UV-Vis-NIR Spectrophotometer เป็นเค

UV-Vis-NIR Spectrophotometer เป็นเครื่องที่ใช้ในการหาสมบัติทางสเปกโตรสโคปี โดยใช้ตรวจวัดปริมาณแสงและความเข้มแสง ในช่วงรังสีอัลตราไวโอเลต (UV ray) ถึงช่วงคลื่นที่ตามองเห็น (Visible light) ที่ทะลุผ่านหรือถูกดูดกลืนโดยตัวอย่าง ซึ่งความยาวคลื่นแสงจะสัมพันธ์กับชนิดและปริมาณของสารในตัวอย่างตัวอย่าง เมื่อโมเลกุลของตัวอย่างถูกฉายด้วยแสงที่มีพลังงานเหมาะสมจะทำให้อิเล็กตรอนภายในเกิดการดูดกลืนแล้วเปลี่ยนสถานะในระดับที่สูงกว่า ได้ค่าดูดกลืนคลื่นแสง (Absorbance) ของสารซึ่งแปรผกผันกับจำนวนโมเลกุลที่ดูดกลืนแสง ในงานวิจัยมีการใช้เครื่องมือชนิดนี้อย่างแพร่หลาย เช่น งานวิจัยที่ศึกษาผลกระทบจากวาเนเดียมออกไซด์ของแก้วแคลเซียมฟอสเฟต (Magdas, Vedeanu and Toloman, 2015)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

UV-Vis-NIR สเปคเป็นเครื่องที่ใช้ในการหาสมบัติทางสเปกโตรสโคปีโดยใช้ตรวจวัดปริมาณแสงและความเข้มแสงในช่วงรังสีอัลตราไวโอเลต (UV ray) ถึงช่วงคลื่นที่ตามองเห็น (มองเห็นได้แสง) ที่ทะลุผ่านหรือถูกดูดกลืนโดยตัวอย่างซึ่งความยาวคลื่นแสงจะสัมพันธ์กับชนิดและปริมาณของสารในตัวอย่างตัวอย่างเมื่อโมเลกุลของตัวอย่างถูกฉายด้วยแสงที่มีพลังงานเหมาะสมจะทำให้อิเล็กตรอนภายในเกิดการดูดกลืนแล้วเปลี่ยนสถานะในระดับที่สูงกว่าได้ค่าดูดกลืนคลื่นแสง (ค่า) ของสารซึ่งแปรผกผันกับจำนวนโมเลกุลที่ดูดกลืนแสงในงานวิจัยมีการใช้เครื่องมือชนิดนี้อย่างแพร่หลายเช่นงานวิจัยที่ศึกษาผลกระทบจากวาเนเดียมออกไซด์ของแก้วแคลเซียมฟอสเฟต (Magdas, Vedeanu และ Toloman, 2015)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

UV-Vis-NIR Spectrophotometer ในช่วงรังสีอัลตราไวโอเลต (UV ray) ถึงช่วงคลื่นที่ตามองเห็น (แสงที่มองเห็น) ได้ค่าดูดกลืนคลื่นแสง (Absorbance) เช่น (Magdas, Vedeanu และ Toloman, 2015)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

UV VIS NIR Spectrophotometer เป็นเครื่องที่ใช้ในการหาสมบัติทางสเปกโตรสโคปีโดยใช้ตรวจวัดปริมาณแสงและความเข้มแสงในช่วงรังสีอัลตราไวโอเลต ( รังสี UV ) ถึงช่วงคลื่นที่ตามองเห็น ( แสง ) ที่ทะลุผ่านหรือถูกดูดกลืนโดยตัวอย่างซึ่งความยาวคลื่นแสงจะสัมพันธ์กับชนิดและปริมาณของสารในตัวอย่างตัวอ ย่างเมื่อโมเลกุลของตัวอย่างถูกฉายด้วยแสงที่มีพลังงานเหมาะสมจะทำให้อิเล็กตรอนภายในเกิดการดูดกลืนแล้วเปลี่ยนสถานะในระดับที่สูงกว่าได้ค่าดูดกลืนคลื่นแสง ( Absorbance ) ของสารซึ่งแปรผกผันกับจำนวนโมเลกุลที่ดูดกลืนแสงในงานวิจัยมีการใช้เครื่องมือชนิดนี้อย่างแพร่หลาย เช่นงานวิจัยที่ศึกษาผลกระทบจากวาเนเดียมออกไซด์ของแก้วแคลเซียมฟอสเฟต ( magdas vedeanu , และ toloman 2015 )