OSI Reference Model//As discussed e

OSI Reference Model
//
As discussed earlier, the OSI model was created to promote communication between devices of various vendors. It also promotes communication between disparate hosts such as hosts using different operating platforms (Windows, OSX, Linux, etc.). Remember that you are very unlikely to ever work on a system that uses protocols conforming to the OSI reference model. But it is essentially to know the model and its terminology because other models such as the TCP/IP model are often compared to the OSI reference model. Hence the discussion on this model will be limited compared to the discussion on the TCP/IP model.
//
The OSI reference model, like most other network models, divides the functions, protocols, and devices of a network into various layers. The layered approach provides many benefits, some of which are:
//
Communication is divided into smaller and simpler components. This makes designing, developing and troubleshooting easier.**
Since it is a layered approach, the vendors write to a common input and output specification per layer. The guts of their products functions in between the input and output code of that layer.**
Changes in one layer do not affect other layers. Hence development in one layer is not bound by limitations of other layers. For example, wireless technologies are new but old applications run seamless over them without any changes.**
It is easier to standardize functions when they are divided into smaller parts like this.**
It allows various types of hardware and software, both new and old to communicate with each other seamlessly.**
//
The OSI reference model has seven such layers that can be divided into two groups. The upper layers (Layers 7, 6 and 5) define how applications interact with the host interface, with each other, and the user. The lower four layers (Layers 4, 3, 2 and 1) define how data is transmitted between hosts in a network. Figure 1-7 shows the seven layers and a summary of their functions.
//
Figure 1-7 Seven Layers of OSI Reference Model
//

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบบจำลองอ้างอิงของโอเอสไอ//ดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ แบบจำลองโอเอสไอถูกสร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ของผู้จัดจำหน่ายต่าง ๆ นอกจากนี้ยังส่งเสริมการสื่อสารระหว่างโฮสต์ที่แตกต่างกันเช่นโฮสต์ที่ใช้ระบบปฏิบัติอื่น (Windows, OSX, Linux ฯลฯ) จำได้ว่า คุณจะไม่เคยทำงานบนระบบที่ใช้โปรโตคอลที่สอดคล้องกับแบบจำลองอ้างอิงของโอเอสไอ แต่จะเป็นต้องทราบรูปแบบและคำศัพท์ของเนื่องจากรูปแบบอื่น ๆ เช่นแบบ TCP/IP จะมักจะเปรียบเทียบกับแบบจำลองอ้างอิงของโอเอสไอ ดังนั้น การสนทนาในรูปแบบนี้จะเปรียบเทียบกับการสนทนาในรูปแบบ TCP/IP//โปรแกรมควบคุมการอ้างอิงแบบ เช่นสุดเครือข่ายรูปแบบอื่น ๆ แบ่งฟังก์ชัน โปรโตคอล และอุปกรณ์ของเครือข่ายออกเป็นชั้นต่าง ๆ วิธีการแบบนี้มีประโยชน์มาก บางส่วนของที่อยู่://การสื่อสารแบ่งออกเป็นส่วนประกอบที่เล็ก และเรียบง่าย นี้ช่วยให้การออกแบบ พัฒนา และแก้ไขปัญหา easier.* *เนื่องจากเป็นวิธีการแบบชั้น ผู้เขียนป้อนข้อมูลทั่วไปและระบุผลต่อชั้น กึ๋นของหน้าที่ผลิตภัณฑ์ระหว่างอินพุท และเอาท์พุทรหัส layer.* นั้น *เปลี่ยนแปลงในชั้นหนึ่งมีผลกระทบต่อชั้นอื่น ๆ ดังนั้น การพัฒนาในชั้นหนึ่งผูก โดยข้อจำกัดของชั้นอื่น ๆ ตัวอย่าง เทคโนโลยีไร้สายกำลังใหม่ แต่เก่าโปรแกรมประยุกต์เรียกใช้จำแนกเหล่านั้นไม่ มี changes.* ใด ๆ *ง่ายต่อการกำหนดมาตรฐานฟังก์ชันเมื่อมีแบ่งออกเป็นส่วนย่อย ๆ เช่น this.*อนุญาตให้ชนิดต่าง ๆ ของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ทั้งใหม่ และเก่าเพื่อสื่อสารกับแต่ละอื่น ๆ seamlessly.* *//แบบจำลองอ้างอิงของโอเอสไอมี 7 เช่นชั้นที่สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ชั้นบน (ชั้น 7, 6 และ 5) กำหนดวิธีที่โปรแกรมประยุกต์โต้ตอบกับอินเตอร์เฟซโฮสต์ กัน และผู้ใช้ ต่ำกว่าสี่ชั้น (ชั้น 4, 3, 2 และ 1) กำหนดวิธีส่งข้อมูลระหว่างโฮสต์ในเครือข่าย รูปที่ 1-7 แสดง 7 ชั้นและสรุปหน้าที่ของตน//รูปที่ 1-7 เจ็ดชั้นของโอเอสไอโมเดลอ้างอิง//

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

OSI Reference Model
//
ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้แบบจำลอง OSI ถูกสร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ของผู้ผลิตต่างๆ นอกจากนี้ยังส่งเสริมการสื่อสารระหว่างโฮสต์ที่แตกต่างกันเช่นโฮสต์ใช้แพลตฟอร์มที่แตกต่างกันในการดำเนินงาน (Windows, OSX, Linux, ฯลฯ ) โปรดจำไว้ว่าคุณมีความน่าจะเคยทำงานในระบบที่ใช้โปรโตคอลสอดคล้องกับรูปแบบการอ้างอิง OSI แต่มันก็เป็นหลักที่จะรู้ว่ารูปแบบและคำศัพท์เพราะรูปแบบอื่น ๆ เช่น TCP / IP รูปแบบการเปรียบเทียบมักจะรูปแบบการอ้างอิง OSI ดังนั้นการอภิปรายในรูปแบบนี้จะถูก จำกัด เมื่อเทียบกับการอภิปรายในรูปแบบ TCP / IP ได้.
//
รูปแบบอ้างอิง OSI ชอบมากที่สุดรูปแบบเครือข่ายอื่น ๆ แบ่งฟังก์ชั่นโปรโตคอลและอุปกรณ์เครือข่ายเป็นชั้นต่างๆ วิธีการชั้นให้ประโยชน์หลายบางที่:
//
สื่อสารแบ่งออกเป็นชิ้นส่วนที่มีขนาดเล็กและง่าย นี้จะทำให้การออกแบบการพัฒนาและการแก้ไขปัญหาได้ง่ายขึ้น. **
เพราะมันเป็นวิธีการที่ชั้นผู้ขายเขียนถึงการป้อนข้อมูลทั่วไปและข้อมูลจำเพาะของการส่งออกต่อชั้น กล้าของผลิตภัณฑ์ฟังก์ชั่นของพวกเขาในระหว่างการป้อนข้อมูลและรหัสการส่งออกของชั้นที่. **
การเปลี่ยนแปลงในชั้นหนึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อชั้นอื่น ๆ ดังนั้นการพัฒนาในชั้นหนึ่งจะไม่ผูกพันตามข้อ จำกัด ของชั้นอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่นเทคโนโลยีไร้สายที่มีการใช้งานใหม่ แต่เก่าทำงานได้อย่างราบรื่นมากกว่าพวกเขาโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ . **
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะสร้างมาตรฐานการทำงานเมื่อมีการแบ่งออกเป็นส่วนเล็กเช่นนี้. **
จะช่วยให้หลายประเภทของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทั้งใหม่และ เก่าที่จะติดต่อสื่อสารกันได้อย่างลงตัว. **
//
รูปแบบอ้างอิง OSI มีเจ็ดชั้นดังกล่าวว่าสามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ชั้นบน (ชั้น 7, 6 และ 5) กำหนดวิธีการใช้งานที่มีปฏิสัมพันธ์กับอินเตอร์เฟซโฮสต์กับแต่ละอื่น ๆ และผู้ใช้ ที่ต่ำกว่าสี่ชั้น (ชั้น 4, 3, 2 และ 1) กำหนดวิธีการที่จะส่งข้อมูลระหว่างโฮสต์ในเครือข่าย รูปที่ 1-7 แสดงให้เห็นถึงเจ็ดชั้นและบทสรุปของฟังก์ชั่นของพวกเขา.
//
รูปที่ 1-7 เซเว่นเลเยอร์ของ OSI Reference Model
//

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

OSI แบบจำลองอ้างอิง
/ /
ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ , แบบจำลอง OSI ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ของผู้ผลิตต่างๆ นอกจากนี้ยังส่งเสริมการสื่อสารระหว่างโฮสต์ที่แตกต่างกันเช่นโฮสต์ที่แตกต่างกันโดยใช้แพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ ( Windows , OSX , Linux , ฯลฯ ) จำได้ว่า คุณเป็นคนที่ไม่น่าจะเคยทำงานบนระบบที่ใช้โปรโตคอลตาม OSI แบบจำลองอ้างอิง .แต่มันเป็นหลักเพื่อทราบรูปแบบและความหมายของมัน เพราะรุ่นอื่นๆ เช่น TCP / IP รูปแบบมักจะเทียบกับ OSI แบบจำลองอ้างอิง . ดังนั้นการสนทนาในรูปแบบนี้จะถูก จำกัด เมื่อเทียบกับการอภิปรายเกี่ยวกับ TCP / IP แบบ
/ /
OSI แบบจำลองอ้างอิง เช่น แบบจำลองเครือข่ายอื่น ๆส่วนใหญ่แบ่งฟังก์ชัน ระบบและอุปกรณ์เครือข่ายในชั้นต่าง ๆมีวิธีการที่ให้ประโยชน์มากมาย ซึ่งมี :
/ /
การสื่อสารแบ่งเป็นขนาดเล็กและง่ายส่วนประกอบ นี้จะทำให้การออกแบบ การพัฒนา และการแก้ไขปัญหาได้ง่ายขึ้น * *
เนื่องจากเป็นชั้นแบบ ผู้ขายเขียนถึงข้อมูลทั่วไปและข้อมูลผลผลิตต่อชั้น ความกล้าของฟังก์ชันผลิตภัณฑ์ของตนในระหว่างการป้อนข้อมูลและรหัสของชั้น * *
.การเปลี่ยนแปลงในหนึ่งชั้นไม่มีผลต่อชั้นอื่น ๆ ดังนั้นการพัฒนาในหนึ่งชั้นจะไม่ผูกพันตามข้อ จำกัด ของชั้นอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีไร้สายใหม่ แต่โปรแกรมเก่าวิ่งได้ราบรื่นกว่า โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ * *
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะวางมาตรฐานการทำงานเมื่อพวกเขาถูกแบ่งออกเป็นชิ้นส่วนขนาดเล็กแบบนี้ * *
มันช่วยให้ประเภทต่างๆของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ทั้งใหม่และเก่า เพื่อสื่อสารกับแต่ละอื่น ๆได้อย่างลงตัว * *
/ /
OSI แบบจำลองอ้างอิง เช่น มีเจ็ดชั้น ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ชั้นชั้นบน ( ชั้น 7 , 6 และ 5 ) การกำหนดวิธีการโต้ตอบกับโฮสต์ที่ติดต่อกับแต่ละอื่น ๆและผู้ใช้ กว่าสี่ชั้น ( ชั้น 4 , 3 , 2 และ 1 ) กำหนดวิธีการที่จะส่งข้อมูลระหว่างโฮสต์ในเครือข่ายรูปที่ 7 แสดงเจ็ดชั้นและสรุปการทำงานของพวกเขา .
/ / /
รูปที่ 1-7 7 ชั้นของ OSI แบบจำลองอ้างอิง
/ /