Rumex nepalensis Spreng. (Polygonac

Rumex nepalensis Spreng. (Polygonaceae), a tall robust plant, is
found in the temperate Himalayas, Western Ghats, Nilgiri and Palni hills. Traditionally R. nepalensis roots are used as purgative, to cure dysentery, venereal diseases and as a colouring agent.
Thefresh leaves are used for the treatment of colic and syphilic ulcers(Kirtikar and Basu, 1987). Rumex nepalensis has been investigated for antihistaminic, anticholinergic, antibradykinin, antiprostaglandin (Aggarwal et al., 1986), anti-inflammatory (Gautam et al.,2010), purgative, antibacterial (Ghosh et al., 2003a,b) and antipyretic (Venkatesh et al., 2003) activities.
Rumex nepalensis contain mainly anthraquinones, naphthalene derivatives and tannins (Sharma et al., 1978; Khetwal et al.,1987; Mei et al., 2009). Anthraquinones are reported to possess numerous biological activities such as antifungal (Agarwal et al.,
2000), anti-inflammatory (Gautam et al., 2010), antioxidant (Iizuka et al., 2004), genotoxicity and anti-genotoxicity (Muelleret al., 1999), and anticancer (Zhou et al., 2006), whereas naphthalene derivatives possess anti-inflammatory and antioxidant
activities (Nishina et al., 1991; Gautam et al., 2010). In addition,

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Rumex nepalensis Spreng (วงศ์ผักไผ่), เป็นพืชแข็งแกร่งสูงพบในเขตอบอุ่นหิมาลัย Western Ghats ลิบ และ Palni ฮิลล์ Nepalensis อาร์ประเพณีรากจะใช้ เป็น purgative การรักษาโรคบิด โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และ เป็นสีแทน Thefresh ใช้ในการรักษาอาการจุกเสียด และ syphilic แผล (Kirtikar และกับ 1987) Rumex nepalensis ได้รับการตรวจสอบสำหรับ anticholinergic, antihistaminic, antibradykinin, antiprostaglandin (Aggarwal et al. 1986), ต้านการอักเสบ (โกตัม et al. 2010), ยาระบาย ต้านเชื้อแบคทีเรีย (Ghosh et al. 2003a, b) และสวะ (Venkatesh et al. 2003) กิจกรรมRumex nepalensis ประกอบด้วยส่วนใหญ่แอนธราควิโนน การบูรอนุพันธ์ และชิม (ชาร์ et al. 1978 Khetwal et al. 1987 เหมย et al. 2009) รายงานจะมีกิจกรรมมากมายทางชีวภาพเช่นเชื้อราแอนธราควิโนน (Agarwal et al.,2000), ต้านการอักเสบ (โกตัม et al. 2010), สารต้านอนุมูลอิสระ (Iizuka et al. 2004), genotoxicity และต่อต้าน-genotoxicity (Muelleret al. 1999), และต้านมะเร็ง (โจว et al. 2006), ใน ขณะที่อนุพันธ์การบูรมีสารต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบกิจกรรม (ใหญ่ et al. 1991 กัวตัม et al. 2010) นอกจากนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Rumex nepalensis Spreng (Polygonaceae) ซึ่งเป็นพืชที่มีประสิทธิภาพสูงจะ
พบในเทือกเขาหิมาลัยสมควรตะวันตก Ghats ใน Nilgiri และเนินเขา Palni ตามเนื้อผ้าอาร์ nepalensis รากใช้เป็นยาถ่ายเพื่อรักษาโรคบิดโรคกามโรคและเป็นตัวแทนสี.
ใบ Thefresh ถูกนำมาใช้ในการรักษาอาการจุกเสียดและ syphilic แผล (Kirtikar และซึ 1987) เดอะ Rumex nepalensis ได้รับการตรวจสอบเพื่อ antihistaminic, anticholinergic, antibradykinin, antiprostaglandin (Aggarwal et al., 1986), ต้านการอักเสบ (Gautam et al., 2010), ยาถ่าย, แบคทีเรีย (กอช et al., 2003a, ข) และลดไข้ ( .. เตซ, et al, 2003) กิจกรรม
Rumex nepalensis ประกอบด้วยส่วนใหญ่แอนทราอนุพันธ์เหม็นและแทนนิน (Sharma et al, 1978;. Khetwal et al, 1987;.. เหมย et al, 2009) แอนทรามีรายงานว่ามีฤทธิ์ทางชีวภาพมากมายเช่นเชื้อรา (Agarwal et al.,
2000), ต้านการอักเสบ (Gautam et al., 2010) สารต้านอนุมูลอิสระ (อิซูกะ et al., 2004) พันธุกรรมและต่อต้านพันธุกรรม (Muelleret อัล ., 1999) และต้านมะเร็ง (Zhou et al, 2006) ในขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเหม็นมีต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ.
กิจกรรม (Nishina et al, 1991;.. Gautam et al, 2010) นอกจากนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

rumex nepalensis Spreng . ( polygonaceae ) ตัวสูง คงทน พืช คือพบในเทือกเขาหิมาลัย กาลเทศะ และ palni Ghats ตะวันตก , Nilgiri Hills โดย R . nepalensis ราก ใช้เป็นยาระบาย แก้บิด กามโรคและเป็นสีแทนthefresh ใบ ใช้สำหรับการรักษาอาการจุกเสียด และ syphilic แผล ( และ kirtikar บาซู , 1987 ) rumex nepalensis ได้รับการสอบสวน antihistaminic แอนติโคลิเนอร์จิก antibradykinin , , , ( s antiprostaglandin et al . , 1986 ) , ต้านการอักเสบ ( Gautam et al . , 2010 ) , ยาระบาย , antibacterial ( ghosh et al . , 2003a , B ) และลดไข้ ( Venkatesh et al . , 2003 ) กิจกรรมrumex nepalensis ประกอบด้วยส่วนใหญ่แอนทราควิโนน , อนุพันธ์แนฟทาลีนและแทนนิน ( Sharma et al . , 1978 ; khetwal et al . , 1987 ; เมย์ et al . , 2009 ) แอนมีรายงานว่ามีฤทธิ์ทางชีวภาพต่างๆ เช่น เชื้อรา ( กลางวัน et al . ,2000 ) , ต้านการอักเสบ ( Gautam et al . , 2010 ) , สารต้านอนุมูลอิสระ ( Iizuka et al . , 2004 ) และป้องกัน ( ( ( muelleret al . , 1999 ) และมะเร็ง ( โจว et al . , 2006 ) ส่วนแนพทาลีนอนุพันธ์มีต้านการอักเสบและสารต้านอนุมูลอิสระกิจกรรมต่างๆ ( Nishina et al . , 1991 ; Gautam et al . , 2010 ) นอกจากนี้