Anaemia is a common clinicalfinding

Anaemia is a common clinical
finding among patients with chronic kidney disease (CKD) and
is associated with significant morbidity and healthcare costs.
Iron deficiency is an important contributing factor, and adequate
iron supplementation is essential to optimize the management
of anaemia of CKD. Oral iron is convenient and inexpensive but
is poorly absorbed and associated with gastrointestinal distress.
Intravenous iron overcomes these limitations but is more
expensive, requires additional clinical visits for administration
and is associated with serious adverse events. Oral heme iron
polypeptide (HIP) is a newer dosage form that has been reported
to have higher bioavailability and fewer side effects when
compared with non-heme iron in healthy subjects, but data in
patients with CKD are limited. The purpose of this review is to
evaluate the safety and effectiveness of HIP for the management
of CKD.
Methods:Searches for PubMed (1947–2015) and International
Pharmaceutical Abstracts (1970–2015) were conducted using the
following terms: heme iron, heme iron polypeptide, oral iron,
anaemia and chronic kidney disease. The bibliography of each
relevant article was evaluated for additional studies. Articles
were selected for review if they were published in the English
language and were randomized controlled trials evaluating the
bioavailability, tolerability or efficacy of oral HIP in human
subjects with CKD.
Results and Discussion:This search yielded three clinical
studies. The safety and efficacy of HIP was evaluated in a
total of 161 subjects with anaemia and various stages of CKD.
HIP was consistently associated with lower ferritin values
when compared with traditional iron supplementation. With
few exceptions, the effect of HIP on haemoglobin, haematocrit,
transferrin saturation and recombinant human erythropoietin
dose, and adverse effects appeared similar to intravenous and
oral non-heme iron supplementation. The cost of HIP is
substantially more than non-heme iron and comparable to
intravenous iron.
What is New and Conclusion:Heme iron polypeptide does not
appear to confer benefit over traditional iron supplementation
among patients with anaemia of CKD and is more expensive

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรคโลหิตจางเป็นเรื่องธรรมดาทางคลินิกค้นหาผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง (โรคไต) และเกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยที่สำคัญและต้นทุนด้านสุขภาพการขาดธาตุเหล็กเป็นปัจจัยร่วมสำคัญ และเพียงพอเหล็กเสริมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของโรคโลหิตจางโรคไตเรื้อรัง เหล็กปากจะสะดวก และราคาไม่แพงแต่ไม่ดีการดูดซึม และเกี่ยวข้องกับความทุกข์ทางเดินอาหารเหล็กทางหลอดเลือดดำพิชิตข้อจำกัดเหล่านี้ แต่จะเพิ่มเติมแพง ต้องเยี่ยมชมคลินิกเพิ่มเติมสำหรับการดูแลและเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรง เหล็กปาก hemepolypeptide (HIP) เป็นรูปแบบยาใหม่ที่มีการรายงานมีการดูดซึมที่สูงขึ้นและด้านน้อยผลเมื่อเมื่อเทียบกับเหล็กปลอด heme ในสุขภาพดี แต่ข้อมูลในผู้ป่วยโรคไตมีจำนวนจำกัด วัตถุประสงค์ของรีวิวนี้จะประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพของสะโพกสำหรับการจัดการโรคไตเรื้อรังวิธีการ: ค้นหา PubMed (1947 – 2015) และนานาชาติบทคัดย่อเภสัชกรรม (1970 – 2015) ถูกดำเนินการโดยใช้การเงื่อนไขต่อไปนี้: heme เหล็ก polypeptide heme เหล็ก เหล็กปากโรคโลหิตจางและโรคไตเรื้อรัง บรรณานุกรมของแต่ละรับการประเมินบทความที่เกี่ยวข้องสำหรับการศึกษาเพิ่มเติม บทความคัดเลือกเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ในภาษาอังกฤษภาษา และได้ทดลองแบบสุ่มควบคุมประเมินผลการดูดซึม ความทน หรือประสิทธิภาพของสะโพกปากในมนุษย์วัตถุ ด้วยโรคไตและอภิปรายผล: ให้ผลการค้นหานี้สามทางคลินิกการศึกษา รับการประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพของสะโพกในการจำนวน 161 วัตถุ ด้วยโรคโลหิตจางและขั้นตอนต่าง ๆ ของโรคไตสะโพกถูกเชื่อมโยงอย่างต่อเนื่อง ด้วยค่า ferritin ต่ำเมื่อเทียบกับการเสริมเหล็กแบบดั้งเดิม ด้วยข้อยกเว้นน้อย ผลของสะโพก haemoglobin, haematocritความเข้มและ recombinant erythropoietin มนุษย์ transferrinยา และผลกระทบที่ปรากฏคล้ายหลอดเลือดดำ และปากไม่ใช่ heme เหล็กเสริม ของสะโพกอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้น กว่าเหล็กปลอด heme และเทียบกับเหล็กทางหลอดเลือดดำมีอะไรใหม่ และไม่มีข้อสรุป: Heme เหล็ก polypeptideจะ มอบประโยชน์ผ่านการเสริมเหล็กแบบดั้งเดิมผู้ป่วยด้วยโรคโลหิตจางโรคไตเรื้อรัง และมีราคาแพงมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรคโลหิตจางเป็นคลินิกที่พบบ่อย
การค้นพบในผู้ป่วยที่เป็นโรคไตเรื้อรัง (CKD) และ
มีความเกี่ยวข้องกับความผิดปกติอย่างมีนัยสำคัญและการดูแลสุขภาพค่าใช้จ่าย.
การขาดธาตุเหล็กเป็นปัจจัยสำคัญและเพียงพอที่
เสริมธาตุเหล็กเป็นสิ่งจำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ
ของโรคโลหิตจางของโรคไตวายเรื้อรัง เหล็กในช่องปากมีความสะดวกและราคาไม่แพง แต่
ถูกดูดซึมได้ไม่ดีและเกี่ยวข้องกับความทุกข์ทางเดินอาหาร.
เหล็กในหลอดเลือดดำเอาชนะข้อ จำกัด เหล่านี้ แต่มีมากขึ้น
มีราคาแพงต้องเข้ารับการตรวจทางคลินิกเพิ่มเติมสำหรับการบริหาร
และมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรง ช่องปากเหล็ก heme
เพปไทด์ (HIP) เป็นรูปแบบของยาใหม่ที่ได้รับรายงาน
ว่าจะมีการดูดซึมที่สูงขึ้นและผลข้างเคียงน้อยเมื่อ
เทียบกับเหล็กที่ไม่ใช่ heme ในวิชาสุขภาพ แต่ข้อมูลใน
ผู้ป่วยที่มีโรคไตวายเรื้อรังจะถูก จำกัด วัตถุประสงค์ของการตรวจสอบนี้คือการ
ประเมินความปลอดภัยและประสิทธิผลของ HIP การจัดการที่ยั่งยืน
ของโรคไตวายเรื้อรัง.
วิธีการ: การค้นหา PubMed (1947-2015) และนานาชาติ
บทคัดย่อเภสัชกรรม (1970-2015) ได้ดำเนินการโดยใช้
คำต่อไปนี้: เหล็ก heme, heme polypeptide เหล็กในช่องปาก,
โรคโลหิตจางและโรคไตเรื้อรัง บรรณานุกรมของแต่ละ
บทความที่เกี่ยวข้องได้รับการประเมินเพื่อการศึกษาเพิ่มเติม บทความ
ได้รับการคัดเลือกเพื่อการตรวจสอบหากพวกเขาถูกตีพิมพ์ในภาษาอังกฤษ
ภาษาและได้รับการสุ่มทดลองการควบคุมการประเมิน
การดูดซึมทนหรือประสิทธิภาพของ HIP ในช่องปากของมนุษย์
วิชาที่มีโรคไตวายเรื้อรัง.
ผลลัพธ์และการอภิปราย: การค้นหานี้ให้ผลสามทางคลินิก
การศึกษา ความปลอดภัยและประสิทธิภาพของ HIP ถูกประเมินใน
ทั้งหมด 161 วิชาที่มีภาวะโลหิตจางและต่าง ๆ ขั้นตอนของโรคไตวายเรื้อรัง.
HIP มีความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องที่มีค่า ferritin ต่ำกว่า
เมื่อเทียบกับการเสริมเหล็กแบบดั้งเดิม ด้วย
ข้อยกเว้นบางประการที่มีผลของสะโพกฮีโมโกล, ฮี,
ความอิ่มตัวของ transferrin และ recombinant erythropoietin มนุษย์
ยาและผลข้างเคียงที่ปรากฏคล้ายกับทางหลอดเลือดดำและ
ช่องปากเสริมธาตุเหล็กที่ไม่ใช่ heme ค่าใช้จ่ายของสะโพกเป็น
มากขึ้นกว่าเหล็กที่ไม่ใช่ heme และเทียบเท่ากับ
เหล็กทางหลอดเลือดดำ.
อะไรคือสิ่งที่ใหม่และสรุป: เหล็ก Heme polypeptide ไม่
ปรากฏการหารือผลประโยชน์มากกว่าการเสริมเหล็กแบบดั้งเดิม
ในหมู่ผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิตจางของโรคไตวายเรื้อรังและมีราคาแพงมากขึ้น