An ethnically diverse group of pred

An ethnically diverse group of predominantly low-income caregivers of children 2–6months of age were enrolled, interviewed, and randomized to intervention (n=20) or control(n=20) groups. Intervention families received SDP at recruitment and the subsequent well-childvisit. Control families were provided handouts regarding developmental milestones. One monthafter the second well-child visit, all families were reinterviewed (n=34; 85% retention rate). Usingopen-ended questions and standardized measures (i.e., StimQ), parents were asked about parentingbehaviors central to children’s development: 1) participation in cognitively stimulating activities,2) provision of learning materials, and 3) the quality of parent-child verbal interactions. Potentialimpact on perceived parenting confidence was also explored utilizing The Parenting Sense ofCompetence Scale. Analyses were conducted using chi square tests and analysis of variance

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กลุ่มผู้ดูแลที่มีรายได้น้อยที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติของเด็กอายุ 2-6 เดือนได้รับการลงทะเบียน สัมภาษณ์ และสุ่มเข้ากลุ่มแทรกแซง (n=20) หรือกลุ่มควบคุม (n=20) ครอบครัวที่ถูกแทรกแซงได้รับ SDP ในการรับสมัครงานและ การเยี่ยมเด็กในครั้งต่อไป ครอบครัวกลุ่มควบคุมได้รับเอกสารประกอบคำบรรยายเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญด้านการพัฒนา หนึ่งเดือนหลังจากการเยี่ยมเด็กครั้งที่สอง ทุกครอบครัวได้รับการสัมภาษณ์อีกครั้ง (n=34; อัตราการรักษา 85%) การใช้คำถามปลายเปิดและมาตรการที่เป็นมาตรฐาน (เช่น StimQ) ผู้ปกครองถูกถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการเลี้ยงดูที่มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็ก: 1) การมีส่วนร่วมในกิจกรรมกระตุ้นการรับรู้2) การจัดหาสื่อการเรียนรู้ และ 3) คุณภาพของวาจาระหว่างพ่อแม่และลูก การโต้ตอบ นอกจากนี้ ยังมีการสำรวจผลกระทบ ที่อาจเกิดขึ้นต่อการรับรู้ความเชื่อมั่นในการเลี้ยงดูบุตรโดยใช้เกณฑ์ความรู้สึกในการเลี้ยงดูบุตรของความสามารถ การวิเคราะห์ดำเนินการโดยใช้การทดสอบไคสแควร์และการวิเคราะห์ความแปรปรวน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กลุ่มที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ดูแลผู้มีรายได้น้อยของเด็กอายุ 2-6 ปี
กลุ่มเด็กที่อายุถึงเดือนจะได้รับการสัมภาษณ์และการสุ่มแบ่งออกเป็นกลุ่มแทรกแซง (n = 20) หรือกลุ่มควบคุม
(n = 20) กลุ่ม ครอบครัวที่แทรกแซงการยอมรับ SDP ในการเกณฑ์ทหารและสุขภาพของเด็กที่ตามมา
เยี่ยมชม ครอบครัวในกลุ่มควบคุมได้รับเอกสารอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์สําคัญในการพัฒนา หนึ่งเดือน
หลังจากการเยี่ยมลูกครั้งที่ 2 ทุกครอบครัวได้รับการตรวจเยี่ยมอีกครั้ง (n = 34; 85% ของการเก็บรักษา) การใช้
คำถามปลายเปิด และการวัดที่ได้มาตรฐาน (เช่น StimQ),ผู้ปกครองถูกถามเรื่องการเลี้ยงดู
พฤติกรรมที่มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็ก คือ 1) การมีส่วนร่วมในกิจกรรมกระตุ้นการรับรู้
2) การจัดหาสื่อการเรียนรู้ และ 3) คุณภาพของการมีปฏิสัมพันธ์ทางวาจาระหว่างพ่อแม่และลูก ศักยภาพ
นอกจากนี้ นักวิจัยยังได้ใช้ประโยชน์จาก
มาตราส่วนความสามารถ การวิเคราะห์โดยใช้การตรวจสอบไคสแควร์และการวิเคราะห์ความแปรปรวน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กลุ่มเชื้อชาติที่หลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นผู้ดูแลรายได้ต่ํา สําหรับเด็กอายุ 2-6 ปี
ทารกอายุเดือนได้รับการคัดเลือกให้สัมภาษณ์และได้รับการสุ่มจัดให้เป็นกลุ่มแทรกแซง( n = 20 )หรือกลุ่มควบคุม
( n = 20 ) กลุ่ม. การแทรกแซงครอบครัวเพื่อรับSDPในการรับสมัครและต่อมาเด็กที่มีสุขภาพดี
การเยี่ยมชม. ครอบครัวควบคุมได้รับใบปลิวเกี่ยวกับขั้นตอนการพัฒนา 1 เดือนเหรอ
หลังจากการเยี่ยมชมครั้งที่สองของเด็กที่มีสุขภาพดีทุกครอบครัวได้รับการเยี่ยมชมอีกครั้ง( n = 3485 % ) ใช้
คําถามแบบเปิด และการวัดมาตรฐาน (เช่น stimq ) พ่อแม่ถูกถามเกี่ยวกับการเลี้ยงดูบุตร
พฤติกรรมที่สําคัญต่อการพัฒนาเด็ก:1)มีส่วนร่วมในกิจกรรมการกระตุ้นความรู้ความเข้าใจ,
2 )การจัดหาวัสดุการเรียนรู้3 )คุณภาพของการโต้ตอบระหว่างพ่อแม่กับลูก มีศักยภาพ
นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงอิทธิพลของการเลี้ยงดูผู้ปกครองต่อความเชื่อมั่นในการเลี้ยงดูผู้ปกครอง
มาตรวัดความสามารถ. ใช้การทดสอบไคสแควร์และการวิเคราะห์ความแปรปรวนสําหรับการวิเคราะห์