All three dorsal-fin spines are lon

All three dorsal-fin spines are long and robust and at least the
first two bear low serrations along the anterior and, especially
on the second spine, lateral edges. The distal end of the first
dorsal spine is missing, but based on the thickness and degree
of tapering of the basal region we estimate that the first spine
was only slightly longer (73% SL) than the second (63% SL),while by measurement the length of the third (42% SL) is
slightly more than half that of the second. The large rounded
base of the second dorsal spine does not appear to make close
contact with the posterior edge of the base of the first spine.
Therefore, we think it unlikely that the complex locking
mechanism of the first spine by the second spine as found in
Recent and fossil (as early as the Oligocene) balistids is
present. The origin of the spiny dorsal fin is at a level about half
way between the eye and the region of the gill slit and
pectoral-fin base, and the anterior end of its supporting basal
pterygiophores (which cannot be seen because of overlying
large scale plates) probably articulated with the posterodorsal
surface of the skull.
The base of the caudal fin is preserved and there appear to
have been 12 rays, but we cannot determine how many were
branched or unbranched because the distal part of the fin is only
a faint impression. There are no remains of the pectoral, soft
dorsal, or anal fins, and these are shown hypothetically by
dashed lines in the reconstruction (Figure 2). We presume that
there were no anal-fin spines because if such were present they
could be expected to be as easily visible as the dorsal-fin
spines, the rudimentary pelvic-fin spine and the carapace
spines.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทั้งหมดสาม dorsal fin spines จะยาว และแข็งแกร่ง และน้อยสองครั้งแรกหมี serrations ต่ำตามแอนทีเรียร์ และ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระดูกสันหลัง 2 ด้านข้างขอบ สิ้นสุดที่กระดูกครั้งแรกกระดูกสันหลัง dorsal หาย แต่ตามความหนาและระดับของเรียวภาคโรค เราคาดว่ากระดูกสันหลังแรกมีเพียงเล็กน้อยอีกต่อไป (73% SL) กว่าที่สอง (63% SL), ในขณะที่ โดยวัดความยาวของสาม (42% SL)ขนาดเล็กกว่าครึ่งที่สอง ปัดขนาดใหญ่ฐานของกระดูกสันหลัง dorsal สองไม่ ให้ปิดติดต่อกับขอบด้านหลังของฐานของกระดูกสันหลังแรกดังนั้น เราคิดว่า มันไม่น่าที่ล็อกซับซ้อนกลไกของกระดูกสันหลังแรกโดยกระดูกสันหลังสองเป็นพบในล่าสุดและ balistids (เป็นช่วงต้น Oligocene) ซากพืชซากสัตว์ปัจจุบัน เป็นจุดเริ่มต้นของครีบ dorsal ฟานเหลืองในระดับประมาณครึ่งหนึ่งทางระหว่างตาและภูมิภาคของร่องเหงือก และฐาน pectoral fin และแอนทีเรียร์สิ้นสุดของการสนับสนุนโรคpterygiophores (ซึ่งไม่เห็น เพราะเหล่านั้นขนาดใหญ่แผ่น) คงพูดชัดแจ้ง ด้วย posterodorsalพื้นผิวของกะโหลกศีรษะรักษาฐานของครีบ caudal และปรากฏมีการได้รับรังสี 12 แต่เราไม่สามารถกำหนดได้หลายวิธีbranched หรือ unbranched เพราะส่วนกระดูกของหูเป็นเท่านั้นความประทับใจเบา มีไม่ยังคง pectoral นุ่มครีบ dorsal หรือทางทวารหนัก และเหล่านี้จะถูกแสดงโดย hypotheticallyเส้นประในฟื้นฟู (2 รูป) เราตีที่มี spines ไม่ฟินทางทวารหนักเนื่องจากดังกล่าวได้ นำพวกเขาสามารถคาดว่าจะสามารถมองเห็นได้อย่างง่ายดายเป็น dorsal-หูspines, rudimentary เชิงกรานครีบสันหลัง และ carapacespines

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทั้งสามเงี่ยงครีบหลังครีบยาวและมีประสิทธิภาพและอย่างน้อยสองคนแรกแบก serrations ต่ำพร้อมหน้าและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับกระดูกสันหลังที่สองขอบด้านข้าง ปลายสุดแรกกระดูกสันหลังหลังจะหายไปแต่ขึ้นอยู่กับความหนาและระดับของเรียวของพื้นที่ฐานที่เราคาดว่ากระดูกสันหลังส่วนแรกเป็นเพียงเล็กน้อยอีกต่อไป(73% SL) มากกว่าที่สอง (63% SL) ในขณะที่โดย วัดความยาวของสาม (42% SL) จะน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของที่สอง โค้งขนาดใหญ่ที่ฐานของกระดูกสันหลังส่วนหลังที่สองไม่ปรากฏขึ้นเพื่อให้ใกล้เคียงกับการติดต่อกับขอบด้านหลังของฐานของกระดูกสันหลังแรก. ดังนั้นเราจึงคิดว่ามันไม่น่าที่ล็อคซับซ้อนกลไกของกระดูกสันหลังเป็นครั้งแรกโดยกระดูกสันหลังที่สองที่พบในที่ผ่านมาและฟอสซิล (เป็นช่วงต้น Oligocene) ที่ balistids เป็นปัจจุบัน ต้นกำเนิดของครีบหลังหนามอยู่ในระดับประมาณครึ่งทางระหว่างตาและภาคกลางของร่องเหงือกและฐานครีบอกครีบและปลายด้านหน้าของฐานสนับสนุนpterygiophores (ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้เพราะการวางแผ่นขนาดใหญ่) ก้องอาจจะมี posterodorsal พื้นผิวของกะโหลกศีรษะ. ฐานของครีบหางจะถูกรักษาไว้และมีปรากฏได้รับ 12 รังสี แต่เราไม่สามารถกำหนดวิธีการที่หลายคนถูกแยกหรือunbranched เพราะส่วนปลายของครีบเป็นเพียงความประทับใจลม. ไม่มีซากของครีบอกมีความอ่อนนุ่มหลังหรือครีบทวารหนัก, และเหล่านี้จะแสดงให้เห็นสมมุติฐานโดยเส้นประในการฟื้นฟูบูรณะ(รูปที่ 2) เราเข้าใจว่าไม่มีเงี่ยงครีบทวาร-เพราะถ้าอยู่ในปัจจุบันเช่นที่พวกเขาอาจจะคาดว่าจะเป็นที่มองเห็นได้ง่ายในขณะที่ครีบหลังสันกระดูกสันหลังกระดูกเชิงกรานครีบพื้นฐานและกระดองเงี่ยง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทั้งสามกระโดงหนามยาวและแข็งแกร่ง และอย่างน้อยสองคนแรกหมีน้อย
serrations ตามด้านหน้าและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
บนใบที่สองด้านข้างขอบ ที่ส่วนปลายของกระดูกสันหลังส่วนแรก
หายไป แต่ขึ้นอยู่กับความหนาและ ปริญญา
ของเรียวของเขตแรกเริ่ม เราประมาณการว่า
แนวสันแรกเพียงเล็กน้อยอีกต่อไป ( 73 % SL ) กว่าวินาที ( 63 % SL )ในขณะที่โดยการวัดความยาวของที่สาม ( 42 % SL )
เล็กน้อยมากกว่าครึ่งหนึ่งของ 2 ฐานกลมขนาดใหญ่ของกระดูกสันหลังส่วน
2 ไม่ปรากฏให้ติดต่อ
กับขอบด้านหลังของกระดูกสันหลังของฐานแรก
ดังนั้น เราคิดว่า มันไม่น่าที่ซับซ้อนของกลไกการล็อค
กระดูกสันหลังโดยใบที่สองที่พบใน
และฟอสซิลล่าสุด ( เร็ว
balistids โอลิ ) เป็นปัจจุบัน จุดเริ่มต้นของครีบหลังมีหนามอยู่ในระดับประมาณครึ่งหนึ่ง
ระหว่างตาและภูมิภาคของช่องเหงือกและ
ฐานของครีบอก และปลายด้านหน้าของสนับสนุนแรกเริ่ม
pterygiophores ( ซึ่งไม่สามารถเห็นได้ เพราะนอนทับ
แผ่นขนาดใหญ่ ) อาจจะพ่วงกับพื้นผิว posterodorsal
ของกะโหลก .
ฐานของครีบและหางจะถูกเก็บรักษาไว้ที่นั่นปรากฏ
ได้รับ 12 รังสี แต่เราไม่สามารถกำหนดวิธีการหลายแขนง หรือ unbranched
เนื่องจากส่วนปลายของครีบเป็นเพียง
ความประทับใจเป็นลม ไม่มีซากของหน้าอกนุ่ม
ครีบหลังครีบ หรือ ทวารหนัก และเหล่านี้จะถูกแสดงในทางทฤษฏีโดย
เส้นประในการฟื้นฟู ( รูปที่ 2 ) เราเข้าใจว่า
ไม่มีเงี่ยงครีบ เพราะหากเป็นเช่นนั้น ปัจจุบันพวกเขา
อาจจะคาดว่าจะสามารถมองเห็นเป็นเงี่ยงครีบหลังครีบเป็นพื้นฐาน
,
กระดูกสันหลังและกระดองหนาม