนับสนุนของสัตว์กินพืช (เช่นเคลลี่และวอล์คเกอร์, 1976) . แต่ภายใต้เงื่อนไขที่ Aristida ชนิดเป็นที่ชื่นชอบเมื่อเทียบกับสายพันธุ์แทะเล็มหญ้า, ไม่เข้าใจดี ใน rangelands ชุมชนบนดินทรายที่อยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติ Kruger, แอฟริกาใต้, สองสายพันธุ์ของ Aristida เพิ่มขึ้นในแปลงที่ถูกเล็มหญ้าเบา ๆ โดยวัวขณะ Digitaria eriantha (ก stoloniferous, ตามอำเภอใจชนิดแทะเล็มหญ้า) เพิ่มขึ้นในอย่างหนักเล็มหญ้าแปลงด้วยกัน แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการปกภายใต้การรักษาทางเลือกในช่วงระยะเวลา 3 ปี (โอคอนเนอร์, 1991) แต่ภัยแล้งที่ตามมาจะนำไปสู่ความเด่นของ Aristida ทั้งในส่วนของการรักษาเหล่านี้ แต่ไม่ได้อยู่ที่เว็บไซต์เปรียบเทียบ 10 กิโลเมตรห่างที่เคยมีประสบการณ์แรงกดดันแทะเล็มต่ำกว่า 20 ปีก่อนหน้านี้การศึกษา (โอคอนเนอร์, 1995) รูปแบบปริมาณน้ำฝนในความถี่ภัยแล้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งและประวัติศาสตร์ของทุ่งเลี้ยงสัตว์ที่เว็บไซต์จึงปรากฏว่ามีผลต่อศักยภาพในการเปลี่ยนไปใช้สนามหญ้า Aristida-ครอบงำ สถานะดินสารอาหารเพิ่มเติมอาจแก้ไขผลกระทบของความดันทุ่งเลี้ยงสัตว์ที่มีอัตราการปล่อยสูงปรากฏเพื่อให้ประโยชน์แก่ Aristida สายพันธุ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับทรายดินสารอาหารที่ยากจนกว่าปลีกย่อยพื้นผิวดินสารอาหารที่สูงขึ้นทั้งในทรานสไก (โอเว่นสมิ ธ & Danckwerts 1997 ) และสวาซิแลนด์ (Tefera, พระมหาธรรมราชาและพระมหาธรรมราชา, 2010) แต่ความเข้าใจในเงื่อนไขของเราภายใต้ซึ่งแทะเล็มหนักจะนำไปสู่การรุกรานของอร่อยหญ้าอุดมสมบูรณ์เช่น Aristida sp. และเมื่อมันนำไปสู่การก่อตัวของสนามหญ้าปศุสัตว์ยังคง จำกัด