Geography[edit] Pliny the Elder and

Geography[edit]

Pliny the Elder and other writers identify Petra as the capital of the Nabataeans and the center of their caravan trade. Enclosed by towering rocks and watered by a perennial stream, Petra not only possessed the advantages of a fortress, but controlled the main commercial routes which passed through it to Gaza in the west, to Bosra and Damascus in the north, to Aqaba and Leuce Come on the Red Sea, and across the desert to the Persian Gulf.





Map of Petra




The narrow passage (Siq) that leads to Petra
Excavations have demonstrated that it was the ability of the Nabataeans to control the water supply that led to the rise of the desert city, creating an artificial oasis. The area is visited by flash floods and archaeological evidence demonstrates the Nabataeans controlled these floods by the use of dams, cisterns and water conduits. These innovations stored water for prolonged periods of drought, and enabled the city to prosper from its sale.[7][8]

In ancient times, Petra might have been approached from the south on a track leading across the plain of Petra, around Jabal Haroun ("Aaron's Mountain"), where the Tomb of Aaron, said to be the burial-place of Aaron, brother of Moses, is located. Another approach was possibly from the high plateau to the north. Today, most modern visitors approach the site from the east. The impressive eastern entrance leads steeply down through a dark, narrow gorge (in places only 3–4 m (9.8–13.1 ft) wide) called the Siq ("the shaft"), a natural geological feature formed from a deep split in the sandstone rocks and serving as a waterway flowing into Wadi Musa. At the end of the narrow gorge stands Petra's most elaborate ruin, Al Khazneh (popularly known as "the Treasury"), hewn into the sandstone cliff. While remaining in remarkably preserved condition, the face of the structure is marked by hundreds of bullet holes made by the local Bedouin tribes that hoped to dislodge riches that were once rumored to be hidden within it.[9]

A little farther from the Treasury, at the foot of the mountain called en-Nejr, is a massive theatre, positioned so as to bring the greatest number of tombs within view. At the point where the valley opens out into the plain, the site of the city is revealed with striking effect. The amphitheatre has been cut into the hillside and into several of the tombs during its construction. Rectangular gaps in the seating are still visible. Almost enclosing it on three sides are rose-colored mountain walls, divided into groups by deep fissures and lined with knobs cut from the rock in the form of towers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

[แก้ไข] ภูมิศาสตร์

Pliny ผู้อาวุโสและนักเขียนอื่น ๆ ระบุเปตราเป็นเมืองหลวงของ Nabataeans ศูนย์การค้าคาราวานของพวกเขา ล้อมรอบ ด้วยหินสูง และผู้ติดธารน้ำยืนต้น เปตราไม่เพียงแต่ต้องมีข้อได้เปรียบของป้อมปราการ แต่ควบคุมเส้นทางค้าหลักที่ผ่านมันไปฉนวนกาซาในตะวันตก Bosra และดามัสกัสในภาคเหนือ อควาบาและมา Leuce ทะเลแดง และ ข้ามทะเลทรายไปอ่าวเปอร์เซีย



แผนที่เภตรา


เส้นทางแคบ (Siq) ที่นำไปสู่เปตรา
ทิศได้แสดงว่า เป็นความสามารถของ Nabataeans การควบคุมน้ำที่นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของเมืองทะเลทราย สร้างโอเอซิสประดิษฐ์ มีการเยี่ยมชมพื้นที่ โดยน้ำท่วม flash และหลักฐานทางโบราณคดีแสดงให้เห็นถึง Nabataeans การควบคุมน้ำท่วมเหล่านี้ โดยการ ใช้สาย cisterns conduits น้ำ นวัตกรรมเหล่านี้เก็บน้ำแล้งนาน และเมืองรุ่งเรืองจากการขายของการเปิดใช้งาน[7][8]

ในสมัยโบราณ เปตราอาจมีการทาบทามจากภาคใต้ในการติดตามนำข้ามล้วนเภตรา รอบ Jabal Haroun ("ของอาโรน"), สุสานแอรอน กล่าวว่า เป็น ฝังศพของอาโรน พี่ชายของ Moses ที่อยู่ วิธีอื่นได้อาจจะจากราบสูงที่สูงทางทิศเหนือ วันนี้ นักท่องเที่ยวที่ทันสมัยที่สุดเข้าเว็บไซต์จากตะวันออก ทางตะวันออกประทับใจลูกค้าเป้าหมายอย่างสูงลงผ่านโดดที่มืด แคบ (ในสถานเพียง 3 – 4 m (9.8-131 ฟุต) กว้าง) เรียกว่า Siq ("เพลา"), ลักษณะธรณีวิทยาธรรมชาติเกิดขึ้นจากการแบ่งลึกในหินทรายหินและเสิร์ฟเป็นน้ำที่ไหลลงสู่วัลดิร์มูซา เมื่อสิ้นสุดท้าทายแคบหมายถึงทำลายสุดประณีตของเภตรา Al Khazneh ที่ (เรียกขานกันว่า "ธนารักษ์"), ที่ hewn เป็นหน้าผาหินทราย ในขณะที่เหลือในไข้แต่รักษาสภาพ ใบหน้าของโครงสร้างไว้ ด้วยหลายร้อยหลุมกระสุนโดยชนเผ่าท้องถิ่นอควาที่หวังว่าจะไล่ออกริชเชสที่ถูกข่าวลือถูกซ่อนอยู่ภายในครั้งเดียว[9]

น้อยอยู่ห่างจากธนารักษ์ ที่เท้าของภูเขาที่เรียกว่า Nejr น้ำ เป็นโรงละครขนาดใหญ่ ตำแหน่งเพื่อนำจำนวนการเมืองภายในมุมมอง จุดที่หุบเขาเปิดออกเป็นราบ เว็บไซต์แห่งนี้จะเปิดเผย มีลักษณะพิเศษโดดเด่น อัฒจันทร์มีการตัด เป็นเนินเขา และ ในหลายเมืองก่อสร้างของการ ช่องสี่เหลี่ยมในที่นั่งที่ยังคงมองเห็นได้ เกือบล้อมสามด้านเป็นผนังภูเขา rose-colored แบ่งกลุ่ม โดย fissures ลึก และเต็มไป ด้วยลูกบิดที่ตัดจากหินในรูปแบบของอาคาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภูมิศาสตร์ [แก้ไข] พลิพี่นักเขียนและอื่น ๆ ที่ระบุใน Petra เป็นเมืองหลวงของ Nabataeans และศูนย์กลางของการค้าคาราวานของพวกเขา ล้อมรอบด้วยโขดหินสูงตระหง่านและน้ำจากลำธารยืนต้นเพตราไม่เพียง แต่มีข้อได้เปรียบของป้อมปราการ แต่ควบคุมเส้นทางการค้าหลักที่ผ่านไปยังฉนวนกาซาในตะวันตกเพื่อบอสราและดามัสกัสในภาคเหนือเพื่อให้ตูนและ Leuce มา ในทะเลแดงและข้ามทะเลทรายไปยังอ่าวเปอร์เซียแผนที่ของเพตราทางเดินแคบ ๆ (Siq) ที่นำไปสู่เพตราขุดเจาะได้แสดงให้เห็นว่ามันเป็นความสามารถของ Nabataeans เพื่อควบคุมน้ำประปาที่นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของ เมืองทะเลทรายสร้างโอเอซิสเทียม พื้นที่ที่มีการเข้าชมโดยน้ำท่วมฉับพลันและหลักฐานทางโบราณคดีที่แสดงให้เห็นถึง Nabataeans ควบคุมน้ำท่วมเหล่านี้โดยการใช้ประโยชน์จากเขื่อนอ่างและท่อน้ำ นวัตกรรมเหล่านี้เก็บไว้น้ำเป็นระยะเวลานานของภัยแล้งและการใช้งานในเมืองที่ประสบความสำเร็จจากการขายของตน. [7] [8] ในสมัยโบราณเพตราอาจจะได้รับการทาบทามจากทางทิศใต้ในการติดตามชั้นนำทั่วธรรมดาเพตรารอบ Jabal Haroun ("แอรอนเมาน์เทน") ที่หลุมฝังศพของแอรอนกล่าวกันว่าเป็นที่ฝังศพสถานที่ของแอรอนพี่ชายของโมเสสตั้งอยู่ อีกวิธีหนึ่งก็อาจจะมาจากที่ราบสูงไปทางทิศเหนือ วันนี้ผู้เข้าชมที่ทันสมัยที่สุดเข้าเว็บไซต์จากทางทิศตะวันออก ทางทิศตะวันออกเข้าที่น่าประทับใจนำไปสู่ชันลงผ่านมืดหุบเขาแคบ ๆ (ในสถานที่เพียง 3-4 เมตร (9.8-13.1 ฟุต) กว้าง) ที่เรียกว่า Siq ("เพลา") ลักษณะทางธรณีวิทยาที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาจากรอยแยกลึกลงไปใน หินหินทรายและทำหน้าที่เป็นทางน้ำไหลลงสู่ Wadi Musa ในตอนท้ายของหุบเขาแคบยืนเพตราทำลายประณีตที่สุดอัล Khazneh (ที่รู้จักกันแพร่หลายเป็น "ธนารักษ์") โค่นลงไปในหน้าผาหินทราย ในขณะที่เหลืออยู่ในสภาพที่เก็บรักษาไว้อย่างน่าทึ่งใบหน้าของโครงสร้างที่มีการทำเครื่องหมายโดยร้อยรูกระสุนที่ผลิตโดยชนเผ่าเบดูอินในท้องถิ่นที่หวังว่าจะทำให้หลุดจากความร่ำรวยที่ร่ำลือกันครั้งเดียวที่จะได้รับการซ่อนอยู่ภายใน it. [9] เล็ก ๆ น้อย ๆ ไกลออกไปจากธนารักษ์ ที่เท้าของภูเขาที่เรียกว่า en-Nejr เป็นโรงละครขนาดใหญ่วางเพื่อนำจำนวนมากที่สุดของสุสานในมุมมอง ที่จุดที่หุบเขาเปิดออกไปยังที่ราบ, เว็บไซต์ของเมืองถูกเปิดเผยกับผลที่โดดเด่น อัฒจันทร์ที่ได้รับการตัดเป็นเนินเขาและเป็นหลายของสุสานในระหว่างการก่อสร้าง ช่องว่างสี่เหลี่ยมในที่นั่งยังคงมองเห็นได้ เกือบล้อมรอบในสามด้านเป็นสีกุหลาบผนังภูเขาแบ่งออกเป็นกลุ่มโดยรอยแยกลึกและเรียงรายไปด้วยลูกบิดตัดออกมาจากหินในรูปแบบของอาคาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภูมิศาสตร์ [ แก้ไข ]

พลินิผู้อาวุโสนักเขียน และอื่น ๆระบุ เพตราเป็นเมืองหลวงของนาบาเทียน และศูนย์ของคาราวานการค้า ล้อมรอบด้วยหินสูงตระหง่าน และรดน้ำด้วยกระแส perennial เภตราไม่เพียง แต่มีข้อดีของป้อม แต่ควบคุมการค้าหลัก เส้นทางที่ผ่านมันในฉนวนกาซาในตะวันตกเพื่อบอสราและดามัสกัสในภาคเหนือกับอัคคาบาลูซมาและในทะเลแดง และข้ามทะเลทรายไปยังอ่าวเปอร์เซีย .





แผนที่ของเภตรา




ทางเดินแคบ ( ซิก ) ที่นำไปสู่เภตรา
ขุดค้นพบว่ามันคือความสามารถของนาบาเทียน เพื่อควบคุมน้ำที่นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของทะเลทรายเมือง การสร้างโอเอซิสเทียมพื้นที่ที่เข้าชมโดยน้ำท่วมฉับพลันและหลักฐานทางโบราณคดีแสดงให้เห็น นาบาเทียนควบคุมอุทกภัยเหล่านี้ โดยการใช้เขื่อน และอ่างเก็บน้ำ น้ำ วางท่อ นวัตกรรมเหล่านี้เก็บน้ำสำหรับรอบระยะเวลานานที่แห้งแล้ง และทำให้เมืองเจริญจากการขายของ [ 7 ] [ 8 ]

ในสมัยโบราณครั้ง เภตราอาจได้รับการทาบทามจากภาคใต้ในการติดตามนำข้ามที่ราบในซานฟรานซิสโกรอบ จาบาล haroun ( " ภูเขา " ของอาโรน ) ที่สุสานของอาโรน กล่าวว่า เป็นสถานที่ฝังศพของอาโรนพี่ชายของโมเสส ตั้งอยู่ อีกวิธีหนึ่ง คือ อาจจะ จากพื้นที่ราบสูงทางทิศเหนือ วันนี้เข้าชมวิธีการเว็บไซต์ที่ทันสมัยที่สุดจากตะวันออก ทางเข้าทิศตะวันออกสูงชันน่าประทับใจนักลงผ่านช่องเขาแคบ ( มืดในสถานที่ 3 – 4 เมตร ( 9.8 – 131 ฟุต ) กว้าง ) เรียกว่า ซิก ( " เพลา " ) , คุณสมบัติทางธรณีวิทยาธรรมชาติเกิดขึ้นจากลึกแยกเป็นหินทรายหินและให้บริการเป็นทางน้ำที่ไหลเข้าสู่ วาดี มูซา . ที่ส่วนท้ายของหุบเขาแคบหมายถึง เภตราก็ซับซ้อนมากที่สุดทำลายอัลคัซนีย์ ( นิยมเรียกว่า " คลัง " ) ถูกโค่นลงหน้าผาหินทราย ในขณะที่อยู่ในบนรักษาสภาพใบหน้าของโครงสร้างมีการทำเครื่องหมายโดยร้อยรูกระสุนที่ทำโดยท้องถิ่นเผ่าเบดูอิน ที่หวังปลดทรัพย์ที่เคยเป็นข่าวลือที่ถูกซ่อนอยู่ภายใน [ 9 ]

อีกหน่อยจากกระทรวงการคลัง ที่เท้าของภูเขาที่เรียกว่า en nejr เป็นโรงละครขนาดใหญ่ วางเพื่อ ให้มากที่สุดของสุสานภายในมุมมองที่จุดที่หุบเขาเปิดออกไปในธรรมดา , เว็บไซต์ของเมืองถูกเปิดเผยกับผลที่โดดเด่น อัฒจันทร์มีการตัดเป็นเนินเขาและเป็นหลายของสุสานในระหว่างการก่อสร้าง สี่เหลี่ยมช่องว่างในที่นั่งจะยังคงมองเห็นได้ เกือบจะแนบกับผนังสามด้านเป็นสีกุหลาบภูเขาแบ่งออกเป็นกลุ่มโดยลึก fissures และเรียงรายด้วยลูกบิดตัดจากหินในรูปแบบของอาคาร