This is the first study to reveal t

This is the first study to reveal the occurrence of occupational
dermatoses in workers practicing many different occupations in
Greece. It concerns only cases of occupational dermatoses. We
studied occupational dermatoses in workers who were at a high
risk for occupational dermatitis on account of their occupational
exposure, which was similar within each type of enterprise. We
found a high overall prevalence rate, which can be accounted for by
the hazardous working conditions prevailing in many of the 104
companies studied, resulting also from a limited compliance with
Greek occupational health law pertaining to the application of
health protection at work. It is noted that no data on skin diseases
by occupation are analyzed by the national statistical service of
Greece [31]. Furthermore, very few cases of dermatoses are
compensated annually as occupational skin diseases by the National
Institute of Health (IKA), which is the national insurance
scheme of Greece and reported only 17 cases of contact dermatitis
in 2005 [32]. Interestingly, no cases of other types of occupational
dermatoses were reported to the IKA This stands in sharp contrast
with the 1,596 cases of occupational dermatoses and the 746 cases
of contact dermatitis diagnosed in our study in 4,000 workers, in
the period 2006e2012. This discrepancy can be accounted for by
the under-diagnosing and under-reporting of all cases of occupational
diseases in Greece to date. We found that cases of occupational
contact dermatitis constituted 32.1% of total cases of
occupational dermatoses. We demonstrated a statistically signifi-
cant correlation between seven occupational skin diseases and 20
types of enterprises (i.e., types of work). The different prevalence
rates indicate different risks prevailing in the various enterprises
studied.
Several prospective cohort and cross-sectional studies on contact
dermatitis have reported high occurrences in workers
employed in various occupations: 9% in metal working apprentices
in car industry [23], 15% in dentists [24], 18% in hairdressers [25],
20% in metal workers (turners, machinists and toolmakers) [30],
28% in veterinarians [31], and 25e30% in nurses [33].
Active medical surveillance and workplace visits resulted in
identifying substances to which workers may have been continuously
exposed inadvertently. In conventional printing technology,
allergens, including formaldehyde, methyl-chloro-iso-thiazolinone,
chromate cobalt, and organic solvents used to clean down machinery,
were found to create chronic contact dermatitis in printers.
Nethercott et al [34] in Toronto, Canada, recorded the occurrence of
dermatitis in the printing industry. Following an investigation,
kitchen staff were observed handling raw and moist food for many
hours each day. They used cleansers, detergents, frequent hand
washing, and rarely wore gloves. Contact dermatitis was a frequent
disorder among patients who handled food. Of them, 5.7% suffered
from irritant contact dermatitis, 2.4% from contact urticaria, and
1.8% from allergic contact dermatitis [35].
We found, in agreement with another study [36], that hairdressers
presented contact dermatitis, which was confirmed by
dermatologists who performed patch tests. These tests revealed
allergies to preservatives such as formaldehyde, fragrances, rubber
chemicals, methyl-di-bromo-glutaronitrile in shampoos and to
leave-on products. Most hairdressers who wore costume jewelry
showed nickel sensitization.
The current study confirmed that prevalence of chemical burns
among industrial cleaning workers is high (13.0%) due to exposure
to organic solvents, acids, alkali, detergents, and oxidizing agents
among those who were not wearing rubber gloves, a finding
compatible with other studies [6,22]. Annual incidence of occupational
contact dermatitis among cleaning workers was reported to
be 43.5/100,000 employees in France [37].High occurrence of malignant tumors among farmers was
attributed to exposure to solar radiation, pesticides, chemical fertilizers,
and machinery fuels [38,39]. Hogan et al [40] in Florida,
USA, found that contact dermatitis and nonmelanoma skin cancer
were the most common occupational skin disorders in North
American workers.
Cement containing chromate salts and chlorinated hydrocarbons
was suspected as the cause of acne in bitumen laying workers,a finding compatible with the findings reported by Stocks et al
[8,41].
Lazzarini et al [42] also found a high incidence of allergic contact
dermatitis among construction workers who had a high frequency
of sensitization to cement, in Brazil.
Mechanical wear and tear, light oils, degreasing solvents, and
synthetic mineral fibers have been found to frequently cause irritation
of the skin [43].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นการศึกษาแรกให้เหมาะกับเหตุการณ์ของอาชีวdermatoses ในงานฝึกอาชีพต่าง ๆ มากมายกรีซ มันเกี่ยวข้องกับกรณีของ dermatoses อาชีว เราเรียนอาชีว dermatoses ในคนงานที่อยู่ในสูงความเสี่ยงสำหรับอาชีวอักเสบในบัญชีการอาชีวแสง ซึ่งเหมือนกันในแต่ละชนิดขององค์กร เราพบอัตราความเร็วโดยรวมชุก ซึ่งสามารถจะลงบัญชีโดยเงื่อนไขทำงานอันตรายที่ขึ้นใน 104บริษัทศึกษา นอกจากนี้ยังเกิดจากการจำกัดการปฏิบัติตามกฎหมายอาชีวอนามัยกรีกเกี่ยวกับการประยุกต์คุ้มครองสุขภาพที่ทำงาน ตั้งข้อสังเกตว่า ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับโรคผิวหนังโดยอาชีพลักษณะบริการสถิติแห่งชาติของกรีซ [31] นอกจากนี้ มีน้อยมากของ dermatosesชดเชยปีเป็นโรคผิวหนังที่อาชีวโดยชาติสถาบันของสุขภาพ (IKA), ซึ่งเป็นการประกันภัยแห่งชาติโครงร่างของกรีซและรายงาน 17 กรณีอักเสบติดต่อในปี 2005 [32] เป็นเรื่องน่าสนใจ ไม่กรณีอื่น ๆ ชนิดของอาชีพdermatoses ได้รายงาน IKA นี้ยืนในความคมชัดคมกับกรณี 1,596 dermatoses อาชีวและกรณี 746ของการวินิจฉัยในการศึกษาของเราในงาน 4000 ในอักเสบติดต่อ2006e2012 ระยะเวลาการ ความขัดแย้งนี้สามารถจะลงบัญชีโดยวิเคราะห์ภายใต้และใต้รายงานกรณีทั้งหมดของอาชีพโรคในกรีซวันที่ เราพบว่ากรณีของอาชีวผิวหนังอักเสบติดต่อทะลัก 32.1% ของคดีทั้งหมดdermatoses อาชีว ว่าเป็นทางสถิติความ -ความสัมพันธ์ระหว่างโรคผิวหนังที่อาชีว 7 และ 20 ต้อนชนิดขององค์กร (เช่น ประเภทของงาน) ส่วนที่แตกต่างกันราคาบ่งชี้ความเสี่ยงที่แตกต่างกันขึ้นในองค์กรต่าง ๆศึกษาCohort อนาคตและการศึกษาติดต่อเหลวหลายผิวหนังอักเสบมีรายงานการเกิดสูงในผู้ปฏิบัติงานจ้างงานในอาชีพต่าง ๆ: 9% ในฝึกงานโลหะในอุตสาหกรรมรถยนต์ [23], 15% ในทันตแพทย์ [24], 18% ในช่าง [25],20% ในงานโลหะ (turners สึกหรอ และ toolmakers) [30],28% สัตวแพทย์ [31], และ 25e30% ในพยาบาล [33]เฝ้าระวังทางการแพทย์ที่ใช้งานอยู่และทำงานให้ชมระบุสารที่คนงานอาจได้รับอย่างต่อเนื่องเปิดเผยโดยไม่ได้ตั้งใจ ในเทคโนโลยีการพิมพ์ทั่วไปสารก่อภูมิแพ้ รวมถึงฟอร์มาลดีไฮด์ methyl-chloro-iso-thiazolinoneโคบอลต์ chromate และหรือสารทำละลายอินทรีย์ที่ใช้ในการทำความสะอาดลงเครื่องจักรพบการสร้างผิวหนังอักเสบเรื้อรังของผู้ติดต่อในเครื่องพิมพ์Nethercott et al [34] ในโตรอนโต แคนาดา บันทึกการเกิดผิวหนังอักเสบในอุตสาหกรรมการพิมพ์ ต่อการสอบสวนพนักงานครัวสุภัคจัดการอาหารดิบ และชุ่มชื่นในหลายชั่วโมงแต่ละวัน พวกเขาใช้สกปรก ผงซักฟอก มือบ่อยซักผ้า และสวมถุงมือไม่ค่อย ติดต่ออักเสบได้พบบ่อยโรคในผู้ป่วยที่จัดการอาหาร ของพวกเขา 5.7% รับความเดือดร้อนจากอักเสบ irritant ติดต่อ 2.4% จากติดต่อ urticaria และ1.8% จากแพ้อักเสบติดต่อ [35]เราพบ ยังคงศึกษาอื่น [36], ช่างที่ติดต่อผิวหนังอักเสบ ซึ่งได้รับการยืนยันโดยการนำเสนอแพทย์ผิวหนังที่ดำเนินการทดสอบโปรแกรมปรับปรุง ทดสอบเหล่านี้เปิดเผยแพ้สารกันบูดเช่นฟอร์มาลดีไฮด์ น้ำหอม ยางเคมีภัณฑ์ methyl-ดิโบรโม-glutaronitrile ในแชมพู และปล่อยบนผลิตภัณฑ์ ช่างส่วนใหญ่ที่สวมเครื่องประดับเครื่องแต่งกายแสดง sensitization นิกเกิลการศึกษาปัจจุบันได้รับการยืนยันว่า ชุกไหม้สารเคมีในอุตสาหกรรมทำความสะอาดคนงานมีสูง (13.0%) เนื่องจากแสงการอินทรีย์ กรด ด่าง ผงซักฟอก และตัวแทนเติมออกซิเจนในหมู่ผู้ที่ไม่ได้สวมถุงมือยาง การค้นหาเข้ากันได้กับการศึกษาอื่น [6,22] ปีเกิดอาชีพผิวหนังอักเสบติดต่อในหมู่ผู้ปฏิบัติงานทำความสะอาดมีการรายงานมีพนักงาน 43.5/100000 ในฝรั่งเศส [37] เกิดเนื้องอกร้ายแรงในหมู่เกษตรกรสูงได้เกิดจากการสัมผัสกับรังสีแสงอาทิตย์ ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมีและเชื้อเพลิงเครื่องจักร [38,39] Hogan et al [40] ในฟลอริดาสหรัฐอเมริกา พบว่าอักเสบติดต่อ และโรคมะเร็งผิวหนัง nonmelanomaมีความผิดปกติของผิวอาชีวทั่วเหนือคนอเมริกันปูนซีเมนต์ที่ประกอบด้วยเกลือ chromate และไฮโดรคาร์บอนคลอรีนถูกสงสัยว่าเป็นสาเหตุของสิวใน bitumen วางงาน ค้นหาที่เข้ากันได้กับผลการวิจัยที่รายงานโดยหุ้น et al[8,41]Lazzarini et al [42] นอกจากนี้ยังพบอุบัติการณ์สูงติดต่อแพ้ผิวหนังอักเสบในหมู่ผู้ปฏิบัติงานก่อสร้างที่มีความถี่สูงของ sensitization ประสาน บราซิลเครื่องจักรกลสวมใส่และฉีกขาด สีน้ำมัน degreasing หรือสารทำละลาย และพบแร่ใยสังเคราะห์ทำให้เกิดการระคายเคืองบ่อย ๆของผิว [43]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นี่คือการศึกษาแรกที่จะเผยให้เห็นการเกิดขึ้นของการประกอบอาชีพ
dermatoses
คนงานในการฝึกอาชีพที่แตกต่างกันจำนวนมากในกรีซ มันเกี่ยวข้องกับกรณีเดียวของ dermatoses การประกอบอาชีพ เราศึกษา dermatoses อาชีพในคนงานที่อยู่ในระดับสูงมีความเสี่ยงสำหรับโรคผิวหนังการประกอบอาชีพในบัญชีของการประกอบอาชีพของพวกเขาการสัมผัสซึ่งเป็นที่คล้ายกันภายในชนิดของแต่ละองค์กร เราพบว่ามีอัตราความชุกสูงซึ่งสามารถคิดโดยสภาพการทำงานที่เป็นอันตรายที่เกิดขึ้นในหลาย104 บริษัท การศึกษาที่เกิดจากการปฏิบัติตามที่ จำกัด ด้วยกฎหมายอาชีวอนามัยกรีกที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้การคุ้มครองสุขภาพในที่ทำงาน เป็นที่สังเกตว่าไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับโรคผิวหนังจากการประกอบอาชีพได้รับการวิเคราะห์โดยบริการสถิติแห่งชาติของกรีซ[31] นอกจากนี้บางกรณีมาก dermatoses จะได้รับการชดเชยเป็นประจำทุกปีเป็นโรคผิวหนังอาชีพแห่งชาติสถาบันสุขภาพ(IKA) ซึ่งเป็นประกันภัยแห่งชาติรูปแบบของกรีซและรายงานเพียง17 กรณีที่มีการอักเสบของผิวหนังในปี2005 [32] ที่น่าสนใจกรณีไม่มีการชนิดอื่น ๆ ของการประกอบอาชีพdermatoses ถูกรายงานไปยัง IKA นี้ยืนในคมชัดกับ1596 กรณี dermatoses การประกอบอาชีพและ 746 กรณีของการอักเสบของผิวหนังโดยการวินิจฉัยในการศึกษาของเราใน4,000 คนในระยะเวลา2006e2012 ความแตกต่างนี้สามารถคิดโดยอยู่ภายใต้การวินิจฉัยและอยู่ภายใต้การรายงานทุกกรณีของการประกอบอาชีพโรคในกรีซวันที่ เราพบว่ากรณีของการประกอบอาชีพการติดต่อโรคผิวหนังประกอบด้วย 32.1% ของกรณีรวมของ dermatoses การประกอบอาชีพ เราแสดงให้เห็นถึง signifi- สถิติสัมพันธ์ระหว่างลาดเทเจ็ดโรคผิวหนังอาชีวอนามัยและ20 ประเภทของผู้ประกอบการ (เช่นชนิดของการทำงาน) ความชุกที่แตกต่างกันอัตราการบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่แตกต่างกันที่เกิดขึ้นในสถานประกอบการต่างๆได้ศึกษา. การศึกษาในอนาคตหลายและการศึกษาแบบตัดขวางในการติดต่อโรคผิวหนังได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สูงในคนงานที่ใช้ในการประกอบอาชีพต่างๆ: 9% ในโลหะฝึกหัดการทำงานในอุตสาหกรรมรถยนต์[23], 15 % ในทันตแพทย์ [24], 18% ในปีช่างทำผม [25], 20% ในคนงานโลหะ (หมุน, machinists และ toolmakers) [30], 28% ในสัตวแพทย์ [31] และ 25e30% ในการพยาบาล [33]. ใช้งานทางการแพทย์ เข้าชมการเฝ้าระวังและสถานที่ทำงานมีผลในการระบุสารที่คนงานอาจจะได้รับอย่างต่อเนื่องสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ ในเทคโนโลยีการพิมพ์แบบเดิมสารก่อภูมิแพ้รวมทั้งฟอร์มาลดีไฮด์ methyl-chloro-ISO-thiazolinone, โคบอลต์โครและตัวทำละลายอินทรีย์ที่ใช้ในการทำความสะอาดลงเครื่องจักรที่พบในการสร้างการติดต่อโรคผิวหนังเรื้อรังเครื่องพิมพ์. Nethercott et al, [34] ในโตรอนโตประเทศแคนาดา บันทึกการเกิดของโรคผิวหนังในอุตสาหกรรมการพิมพ์ ต่อไปนี้การสอบสวนพนักงานในครัวถูกตั้งข้อสังเกตการจัดการอาหารสดและชื้นเป็นเวลาหลายชั่วโมงในแต่ละวัน พวกเขาใช้น้ำยาทำความสะอาดผงซักฟอกมือบ่อยซักผ้าและสวมถุงมือไม่ค่อย ติดต่อโรคผิวหนังที่พบบ่อยเป็นความผิดปกติในผู้ป่วยที่รับการจัดการอาหาร ของพวกเขา 5.7% ได้รับความเดือดร้อนจากการอักเสบของผิวหนังระคายเคือง2.4% จากผื่นลมพิษและ1.8% จากการอักเสบของผิวหนังแพ้ [35]. เราพบว่าในข้อตกลงกับการศึกษาอื่น [36] ที่ช่างทำผมที่นำเสนอติดต่อโรคผิวหนังซึ่งได้รับการยืนยันจากแพทย์ผิวหนังที่ทำการทดสอบแพทช์ การทดสอบเหล่านี้เผยให้เห็นการแพ้สารกันบูดเช่นฟอร์มาลดีไฮด์, น้ำหอม, ยางสารเคมีmethyl-di-Bromo-glutaronitrile ในแชมพูและออกบนผลิตภัณฑ์ ช่างทำผมส่วนใหญ่ที่สวมเครื่องแต่งกายที่แสดงให้เห็นอาการแพ้นิกเกิล. การศึกษาในปัจจุบันได้รับการยืนยันความชุกของการเผาไหม้สารเคมีในหมู่คนงานทำความสะอาดอุตสาหกรรมอยู่ในระดับสูง (13.0%) เนื่องจากการสัมผัสตัวทำละลายอินทรีย์กรดด่างผงซักฟอกและสารออกซิไดซ์ในหมู่ผู้ที่ไม่ได้สวมถุงมือยาง, การค้นพบที่เข้ากันได้กับการศึกษาอื่นๆ [6,22] อุบัติการณ์ของการประกอบอาชีพประจำปีติดต่อโรคผิวหนังในหมู่คนงานทำความสะอาดมีรายงานว่าจะเป็น43.5 / 100,000 คนในฝรั่งเศส [37] .High การเกิดขึ้นของเนื้องอกมะเร็งในหมู่เกษตรกรได้รับมาประกอบกับการสัมผัสกับรังสีแสงอาทิตย์สารกำจัดศัตรูพืชปุ๋ยเคมีและเชื้อเพลิงสอง[38,39 ] โฮแกนเอตอัล [40] ในฟลอริด้าประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่าการอักเสบของผิวหนังและโรคมะเร็งผิวหนังnonmelanoma เป็นที่พบมากที่สุดโรคผิวหนังการประกอบอาชีพในภาคเหนือคนงานชาวอเมริกัน. ปูนซิเมนต์ที่มีเกลือโครและไฮโดรคาร์บอนคลอรีนถูกสงสัยว่าเป็นสาเหตุของการเกิดสิวในน้ำมันดินวางคนงานการค้นพบที่เข้ากันได้กับผลการวิจัยที่รายงานโดยหุ้น et al, [8,41]. Lazzarini et al, [42] นอกจากนี้ยังพบว่ามีอุบัติการณ์สูงของการติดต่อโรคภูมิแพ้โรคผิวหนังในหมู่คนงานก่อสร้างที่มีความถี่สูงของแพปูนซีเมนต์ในประเทศบราซิล. สึกหรอวิศวกรรม และการฉีกขาดน้ำมันแสง, ตัวทำละลายล้างไขมันและเส้นใยแร่สังเคราะห์ได้รับพบว่าบ่อยครั้งทำให้เกิดการระคายเคืองของผิว[43]