Whereas Prakṛti is continually acti

Whereas Prakṛti is continually active, Puruṣa is static (passive and not changing).

As Puruṣa cannot be the agent of any activity, it is merely an onlooker or enjoyer of the world. Anything that happens to Puruṣa is because of the activity of Prakṛti.

Prakṛti and Puruṣa always work together, though, like body and spirit. Together, they produce our experience of the world.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Prakṛti เป็นอย่างต่อเนื่อง Puruṣa เป็นแบบคงที่ (แฝงและไม่เปลี่ยนแปลง)Puruṣa ไม่เป็นตัวแทนของกิจกรรมใด ๆ มันเป็นเพียงเป็น onlooker หรือ enjoyer ของโลก สิ่งที่เกิดขึ้นกับ Puruṣa จะ มีการ PrakṛtiPrakṛti และ Puruṣa จะทำงานร่วมกัน แม้ว่า เช่นร่างกายและจิตใจ กัน พวกเขาผลิตประสบการณ์ในโลกของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในขณะที่มีการใช้งาน Prakrti อย่างต่อเนื่องPuruṣaเป็นแบบคงที่ (passive และไม่เปลี่ยนแปลง). ในฐานะที่เป็นPuruṣaไม่สามารถเป็นตัวแทนของกิจกรรมใด ๆ ก็เป็นเพียงผู้ชมหรือ enjoyer ของโลก อะไรที่เกิดขึ้นกับPuruṣaเป็นเพราะการทำงานของ Prakrti. Prakrti Puruṣaและเคยทำงานร่วมกัน แต่เหมือนร่างกายและจิตวิญญาณ ร่วมกันพวกเขาผลิตประสบการณ์ของเราในโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ส่วนผักṛ Ti อย่างต่อเนื่องปราดเปรียว , Puru ṣเป็นแบบคงที่ ( เรื่อยๆไม่เปลี่ยน )

เป็น Puru ṣไม่สามารถเป็นตัวแทนของกิจกรรมใด ๆ มันเป็นแค่ผู้เฝ้าดูหรือ enjoyer ของโลก สิ่งที่เกิดขึ้นกับ Puru ṣเป็นเพราะกิจกรรมของแพรกṛ Ti .

แพรกṛ Ti และ Puru ṣเสมอทำงานร่วมกัน แม้ว่า , เช่น ร่างกาย และจิตวิญญาณ ร่วมกันพวกเขาสร้างประสบการณ์ของโลก .