“‘ความขัดแย้ง’ นั้นเกิดจากการมีมาตร

“‘ความขัดแย้ง’ นั้นเกิดจากการมีมาตรฐาน หรือมีหลักการทำงานที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ เกิดการครอบงำ จากการใช้อำนาจหรือใช้อิทธิพลเข้ามาต่อรองให้ฝ่ายตนอยู่เหนือกว่า จึงพบว่า ความขัดแย้งในการทำงานของปัจเจกบุคคล (conflict of code) เป็นเรื่องที่หลีกหนีได้ยากและส่งผลสำคัญ 3 ประการ ดังนี้
1. การทำงานหยุดชะงัก (paralysis of action) เพราะเกิดความเครียดเต็มไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว จนทำให้คับข้องใจส่งผลให้ขาดความสามารถในการตัดสินใจและขาดความเชื่อมั่นใน ตนเองตามมา
2. การมุ่งทำงานตามมาตรฐานอันหนึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของคนอื่น ทำให้เกิดความไม่สบายใจ รู้สึกผิด ทำให้คนอื่นไม่พอใจและขาดความเชื่อมั่นตนเองได้
3. เมื่อมีความขัดแย้งก็ต้องมีการแก้ไข เกิดการปรับปรุงระบบการทำงาน จะทำให้เปลี่ยนระบบการทำงานบ่อยๆ อาจทำให้คนสับสนจนปรับตัวไม่ทัน เพราะต้องเรียนรู้ใหม่หลายครั้ง ประสบการณ์เดิมๆ ก็ใช้ไม่ได้ส่งผลต่อขวัญและกำลังใจต่อพนักงานได้ แม้แต่หลักการทำงานที่ผ่านการกลั่นกรองมาเป็นอย่างดีแล้วก็ย่อมจะพบกับปัญหา ได้เสมอ เพราะคนในองค์กรมีความแตกต่างด้านความรู้ ความสามารถ ทัศนคติ การรับรู้ และที่สำคัญคือความแตกต่างด้านจริยธรรม ทำให้"ความขัดแย้ง"กลายเป็นเรื่องที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้ และแนวคิดของ Barnard นี้จะเห็นว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในองค์การนั้น จะส่งผลด้านลบต่อการบริหารองค์การเป็นสำคัญและ Barnard ก็ยอมรับว่าความขัดแย้งเป็นสิงที่เกิดขึ้นได้เสมอ แม้แต่จะได้เตรียมการวางแผนจัดการไว้ล่วงหน้าแล้วก็ตาม”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

"'ความขัดแย้ง' นั้นเกิดจากการมีมาตรฐานหรือมีหลักการทำงานที่แตกต่างกันทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำเกิดการครอบงำจากการใช้อำนาจหรือใช้อิทธิพลเข้ามาต่อรองให้ฝ่ายตนอยู่เหนือกว่าจึงพบว่าความขัดแย้งในการทำงานของปัจเจกบุคคล (ความขัดแย้งของรหัส) เป็นเรื่องที่หลีกหนีได้ยากและส่งผลสำคัญ 3 ประการดังนี้1. การทำงานหยุดชะงัก (อัมพาตของการกระทำ) เพราะเกิดความเครียดเต็มไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัวจนทำให้คับข้องใจส่งผลให้ขาดความสามารถในการตัดสินใจและขาดความเชื่อมั่นในตนเองตามมา2. การมุ่งทำงานตามมาตรฐานอันหนึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของคนอื่นทำให้เกิดความไม่สบายใจรู้สึกผิดทำให้คนอื่นไม่พอใจและขาดความเชื่อมั่นตนเองได้3. เมื่อมีความขัดแย้งก็ต้องมีการแก้ไขเกิดการปรับปรุงระบบการทำงานจะทำให้เปลี่ยนระบบการทำงานบ่อย ๆ อาจทำให้คนสับสนจนปรับตัวไม่ทันเพราะต้องเรียนรู้ใหม่หลายครั้งประสบการณ์เดิม ๆ ก็ใช้ไม่ได้ส่งผลต่อขวัญและกำลังใจต่อพนักงานได้แม้แต่หลักการทำงานที่ผ่านการกลั่นกรองมาเป็นอย่างดีแล้วก็ย่อมจะพบกับปัญหาได้เสมอเพราะคนในองค์กรมีความแตกต่างด้านความรู้ความสามารถทัศนคติการรับรู้และที่สำคัญคือความแตกต่างด้านจริยธรรมทำให้ "ความขัดแย้ง" กลายเป็นเรื่องที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้และแนวคิดของ Barnard นี้จะเห็นว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในองค์การนั้นจะส่งผลด้านลบต่อการบริหารองค์การเป็นสำคัญและแม้แต่จะได้เตรียมการวางแผนจัดการไว้ล่วงหน้าแล้วก็ตามก็ยอมรับว่าความขัดแย้งเป็นสิงที่เกิดขึ้นได้เสมอบาร์นาร์ด "

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

"'ความขัดแย้ง' นั้นเกิดจากการมีมาตรฐานหรือมีหลักการทำงานที่แตกต่างกันทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำเกิดการครอบงำ จึงพบว่า (ความขัดแย้งของรหัส) 3 ประการดังนี้
1 การทำงานหยุดชะงัก (อัมพาตของการกระทำ) ตนเองตามมา
2 ทำให้เกิดความไม่สบายใจรู้สึกผิด
เกิดการปรับปรุงระบบการทำงานจะทำให้เปลี่ยนระบบการทำงานบ่อยๆอาจทำให้คนสับสนจนปรับตัวไม่ทันเพราะต้องเรียนรู้ใหม่หลายครั้งประสบการณ์เดิม ๆ ได้เสมอ ความสามารถทัศนคติการรับรู้ และแนวคิดของบาร์นาร์ดนี้จะเห็นว่า บาร์นาร์ด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

" ความขัดแย้ง ' นั้นเกิดจากการมีมาตรฐานหรือมีหลักการทำงานที่แตกต่างกันทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำเกิดการครอบงำจากการใช้อำนาจหรือใช้อิทธิพลเข้ามาต่อรองให้ฝ่ายตนอยู่เหนือกว่าจึงพบว่าความขัดแย้งของรหัส ) เป็นเรื่องที่หลีกหนีได้ยากและส่งผลสำคัญประการดังนี้
31 . การทำงานหยุดชะงัก ( อัมพาตของการกระทำ ) เพราะเกิดความเครียดเต็มไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัวจนทำให้คับข้องใจส่งผลให้ขาดความสามารถในการตัดสินใจและขาดความเชื่อมั่นในตนเองตามมา
2การมุ่งทำงานตามมาตรฐานอันหนึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของคนอื่นทำให้เกิดความไม่สบายใจรู้สึกผิดทำให้คนอื่นไม่พอใจและขาดความเชื่อมั่นตนเองได้
3เมื่อมีความขัดแย้งก็ต้องมีการแก้ไขเกิดการปรับปรุงระบบการทำงานจะทำให้เปลี่ยนระบบการทำงานบ่อยๆอาจทำให้คนสับสนจนปรับตัวไม่ทันเพราะต้องเรียนรู้ใหม่หลายครั้งประสบการณ์เดิมๆแม้แต่หลักการทำงานที่ผ่านการกลั่นกรองมาเป็นอย่างดีแล้วก็ย่อมจะพบกับปัญหาได้เสมอเพราะคนในองค์กรมีความแตกต่างด้านความรู้ความสามารถทัศนคติการรับรู้และที่สำคัญคือความแตกต่างด้านจริยธรรมและแนวคิดของ Barnard นี้จะเห็นว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในองค์การนั้นจะส่งผลด้านลบต่อการบริหารองค์การเป็นสำคัญและ Barnard ก็ยอมรับว่าความขัดแย้งเป็นสิงที่เกิดขึ้นได้เสมอ