5. ConclusionBased on the test resu

5. Conclusion
Based on the test results of the cyclic plate load testing program
on pavement test sections with and without geosynthetic reinforcement
inclusion, the following conclusions can be drawn:
1. The test results demonstrate that both geosynthetic products
significantly improved the performance of the pavement section
in terms of reducing the surface permanent deformation and
extending the service life of pavement sections. With a single
layer of geosynthetic placed at the baseesubgrade interface, the
adjusted traffic benefit ratio (TBRadj) can be increased up to
1.52 at a rut depth of 19.1 mm for pavement constructed using
457 mm (18 in.) thick base layer on top of weak subgrade soil.
2. The inclusion of geosynthetic reinforcement results in redistributing
the applied load to a wider area, thus reducing the
stress concentration and achieving an improved vertical stress
distribution on top of subgrade layer. This behavior results in
less accumulated permanent deformation in the subgrade, i.e.,
lower maximum vertical stress on subgrade, and hence the
lower permanent vertical strain in subgrade.
3. Among all six pavement sections tested in this study, the best
performance was observed for the pavement section with
double geosynthetic reinforcement layers. However, one also
should keep it in mind that the cost of having two layers of
reinforcement is higher than a single layer of reinforcement.
4. The instrumentation measurements indicate that geosynthetics
placed at the baseesubgrade interface function more as stabilization
of weak subgrade soil than as base aggregate reinforcement.
By placing an additional geogrid layer at the upper
one-third of the base layer, the permanent deformation in
base layer can be significantly reduced.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

5. บทสรุปคะแนนจากผลการทดสอบของการทดสอบโปรแกรมโหลดแผ่นวงจรบนถนนทดสอบส่วนต่าง ๆ ที่มี และไม่ มีเสริม geosyntheticรวม สามารถออกได้ข้อสรุปต่อไปนี้:1. ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสอง geosyntheticอย่างมีนัยสำคัญปรับปรุงประสิทธิภาพของส่วนทางเท้าในแง่ของการลดการเสียรูปถาวรพื้นผิว และยืดอายุการใช้งานของถนนส่วน แบบเดี่ยวชั้นของ geosynthetic อินเตอร์เฟซ baseesubgrade การปรับปรุงปริมาณการใช้ประโยชน์ (TBRadj) จะเพิ่มขึ้นถึง1.52 ที่ความลึกรูด 19.1 mm สำหรับถนนที่สร้างขึ้นโดยใช้457 มม. (18 นิ้ว) หนาชั้นฐานชั้นบนดิน subgrade อ่อนแอ2. การรวม geosynthetic เสริมผลแจกจ่ายต่อใช้โหลดไปยังพื้นที่ที่กว้างขึ้น ลดการความเข้มข้นของความเครียดและความเครียดแนวตั้งการปรับปรุงบรรลุกระจายอยู่บนชั้น subgrade ผลการทำงานนี้หักสะสมความผิดปกติถาวรใน subgrade เช่นลดความเครียดแนวตั้งสูงสุดบน subgrade และด้วยเหตุนี้การลดถาวรแนวสายพันธุ์ใน subgrade3 หมู่ 6 ถนนทุกส่วนผ่านทดสอบในการศึกษานี้ ที่ดีสุดพบว่า ประสิทธิภาพการทำงานส่วนทางเท้าด้วยชั้นเสริมแรง geosynthetic คู่ อย่างไรก็ตาม หนึ่งยังควรเก็บไว้ในใจที่ต้นทุนมี 2 ชั้นการเสริมแรงจะสูงกว่าชั้นเดียวของเหล็กเสริม4. การใช้เครื่องมือวัด geosynthetics ที่ระบุวางไว้ที่ฟังก์ชันอินเทอร์เฟซ baseesubgrade มากขึ้นเป็นการป้องกันภาพสั่นไหวของดิน subgrade อ่อนกว่าเป็นฐานรวมเสริมโดยการวางชั้นการขดเพิ่มเติมที่ด้านบนหนึ่งในสามของชั้นฐาน ความผิดปกติถาวรในชั้นสามารถลดอย่างมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

5. สรุป
จากผลการทดสอบของโปรแกรมทดสอบโหลดแผ่นวงจร
ในส่วนที่มีการทดสอบทางเดินที่มีและไม่มีการเสริมแรง geosynthetic
รวมข้อสรุปต่อไปนี้สามารถวาด:
1 ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าทั้งสองผลิตภัณฑ์ geosynthetic
ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญผลการดำเนินงานของส่วนทางเท้า
ในแง่ของการลดพื้นผิวการเปลี่ยนรูปถาวรและ
การขยายอายุการใช้งานของส่วนทางเท้า มีเพียงหนึ่งเดียว
ชั้นของ geosynthetic อยู่ที่อินเตอร์เฟซ baseesubgrade ที่
อัตราส่วนผลประโยชน์การจราจรปรับ (TBRadj) สามารถเพิ่มขึ้นถึง
1.52 ที่ระดับความลึกร่อง 19.1 มมสำหรับผิวสร้างขึ้นโดยใช้
457 มิลลิเมตร (18.) ฐานชั้นหนาด้านบนของ ฐานรากของดินที่อ่อนแอ.
2 รวมของผลการเสริมแรง geosynthetic ในการกระจาย
โหลดใช้ไปยังพื้นที่ที่กว้างขึ้นซึ่งช่วยลด
ความเข้มข้นของความเครียดและบรรลุความเครียดที่ดีขึ้นในแนวตั้ง
กระจายอยู่ด้านบนของชั้นฐานราก นี้ส่งผลให้พฤติกรรมใน
การเปลี่ยนรูปหักถาวรในฐานรากเช่น,
ต่ำความเครียดแนวตั้งสูงสุดบนฐานรากและด้วยเหตุนี้
ต่ำกว่าสายพันธุ์ในแนวตั้งถาวรในฐานราก.
3 ในทุกหกส่วนทางเท้าผ่านการทดสอบในการศึกษาครั้งนี้ที่ดีที่สุดสำหรับ
ผลการดำเนินงานพบว่าส่วนทางเท้ากับ
คู่ชั้นเสริมแรง geosynthetic แต่หนึ่งยัง
ควรเก็บไว้ในใจว่าค่าใช้จ่ายของการมีสองชั้นของ
การเสริมแรงสูงกว่าชั้นเดียวของการเสริมแรง.
4 วัดวัดระบุว่า Geosynthetics
อยู่ที่ฟังก์ชั่นอินเตอร์เฟซ baseesubgrade มากขึ้นขณะที่การรักษาเสถียรภาพ
ของดินฐานรากที่อ่อนแอกว่าการเสริมแรงรวมเป็นฐาน.
โดยการวางชั้น Geogrid เพิ่มเติมที่บน
หนึ่งในสามของชั้นฐานที่ผิดปกติอย่างถาวรใน
ชั้นฐานสามารถ ลดลงอย่างมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

5 . สรุปจากผลการทดสอบของการทดสอบโหลดโปรแกรมแบบจานในส่วนการทดสอบทาง geosynthetic ที่มีและไม่มีเสริมรวม , ข้อสรุปต่อไปนี้จะสามารถเขียน :1 . ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า ทั้ง geosynthetic ผลิตภัณฑ์การปรับปรุงอย่างมากประสิทธิภาพของส่วน บาทวิถีในแง่ของการเสียรูปอย่างถาวร และพื้นผิวการขยายอายุการใช้งานของส่วนพื้น กับเดียวชั้นของ geosynthetic วางไว้ที่ baseesubgrade อินเตอร์เฟซที่ปรับอัตราส่วนผลประโยชน์จราจร ( tbradj ) สามารถเพิ่มขึ้น1.52 ในร่องลึก 19.1 มม. สำหรับทางเท้าสร้างขึ้นด้วยการใช้457 มม. ( 18 . ) ชั้นหนาฐานบนดินรองพื้นทางอ่อนแอ2 . รวม geosynthetic เสริมผลในการกระจายใช้โหลดเป็นบริเวณกว้าง จึง ลดความเข้มข้นของความเครียดและความเครียดขึ้นแนวตั้งจำหน่ายบนชั้น Subgrade . พฤติกรรมนี้ผลลัพธ์ในการเปลี่ยนรูปถาวรน้อยสะสมในรองพื้นทาง ได้แก่ลดสูงสุดแนวตั้งเน้นรองพื้นทาง ดังนั้นลดความเครียดในแนวตั้งถาวร Subgrade .3 . ในบรรดาหกทางเท้าส่วนทดสอบในการศึกษานี้ ดีที่สุด2551 ) ส่วนทางกับ2 ชั้น เสริม geosynthetic . แต่หนึ่งยังควรเก็บไว้ในใจว่าค่าใช้จ่ายมีสองชั้นเสริมสูงกว่าชั้นเดียวของการเสริมแรง4 . เครื่องมือวัด geosynthetics บ่งชี้ว่าอยู่ที่ baseesubgrade อินเตอร์เฟซการทำงานมากขึ้นเป็นเสถียรภาพดินรองพื้นทางอ่อนแอกว่าเป็นฐานรวมการเสริมแรงโดยการวางเลเยอร์ Geogrid เพิ่มเติมที่ด้านบนหนึ่งในสามของชั้นฐาน , การเสียรูปในถาวรชั้นฐานจะลดลงอย่างมาก .