n this study, 72% the participants

n this study, 72% the participants with CKD had vitamin K intake lower than the recommended adequate intakes. The mean dietary vitamin K intake in the CKD patients in this study was 97.5 µg/day, which is lower than vitamin K intake in the general population. For example, the mean (±SD) phylloquinone intake was 153 ± 115 and 171 ± 103 μg/day in male and female participants of the Framingham study.22 Nevertheless, participants with vitamin K intake higher than the adequate intake levels for vitamin K had a 15% lower risk of all-cause mortality and 22% lower risk of CVD mortality. Our study suggested that adequate vitamin K intake may be important in reducing all-cause and CVD mortality in CKD patients.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

n นี้ศึกษา 72% ร่วมกับโรคไตมีปริมาณวิตามิน K ที่ต่ำกว่าการบริโภคเพียงพอแนะนำ การบริโภคเฉลี่ยอาหารวิตามิน K ในผู้ป่วยโรคไตในการศึกษานี้คือ 97.5 µg ต่อวัน ซึ่งจะต่ำกว่าปริมาณวิตามิน K ในประชากรทั่วไป ตัวอย่างเช่น การบริโภค phylloquinone หมายถึงอะไร (±SD) คือ 153 ± 115 และ 171 ± 103 μวันในชาย และหญิงเข้าร่วม study.22 Framingham แต่ผู้ที่ มีปริมาณวิตามิน K สูงกว่าระดับการบริโภคเพียงพอสำหรับวิตามิน K มีความเสี่ยงต่ำกว่า 15% ของทุกสาเหตุตายและ 22% ลดความเสี่ยงของ CVD ตาย ศึกษาของเราแนะนำในการบริโภคที่เพียงพอวิตามิน K อาจจะสำคัญในการลดสาเหตุทั้งหมดและการตายของ CVD ในผู้ป่วยโรคไต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

n การศึกษาครั้งนี้ผู้เข้าร่วม 72% ด้วยโรคไตวายเรื้อรังมีการรับประทานวิตามิน K ที่ต่ำกว่าการบริโภคที่เพียงพอแนะนำ การบริโภคอาหารวิตามินเคเฉลี่ยในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังในการศึกษาครั้งนี้คือ 97.5 ไมโครกรัม / วันซึ่งต่ำกว่าการรับประทานวิตามิน K ในประชากรทั่วไป ยกตัวอย่างเช่นค่าเฉลี่ย (± SD) การบริโภค phylloquinone เป็น 153 ± 115 และ 171 ± 103 ไมโครกรัม / วันในชายและหญิงเข้าร่วมการ study.22 รามิงแฮมอย่างไรก็ตามผู้เข้าร่วมมีปริมาณวิตามินเคสูงกว่าระดับปริมาณที่เพียงพอสำหรับวิตามิน K มี ความเสี่ยงต่ำกว่า 15% ของทุกสาเหตุการตายและความเสี่ยงที่ต่ำกว่า 22% ของการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองตีบ การศึกษาของเราชี้ให้เห็นว่าวิตามินที่เพียงพอการบริโภคภาคอาจมีความสำคัญในการลดทุกสาเหตุการตายและซีวีดีในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

N 72 % การศึกษาครั้งนี้ผู้เข้าร่วมกับ CKD มีวิตามินเคเพียงพอบริโภคและบริโภคน้อยกว่าที่แนะนำ . ค่าเฉลี่ยการบริโภคอาหารวิตามิน K ในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังในการศึกษานี้คือ µ 97.5 กรัม / วัน ซึ่งต่ำกว่าปริมาณวิตามิน K ในประชากรทั่วไป ตัวอย่างเช่น ค่าเฉลี่ย ( ± SD ) ฟิลโลควิโนนบริโภคคือ 153 ±แล้ว 171 ± 103 μกรัม / วันในชายและหญิงเข้าร่วมในฟรามิงแฮม study.22 แต่ผู้ที่มีวิตามินเคเพียงพอบริโภคบริโภคสูงกว่าระดับวิตามิน K มี 15 % ลดเสี่ยงลดอัตราการตายจากทุกสาเหตุ และ 22% ลดความเสี่ยงของการเสียชีวิต ซีวีดี . การศึกษาของเราพบว่า ปริมาณเพียงพอ วิตามิน เค อาจจะสำคัญในการลดอัตราการตายในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังที่สำคัญ ซีวีดี .