The transformation of the shrimp in

The transformation of the shrimp industry from one based on
wild harvest from the oceans to intensified culture in coastal
ponds has involved changes at multiple levels affecting many
different actors (Fig. 1). In this paper we focused on what drove
a switch from one species to another and the consequences
this had for the environment and farmers (Fig. 4). The systems
innovation approach helped clarify several issues hinted at in
earlier studies about the shrimp aquaculture industry.
The substitution of the native black tiger shrimp niche by
the exotic white shrimp niche was triggered by problems with
disease management within the Thai regime and an increasingly
competitive global landscape concerned with environmental
impacts and consumer health (Fig. 4). Support from a
key vertically integrated major firm, an extensive foundation
of learning networks within the industry, and early profitability
accelerated the scaling-up and embedding of the
experiment with white shrimp once the formal ban on import
of exotic brood-stock was lifted.
Recent studies suggest that the interactions between
niches, regimes and landscapes may be more complex than
the hierarchical emphasis implied in the original presentations
of the framework (Geels and Schot, 2007; Smith, 2007).
Landscapes and regimes for example may shape what types of
niche emerge. The socio-technical regime for producing
shrimp in Thailand involving quasi-public research institutions
and a single large firm for more than a decade focused on
producing better black tiger shrimp (Lebel et al., 2009). The
niches explored within Thailand were constrained by the
successful, incumbent, socio-technical regime. It took a
combination of factors at different levels to bring about an
opportunity for another niche based on white shrimp to be
explored—albeit at first, illegally. Disturbances to the regime
within Thailand in the form of disease outbreaks and declining
growth of wild capture shrimp interacted with landscape
variables, like increasing competitiveness of alternative
suppliers, and the availability of an alternative technological
niche that could rapidly be adapted for Thai conditions (Fig. 4).
The switch in species had significant consequences for the
environment, industry structure and consumers. Using life
cycle analysis we found that rearing white shrimp requires
fewer resources and produces less waste than black shrimp
(Tables 1 and 2). The differences are substantial: rearing black
shrimp uses 9 times as much land and 3 times the volume of
water as white shrimp. Moreover white shrimp feed formulae
require less fish meal reducing impacts on ocean-catches and
overall the production is more efficient at converting feed into
shrimp meat. On the other hand white shrimp are exotic and
the consequences of escapes of white shrimp on natural
biodiversity, for example, through spread of diseases to native
species are not yet well understood. The shift in regime made
it more difficult for small farms and hatchery businesses, but
helped reduce prices for consumers. Standards, best practice
guidelines and certification schemes were part of the
aggregation process that favoured white over black shrimp
Fig. 4

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมกุ้งจาก
ป่าเก็บเกี่ยวจากมหาสมุทรที่วัฒนธรรม intensified ในฝั่ง
บ่อได้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อหลายระดับหลาย
นักแสดงแตกต่างกัน (Fig. 1) ในเอกสารนี้ เราเน้นขับรถอะไร
สลับจากชนิดหนึ่งไปยังอีกและผล
นี้มีสภาพแวดล้อมและเกษตรกร (Fig. 4) ระบบ
วิธีการนวัตกรรมช่วยชี้แจงปัญหาหลาย hinted ที่ใน
ก่อนหน้านี้ศึกษาเกี่ยวกับการกุ้งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอุตสาหกรรมการ
แทนของกุ้งกุลาดำพื้นเมืองนิชโดย
เฉพาะกุ้งขาวแปลกใหม่ถูกทริกเกอร์ โดยปัญหา
จัดการโรคภายในระบอบการปกครองไทยและมากขึ้น
แข่งสากลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม
ผลกระทบและสุขภาพของผู้บริโภค (Fig. 4) สนับสนุนจากเป็น
บริษัทหลักแนวตั้งแบบรวมคีย์ มีรากฐานกว้างขวาง
เรียนเครือข่ายภายในอุตสาหกรรม และผลกำไรต้น
เร่งการปรับค่าและการฝังตัวของ
ทดลองกับกุ้งขาวครั้งห้ามนำเข้าอย่างเป็นทาง
แปลกใหม่คอกสต็อกถูกยกได้
การศึกษาล่าสุดแนะนำที่การโต้ตอบระหว่าง
ตรงไหน ระบอบ และภูมิประเทศที่อาจจะซับซ้อนกว่า
เน้นลำดับนัยในงานนำเสนอเดิม
ของกรอบ (Geels และ Schot, 2007 สมิธ 2007) .
ภูมิประเทศและระบอบเช่นอาจรูปร่างชนิดใด
เกิดโพรงได้ ระบอบสังคมเทคนิคการผลิต
กุ้งในประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิจัยกึ่งสาธารณะ
และบริษัทขนาดใหญ่ที่เดียวสำหรับกว่าทศวรรษบน
ผลิตกุ้งกุลาดำดี (Lebel et al., 2009)
ตรงไหนที่สำรวจในประเทศไทยถูกจำกัดโดยการ
สำเร็จ incumbent เทคนิคสังคมระบอบการ ใช้เป็น
ชุดปัจจัยในระดับต่าง ๆ ก่อให้เกิดการ
โอกาสช่องอื่นตามที่กุ้งขาวต้อง
explored — แม้ว่าในตอนแรก ผิดกฎหมาย รบกวนกับระบบการปกครอง
ในประเทศไทยในรูปแบบของการแพร่ระบาดของโรคและลดลง
อาจเจริญเติบโตของกุ้งจับป่ากับแนว
ตัวแปร เช่นการเพิ่มขึ้นของทางเลือก
ซัพพลายเออร์ และความพร้อมของเทคโนโลยีทาง
โพรงที่รวดเร็วอาจดัดแปลงในไทยเงื่อนไข (Fig. 4) .
สลับในสายพันธุ์มีผลสำคัญสำหรับ
สิ่งแวดล้อม โครงสร้างอุตสาหกรรมและผู้บริโภค ใช้ชีวิต
ต้องการวิเคราะห์วงจรที่เราพบกุ้งที่แม่สีขาว
ทรัพยากรน้อยลงและผลิตน้อยกว่าเสียกว่ากุ้งดำ
(ตารางที่ 1 และ 2) ความแตกต่างพบ: แม่ดำ
กุ้งใช้ที่ดิน 9 ครั้งเท่าและ 3 ครั้งเสียงของ
น้ำเป็นกุ้งขาว นอกจาก กุ้งขาวเลี้ยงสูตร
ต้องการอาหารน้อยกว่าปลาที่ลดผลกระทบในทางมหาสมุทรจับ และ
โดยรวม การผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้นที่แปลงอาหารเป็น
กุ้งเนื้อ ใน กุ้งขาวแปลกใหม่ และ
ผลของ escapes ของกุ้งขาวในธรรมชาติ
ความหลากหลายทางชีวภาพ ตัวอย่าง ผ่านการแพร่กระจายของโรคสู่พื้น
สปีชีส์จะไม่ได้ดีเข้าใจ กะในระบอบการปกครองทำ
มันยากสำหรับฟาร์มขนาดเล็กและธุรกิจโรงเพาะ แต่
ช่วยลดราคาสำหรับผู้บริโภค มาตรฐาน ดีที่สุด
แนวทางและแผนงานการรับรองได้เป็นส่วนหนึ่งของการ
กระบวนการรวมที่ favoured ขาวมากกว่าดำกุ้ง
Fig. 4

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมกุ้งจากหนึ่งขึ้นอยู่กับ
ป่าเก็บเกี่ยวจากมหาสมุทรไปเพาะในบ่อ ( ชายฝั่ง
มีส่วนเกี่ยวข้องการเปลี่ยนแปลงในระดับต่างๆต่อนักแสดงที่แตกต่างกันมาก
( รูปที่ 1 ) ในกระดาษนี้เราเน้นสิ่งที่ทำให้การเปลี่ยนจากชนิดหนึ่งไปยังอีกและผล
นี้มีสภาพแวดล้อมและเกษตรกร ( รูปที่ 4 ) ระบบ
วิธีการนวัตกรรมช่วยชี้แจงหลายประเด็นที่ hinted ที่ใน
การศึกษาก่อนหน้านี้เกี่ยวกับกุ้ง อุตสาหกรรม .
ทดแทนพื้นเมืองกุ้งกุลาดำโพรงโดย
โพรงกุ้งขาวที่แปลกใหม่ถูกทริกเกอร์ โดยปัญหากับการจัดการโรคในระบบการปกครองไทยและสากลแข่งขันมากขึ้น
ภูมิทัศน์ เกี่ยวข้องกับ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้บริโภค ( รูป
4 )การสนับสนุนจาก
คีย์แบบบูรณาการในแนวตั้งหลักที่ บริษัท ที่ครอบคลุมพื้นฐาน
ของเครือข่ายการเรียนรู้ภายในอุตสาหกรรม และเร็ว อัตราเร่งปรับขึ้น

และ การฝังตัวของการทดลองกุ้งขาวเมื่อบ้านอย่างเป็นทางการในการนำเข้าใหม่ หุ้นถูกยกกก
.
การศึกษาล่าสุดชี้ให้เห็นว่าปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
niches ระบอบและทัศนียภาพที่อาจจะซับซ้อนมากขึ้นกว่า
เน้นการวิเคราะห์โดยนัยในต้นฉบับเสนอ
ของกรอบ ( และ geels schot , 2007 ; Smith , 2007 ) .
ภูมิทัศน์และระบอบการปกครองตัวอย่างเช่นอาจ รูปร่างของสิ่งที่ประเภทของ
โพรงออกมา ตลอดจนระบบทางเทคนิคการผลิต
กุ้งในประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยสถาบันสาธารณะและกึ่ง
เดียวขนาดใหญ่ บริษัท มากกว่าทศวรรษที่ผ่านมามุ่งเน้น
การผลิตดีกว่า กุ้งกุลาดำ ( ( et al . , 2009 )
niches สำรวจภายในไทย จำกัด โดย
สำเร็จ ซึ่งระบบเทคนิค , เพื่อน มันเอา
การรวมกันของปัจจัยในระดับต่าง ๆเพื่อนำมาเกี่ยวกับ
โอกาสอีกช่องตามกุ้งขาวเป็น
สํารวจ แม้ว่าในตอนแรก อย่างผิดกฎหมาย การรบกวนต่อระบบการปกครอง
ในไทย ในรูปแบบของโรคระบาด และการเจริญเติบโตของป่าจับกุ้งลดลง

เรื่องตัวแปรภูมิ เช่น เพิ่มขีดความสามารถของซัพพลายเออร์ทางเลือก
และความพร้อมของทางเลือกเทคโนโลยี
โพรงที่สามารถอย่างรวดเร็วสามารถปรับสภาวะไทย ( ภาพที่ 4 ) .
สวิทช์ในชนิดที่มีผลสำคัญสำหรับ
สิ่งแวดล้อม ,โครงสร้างอุตสาหกรรมและผู้บริโภค โดยใช้ชีวิต
วงจรการวิเคราะห์เราพบว่ามีการเลี้ยงกุ้งขาว
ทรัพยากรน้อยลงและสร้างน้อยเสียยิ่งกว่า
กุ้งดำ ( ตารางที่ 1 และ 2 ) ความแตกต่างอย่างมาก : การเลี้ยงกุ้งกุลาดำ
ใช้ 9 เท่า และ 3 เท่าของปริมาตรของดิน
น้ำกุ้งขาว นอกจากนี้อาหารสูตร
กุ้งขาวต้องน้อยกว่าปลาป่น ลดผลกระทบต่อมหาสมุทรจับและ
รวมการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการแปลงอาหารเป็น
เนื้อกุ้ง บนมืออื่น ๆที่แปลกใหม่และขาวกุ้ง
ผลของหนีของกุ้งในธรรมชาติ
ความหลากหลายทางชีวภาพเช่นผ่านการแพร่กระจายของโรคไปยังสายพันธุ์พื้นเมือง
ไม่ได้ก็เข้าใจ เปลี่ยนระบอบการปกครองทำให้
มันยากมากสำหรับฟาร์มขนาดเล็กและฟาร์มธุรกิจแต่
ช่วยลดราคาให้กับผู้บริโภค มาตรฐานและการรับรองโครงการแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุด

รวมเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่ชอบสีขาวมากกว่าสีดำกุ้ง
รูปที่ 4