The leaves of Carica papaya are gen

The leaves of Carica papaya are generally considered waste but their extracts have been linked with various health benefits. This study aimed to optimize extraction conditions and determine the effect of aqueous extraction on the yield of polyphenols from papaya leaves. The efficiency of water extraction was compared to the organic solvents acetone, ethanol and methanol. A method to prepare crude powder from the leaves was developed, with its composition and antioxidant properties also examined. We show that temperature, extraction time and water-to-leaf ratio had significant effects on the extracted polyphenol yield as well as the scavenging and total antioxidant activities. Optimal extraction conditions were 70 °C for 20 min, with a water-to-leaf ratio of 100:7.5 mL/g. Higher levels of polyphenols were extracted using water in comparison to the organic solvents, while ethanol extraction provided the highest level of saponins. A simple and scalable method was developed to obtain approximately 190 g of powder from 1 kg of dried papaya leaves. The crude powder contained 6.3% polyphenols, and when compared to butylated hydroxytoluene (BHT), Vitamins C and E and epigallocatechin gallate (EGCG) had lower scavenging and total antioxidant activity. However, as this method used water for extraction, it is considered safe and offers great potential for further purification and application in future studies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใบของสกุลมะละกอมะละกอโดยทั่วไปถือว่าเสีย แต่แยกการเชื่อมโยงกับประโยชน์ต่อสุขภาพต่าง ๆ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับเงื่อนไขการสกัด และตรวจสอบผลของสารละลายสกัดในผลโพลีฟีนจากมะละกอใบ ประสิทธิภาพของน้ำสกัดถูกเปรียบเทียบกับตัวทำละลายอินทรีย์อะซีโตน เอทานอล และเมทานอล วิธีการเตรียมผงหยาบจากใบได้รับการพัฒนา กับคุณสมบัติขององค์ประกอบและสารต้านอนุมูลอิสระที่ยัง ตรวจสอบ เราแสดงที่อุณหภูมิ เวลาและอัตราส่วนน้ำใบมีผลสำคัญในผลผลิตแยกฟีนอ scavenging และรวมกิจกรรมต้านอนุมูลอิสระ สกัดที่ดีที่สุดเงื่อนไข 70 ° C สำหรับ 20 นาที ด้วยอัตราน้ำใบ 100:7.5 มิลลิลิตร/กรัมสูงกว่าระดับของโพลีฟีนที่สกัดโดยใช้น้ำเมื่อเทียบกับตัวทำละลายอินทรีย์ การสกัดเอทานอลให้บริการระดับสูงสุดของ saponins วิธีง่าย และสามารถปรับขนาดได้รับการพัฒนารับประมาณ 190 กรัมผงจากใบมะละกอแห้ง 1 กก. ผงหยาบอยู่โพลีฟีน 6.3% และเมื่อเปรียบเทียบกับ butylated hydroxytoluene (บาท), วิตามิน C และ E และ epigallocatechin gallate (EGCG) มี scavenging ต่ำและอนุมูลรวม อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้ใช้น้ำสกัด จะถือว่าปลอดภัย และมีศักยภาพที่ดีสำหรับการทำให้บริสุทธิ์ และศึกษาโปรแกรมประยุกต์ในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ใบของมะละกอทั่วไปมักจะคิดเสีย แต่สารสกัดของพวกเขาได้รับการเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ต่อสุขภาพต่างๆ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเงื่อนไขการสกัดและการศึกษาผลของการสกัดน้ำในผลผลิตของโพลีฟีนจากใบมะละกอ ประสิทธิภาพของการสกัดน้ำเมื่อเทียบกับตัวทำละลายอินทรีย์อะซีโตนเอทานอลและเมทานอล วิธีการเตรียมความพร้อมผงหยาบจากใบได้รับการพัฒนาโดยมีองค์ประกอบและคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของมันยังตรวจสอบ เราแสดงให้เห็นว่าอัตราการใช้อุณหภูมิเวลาการสกัดและน้ำเพื่อใบมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลผลิตโพลีฟีนที่สกัดได้เช่นเดียวกับการขับและกิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระ เงื่อนไขการสกัดที่ดีที่สุด 70 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 20 นาที, มีอัตราส่วนน้ำต่อใบ 100: 7.5 มิลลิลิตร / กรัม ระดับสูงของโพลีฟีนถูกสกัดโดยใช้น้ำในการเปรียบเทียบกับตัวทำละลายอินทรีย์ในขณะที่การสกัดเอทานอลที่ให้บริการในระดับสูงสุดของซาโปนิน วิธีการที่ง่ายและปรับขนาดได้รับการพัฒนาเพื่อให้ได้ประมาณ 190 กรัมผงจาก 1 กิโลกรัมของใบมะละกออบแห้ง ผงน้ำมันดิบที่มีโพลีฟีน 6.3% และเมื่อเทียบกับ butylated hydroxytoluene (BHT), วิตามิน C และ E และสาร epigallocatechin gallate (EGCG) มีการขับลดลงและสารต้านอนุมูลอิสระทั้งหมด แต่เป็นวิธีการที่ใช้ในการสกัดน้ำก็ถือว่าปลอดภัยและมีศักยภาพที่ดีสำหรับการทำให้บริสุทธิ์ต่อไปและการประยุกต์ใช้ในการศึกษาในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใบของมะละกอที่ได้รับการพิจารณาโดยทั่วไปของเสียแต่สารสกัดของพวกเขาได้ถูกเชื่อมโยงกับประโยชน์ด้านสุขภาพต่าง ๆ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสกัด และศึกษาผลของการสกัดน้ำต่อผลผลิตของโพลีฟีนอลจากใบมะละกอ ประสิทธิภาพของการสกัดน้ำเมื่อเทียบกับตัวทำละลายอะซิโตน เอทานอล และเมทานอล วิธีการเตรียมผงหยาบจากใบที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยมีองค์ประกอบและคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระ ยังตรวจสอบ เราพบว่า อุณหภูมิ เวลา และอัตราส่วนน้ำต่อสารสกัดจากใบได้อย่างมีนัยสำคัญต่อปริมาณผลผลิต ตลอดจนการและกิจกรรมของสารต้านอนุมูลอิสระทั้งหมด การสกัดที่เหมาะสมคือ 70 องศา C เป็นเวลา 20 นาทีด้วยอัตราส่วนน้ำต่อใบ 100:7.5 มิลลิลิตร / กรัม ระดับสูงของโพลีฟีนอล ที่ใช้น้ำในการเปรียบเทียบกับตัวทำละลายอินทรีย์ ในขณะที่การสกัดเอทานอลให้ระดับสูงสุดของซาโปนิน . ง่ายและยืดหยุ่นวิธีการพัฒนาเพื่อให้ได้ประมาณ 190 กรัมผง 1 กิโลกรัม ใบมะละกออบแห้ง แป้งดิบที่มีอยู่ 6.3 % โพลีฟีนและเมื่อเทียบกับจักรภพ ( บาท ) , วิตามิน C และ E และ gallate ( EGCG ) และมีค่าการต้านอนุมูลอิสระทั้งหมด อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ใช้น้ำในการสกัด ถือว่าปลอดภัยและมีศักยภาพที่ดีสำหรับการประยุกต์ใช้ในการศึกษาต่อไปในอนาคต