Freire enrolled at Law School at th

Freire enrolled at Law School at the University of Recife in 1943. He also studied philosophy, more specifically phenomenology, and the psychology of language. Freire never actually practiced law but instead worked as a teacher in secondary schools teaching Portuguese. In 1944, he married Elza Maia Costa de Oliveira, a fellow teacher.

In 1946, Freire was appointed Director of the Department of Education and Culture of the Social Service in the State of Pernambuco, the Brazilian state of which Recife is the capital. Working primarily among the illiterate poor, Freire began to embrace a non-orthodox form of what could be considered liberation theology. In Brazil at that time, literacy was a requirement for voting in presidential elections.

In 1961, he was appointed director of the Department of Cultural Extension of Recife University, and in 1962 he had the first opportunity for significant application of his theories, when 300 sugarcane workers were taught to read and write in just 45 days. In response to this experiment, the Brazilian government approved the creation of thousands of cultural circles across the country. In 1964, a military coup put an end to that effort. Freire was imprisoned as a traitor for 70 days. After a brief exile in Bolivia, he worked in Chile for five years for the Christian Democratic Agrarian Reform Movement and the Food and Agriculture Organization of the United Nations. In 1967, he published his first book, Education as the Practice of Freedom. He followed this with his most famous book, Pedagogy of the Oppressed, first published in Portuguese in 1968.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Freire ลงทะเบียนที่โรงเรียนกฎหมายมหาวิทยาลัยด้าใน 1943 เขายังศึกษาปรัชญา phenomenology อื่น ๆ โดยเฉพาะ และจิตวิทยาภาษา Freire ปฏิบัติกฎหมายก็ ได้แต่ ทำงานเป็นครูในโรงเรียนมัธยมสอนภาษาโปรตุเกส ในปี 1944 เขาแต่งงาน Elza ไมอาคอสตา de Oliveira เพื่อนครูในปี 1946, Freire ถูกแต่งตั้งกรรมการฝ่ายการศึกษาและวัฒนธรรมการบริการสังคมในรัฐ Pernambuco รัฐบราซิลที่ด้าเป็นเมืองหลวง ทำงานส่วนใหญ่ในหมู่คนจน illiterate, Freire เริ่มสวมกอดแบบไม่วออโธดอกซ์ของอะไรอาจจะพิจารณาเทววิทยาแห่งการปลดปล่อย ในประเทศบราซิลในเวลานั้น สามารถมีความต้องการลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีใน 1961 เขาถูกแต่งตั้งผู้อำนวยการแผนกวัฒนธรรมส่วนขยายของด้ามหาวิทยาลัย และในปี 1962 เขาได้โอกาสแรกสำหรับโปรแกรมประยุกต์ที่สำคัญของทฤษฎีของเขา เมื่ออ้อย 300 คนมีนักเรียนอ่าน และเขียนใน 45 วัน ในการทดลองนี้ รัฐบาลบราซิลได้สร้างพันวงวัฒนธรรมทั่วประเทศ ในปี 1964 การรัฐประหารตัดที่นี่ Freire ถูกจำคุกเป็นเวลาเป็นคนทรยศ 70 วัน หลังจากถูกเนรเทศโดยย่อในโบลิเวีย เขาทำงานในประเทศชิลีปีห้าคริสเตียนประชาธิปไตยแผนปฏิรูปขบวนการอาหาร และเกษตรองค์กรสหประชาชาติ ในค.ศ. 1967 เขาตีพิมพ์หนังสือครั้งแรกของเขา เป็นปฏิบัติอิสระ เขาตามนี้กับหนังสือของเขามีชื่อเสียงมากที่สุด สอน Oppressed เผยแพร่ครั้งแรก ในโปรตุเกสในปี 2511

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Freire ลงทะเบียนเรียนที่โรงเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยเรซิเฟ่ในปี 1943 นอกจากนี้เขายังได้ศึกษาปรัชญาปรากฏการณ์มากขึ้นโดยเฉพาะและจิตวิทยาของภาษา แฟรไม่เคยมีประสบการณ์ด้านกฎหมายจริง แต่แทนที่จะทำงานเป็นครูในโรงเรียนมัธยมศึกษาสอนโปรตุเกส ในปี 1944 เขาแต่งงานกับ Elza Maia Costa de Oliveira ครูเพื่อน. ในปี 1946, แฟรร์ได้รับการแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักการศึกษาและวัฒนธรรมของการให้บริการทางสังคมในรัฐ Pernambuco ที่รัฐของบราซิลซึ่ง Recife เป็นเมืองหลวง การทำงานเป็นหลักในการศึกษาในหมู่คนยากจน Freire เริ่มที่จะโอบกอดรูปแบบที่ไม่ใช่ดั้งเดิมของสิ่งที่อาจได้รับการพิจารณาวิมุตติธรรม ในประเทศบราซิลในเวลานั้นความรู้เป็นความต้องการสำหรับการลงคะแนนในการเลือกตั้งประธานาธิบดี. ในปี 1961 เขาได้รับการแต่งตั้งผู้อำนวยการกรมส่งเสริมวัฒนธรรม Recife มหาวิทยาลัยและในปี 1962 เขามีโอกาสแรกสำหรับการใช้งานที่สำคัญของทฤษฎีของเขาเมื่อ 300 แรงงานอ้อยได้รับการสอนการอ่านและเขียนในเวลาเพียง 45 วัน ในการตอบสนองต่อการทดลองนี้รัฐบาลบราซิลได้รับการอนุมัติการสร้างหลายพันคนของวงการวัฒนธรรมทั่วประเทศ ในปี 1964 การทำรัฐประหารหมดสิ้นไปความพยายามที่ Freire ถูกจำคุกเป็นคนทรยศ 70 วัน หลังจากถูกเนรเทศสั้น ๆ ในโบลิเวียเขาทำงานในประเทศชิลีเป็นเวลาห้าปีสำหรับคริสเตียนประชาธิปไตยเคลื่อนไหวปฏิรูปกรและองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ ในปี 1967 เขาตีพิมพ์หนังสือเล่มแรกของเขาในฐานะการศึกษาการปฏิบัติงานของเสรีภาพ เขาเดินตามนี้กับหนังสือที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขาถูกกดขี่ของครูที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในภาษาโปรตุเกสในปี 1968