One related issue is when researche

One related issue is when researchers may be seen to have a 'conflict of interest'
For example, one of the studies mentioned in Chapter 2 (Macaruso et al., 2006) found that computer-based supplementary phonics software enabled students considered to be 'low performing' to catch up with their classmates.
The second author of the paper, Hook, was a consultant involved in the design of the software.
The third author, McCabe, was actually the Director of Research and Product Management at the company that developed the software.
This is something the reader may wish to bear in mind when reading the study.
However, these affiliations are reported at the end of the study, so that the potential 'conflict of interest' is acknowledged. Whilst ideally we might prefer an evaluation of the software that can be seen as independent
the developing company is both prepared to support research into their products (which may not happen otherwise), and presumably highly motivated to use the findings from research to improve and develop their software.

is the focus appropriately conceptualized in the research?
The third author, Maccabees, was actually the Director of Research and Product Management at the company that developed the software.
This is something the reader may wish to bear in mind when reading the study. However, these affiliations are reported at the end of the study, so that the potential 'conflict of interest' is acknowledged.
Whilst ideally we might prefer an evaluation of the software that can be seen as i
There are many different ways that a project can be conceptualized.
Any research paper will have a specific focus and/or research questions), and the first part of any research account is usually setting the scene for the research by offering a way of thinking about the research context.
This introductory section of a paper will explain key ideas that are being used to think about the research, and will discuss existing literature the author thinks especially relevant (see Chapter 3).


The notion of validity is often used to judge research, especially in ERPI. The are different flavors of validity, but basically this is about measuring what you believe you are measuring. For example, a study of boys' and girls' involvement in lessons might measure how often pupils answer the teachers' questions. If it is found that girl answer fewer questions, this can be used to suggest that they are less involved in lessons-if we believe that we have used a valid indicator of involvement. A survey of pupils' attitudes to school science might include a question phrased, 'Do you think science is interesting?' Pupils responding might think that the question was about the science they hear about in the news and not have school lessons in mind when answering. School science is at best an imperfect reflection of science (Kind & Taber, 2005), so this would invalidate the question as a means of finding out about attitudes to school science.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับปัญหาคือเมื่อนักวิจัยอาจเห็นมีการ 'ประโยชน์' ตัวอย่าง หนึ่งของการศึกษาที่กล่าวถึงในบทที่ 2 (Macaruso และ al., 2006) พบว่าใช้คอมพิวเตอร์เสริมซึ่งนักเรียนเปิดใช้งานซอฟต์แวร์ที่ถือเป็น 'การต่ำ' ให้กับเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขา ผู้เขียนสองของกระดาษ เบ็ด เป็นปรึกษาในการออกแบบซอฟต์แวร์ ผู้เขียนสาม McCabe ถูกจริงผู้อำนวยการวิจัยและการจัดการผลิตภัณฑ์ที่บริษัทที่พัฒนาซอฟต์แวร์ นี้เป็นสิ่งที่ผู้อ่านอาจต้องใส่ใจเมื่ออ่านการศึกษา อย่างไรก็ตาม เป็นพันธมิตรเหล่านี้จะรายงานจบการศึกษา เพื่อให้เป็นการยอมรับว่า เป็น 'ประโยชน์' ขณะที่เชิญเราอาจต้องการประเมินของซอฟต์แวร์ที่สามารถเห็นได้เป็นอิสระบริษัทพัฒนาทั้งเตรียมที่จะสนับสนุนงานวิจัยในผลิตภัณฑ์ของตน (ซึ่งอาจไม่เกิดขึ้นมิฉะนั้น), และทับสูงแรงจูงใจการค้นพบจากงานวิจัยการปรับปรุง และพัฒนาซอฟต์แวร์ของพวกเขา มีโฟกัสเหมาะสม conceptualized ในการวิจัย ผู้เขียนสาม Maccabees ถูกจริงผู้อำนวยการวิจัยและการจัดการผลิตภัณฑ์ที่บริษัทที่พัฒนาซอฟต์แวร์ นี้เป็นสิ่งที่ผู้อ่านอาจต้องใส่ใจเมื่ออ่านการศึกษา อย่างไรก็ตาม เป็นพันธมิตรเหล่านี้จะรายงานจบการศึกษา เพื่อให้เป็นการยอมรับว่า เป็น 'ประโยชน์' ขณะนี้เราอาจต้องการประเมินของซอฟต์แวร์ที่สามารถเห็นเป็นฉันมีหลายวิธีที่สามารถ conceptualized โครงการ การวิจัยจะมีคำถามมาและ/หรือวิจัยเฉพาะ), และส่วนแรกของการวิจัยมักจะตั้งฉากสำหรับการวิจัย โดยนำเสนอวิธีคิดเกี่ยวกับบริบทการวิจัย ส่วนนี้เกริ่นนำของเอกสารจะอธิบายแนวคิดสำคัญที่ใช้คิดเกี่ยวกับการวิจัย และจะหารือเกี่ยวกับวรรณคดีอยู่ผู้เขียน คิดว่า เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ (ดูบทที่ 3) มักมีใช้ความคิดใช้วิพากษ์วิจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ERPI มีรสชาติแตกต่างกันมีผลบังคับใช้ แต่โดยทั่วไปนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการวัดสิ่งที่คุณเชื่อว่า คุณจะวัด ตัวอย่าง การศึกษาของชายและหญิงมีส่วนร่วมในบทเรียนอาจวัดบ่อยนักเรียนตอบคำถามของครูได้ หากมีพบว่าสาว ตอบคำถามน้อยลง นี้สามารถใช้ในการแนะนำว่า จะไม่เกี่ยวข้องในบทเรียน-ถ้าเราเชื่อว่า เราได้ใช้ตัวบ่งชี้ที่ถูกต้องของการมีส่วนร่วม การสำรวจทัศนคติของนักเรียนกับโรงเรียนวิทยาศาสตร์อาจเป็นคำถามที่ phrased 'คุณคิดว่า วิทยาศาสตร์น่าสนใจหรือไม่' นักเรียนที่ตอบสนองอาจคิดว่า คำถามที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์พวกเขาได้ยินเกี่ยวกับข่าว และไม่มีโรงเรียนสอนในจิตใจเมื่อตอบ โรงเรียนวิทยาศาสตร์มีราคาสะท้อนความไม่สมบูรณ์ของวิทยาศาสตร์ (แอนด์ Taber, 2005), ดังนั้นซึ่งจะทำให้คำถามของการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับทัศนคติการเรียนวิทยาศาสตร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปัญหาหนึ่งที่เกี่ยวข้องคือเมื่อนักวิจัยอาจจะเห็นว่ามี 'ความขัดแย้ง'
ตัวอย่างเช่นหนึ่งของการศึกษาที่กล่าวถึงในบทที่ 2 (Macaruso et al., 2006) พบว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้นักเรียนเปิดใช้งานซอฟแวร์การออกเสียงเสริมถือว่าเป็น ' ต่ำที่มีประสิทธิภาพ 'ที่จะจับขึ้นกับเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขา.
ผู้เขียนที่สองของกระดาษตะขอเป็นที่ปรึกษาที่เกี่ยวข้องในการออกแบบซอฟแวร์.
ผู้เขียนที่สาม McCabe เป็นจริงผู้อำนวยการวิจัยและการจัดการสินค้าที่ บริษัท ที่พัฒนา ซอฟแวร์.
นี่คือสิ่งที่ผู้อ่านอาจต้องการที่จะจำไว้เมื่ออ่านการศึกษา.
แต่ความผูกพันเหล่านี้จะมีการรายงานในตอนท้ายของการศึกษาเพื่อให้ 'ความขัดแย้ง' ที่มีศักยภาพเป็นที่ยอมรับ ในขณะที่ความนึกคิดเราอาจจะชอบการประเมินผลของซอฟต์แวร์ที่สามารถมองเห็นเป็นอิสระ
บริษัท พัฒนาเป็นทั้งเตรียมที่จะสนับสนุนการวิจัยเป็นผลิตภัณฑ์ของพวกเขา (ซึ่งอาจไม่เกิดขึ้นเป็นอย่างอื่น) และน่าจะมีแรงจูงใจสูงที่จะใช้ผลการวิจัยจากการวิจัยเพื่อปรับปรุงและพัฒนา ซอฟแวร์ของพวกเขา. จะมุ่งเน้นแนวความคิดที่เหมาะสมในการวิจัยหรือไม่ผู้เขียนที่สามบีส์เป็นจริงผู้อำนวยการวิจัยและการจัดการสินค้าที่ บริษัท ที่พัฒนาซอฟต์แวร์. นี่คือสิ่งที่ผู้อ่านอาจต้องการที่จะจำไว้เมื่ออ่านการศึกษา . แต่ความผูกพันเหล่านี้จะมีการรายงานในตอนท้ายของการศึกษาเพื่อให้มีศักยภาพ 'ความขัดแย้ง' เป็นที่ยอมรับ. ขณะที่ความนึกคิดเราอาจจะชอบการประเมินผลของซอฟต์แวร์ที่สามารถมองเห็นได้เป็นฉันมีวิธีการที่แตกต่างกันจำนวนมากที่โครงการสามารถมีได้รับแนวความคิด. รายงานการวิจัยใด ๆ ที่จะมีความสำคัญที่เฉพาะเจาะจงและ / หรือคำถามการวิจัย) และส่วนแรกของบัญชีวิจัยใด ๆ มักจะตั้งค่าฉากสำหรับการวิจัยโดยนำเสนอวิธีคิดเกี่ยวกับบริบทการวิจัย. นี้ส่วนเบื้องต้นของ กระดาษจะอธิบายความคิดที่สำคัญที่มีการใช้ที่จะคิดเกี่ยวกับการวิจัยและจะหารือเกี่ยวกับวรรณกรรมที่มีอยู่ที่ผู้เขียนคิดว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้อง (ดูบทที่ 3). ความคิดของความถูกต้องมักจะถูกใช้ในการตัดสินการวิจัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ERPI มีรสชาติที่แตกต่างของความถูกต้อง แต่โดยทั่วไปนี้เป็นเรื่องเกี่ยววัดสิ่งที่คุณเชื่อว่าคุณมีการวัด ยกตัวอย่างเช่นการศึกษาของเด็กและผู้หญิงมีส่วนร่วมในการเรียนอาจจะวัดว่านักเรียนมักจะตอบคำถามของครู หากพบว่าผู้หญิงคนตอบคำถามน้อยกว่านี้สามารถนำมาใช้เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีส่วนร่วมในการเรียนน้อยถ้าเราเชื่อว่าเราได้ใช้เป็นตัวบ่งชี้ที่ถูกต้องการมีส่วนร่วม สำรวจความคิดเห็นของนักเรียน A 'ทัศนคติวิทยาศาสตร์โรงเรียนอาจจะรวมถึงคำถามที่ phrased ที่' คุณคิดว่าวิทยาศาสตร์เป็นที่น่าสนใจ? นักเรียนตอบสนองอาจจะคิดว่าเป็นคำถามที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ที่พวกเขาได้ยินเกี่ยวกับข่าวและไม่ต้องเรียนโรงเรียนในใจเมื่อตอบ วิทยาศาสตร์ของโรงเรียนเป็นที่ดีที่สุดสะท้อนที่ไม่สมบูรณ์ของวิทยาศาสตร์ (ชนิดและ Taber, 2005) ดังนั้นนี้จะทำให้คำถามเป็นวิธีการหาข้อมูลเกี่ยวกับทัศนคติของวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับปัญหา คือ เมื่อนักวิจัยอาจจะเห็นมี ' ผลประโยชน์ '
ตัวอย่างหนึ่งของการศึกษาที่กล่าวถึงในบทที่ 2 ( macaruso et al . , 2006 ) พบว่า ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ช่วยเสริมคำศัพท์นักเรียนถือว่าเป็น ' ต่ำแสดง ' ให้ทันกับเพื่อนร่วมชั้นของ
เขียนที่สองของกระดาษ , ตะขอเป็นที่ปรึกษาที่เกี่ยวข้องในการออกแบบซอฟต์แวร์
ผู้ที่สาม แมคเคบ เป็นผู้อำนวยการวิจัยและการจัดการผลิตภัณฑ์ใน บริษัท ที่พัฒนาซอฟต์แวร์
นี่คือสิ่งที่ผู้อ่านอาจต้องการที่จะแบกในใจเมื่ออ่านศึกษา
แต่ความผูกพันเหล่านี้ มีรายงานผลการศึกษาเพื่อให้ศักยภาพ ' ผลประโยชน์ทับซ้อน ' ยอมรับขณะที่นึกคิดเราอาจชอบการประเมินผลของซอฟต์แวร์ที่สามารถมองเห็นเป็นอิสระ
พัฒนาบริษัทเป็นทั้งพร้อมที่จะสนับสนุนการวิจัยในผลิตภัณฑ์ของตน ( ซึ่งอาจจะไม่เกิดขึ้นอย่างอื่น ) , และมีแรงจูงใจสูงที่จะใช้ข้อมูลจากการวิจัยเพื่อปรับปรุงและพัฒนาซอฟต์แวร์ของพวกเขา

เป็นโฟกัสอย่างเหมาะสม แนวคิดในการวิจัย
เขียนสามโด่ง เป็นผู้อำนวยการวิจัยและการจัดการผลิตภัณฑ์ใน บริษัท ที่พัฒนาซอฟต์แวร์
นี่คือสิ่งที่ผู้อ่านอาจต้องการที่จะแบกในใจเมื่ออ่านศึกษา อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีรายงานผลการศึกษาเพื่อให้ศักยภาพ ' ผลประโยชน์ทับซ้อน ' ยอมรับ
ขณะที่นึกคิดเราอาจชอบการประเมินผลของซอฟต์แวร์ที่สามารถมองเห็นเป็นผม
มีหลายวิธีที่โครงการสามารถแนวคิด .
มีงานวิจัยจะมุ่งเน้นที่เฉพาะเจาะจง และ / หรือ คำถามวิจัย ) และส่วนแรกของการวิจัยใด ๆบัญชี มักจะเป็นฉากสำหรับการวิจัย โดยเสนอวิธีของการคิดเกี่ยวกับบริบทการวิจัย