Its contribution is to provide a th

Its contribution is to provide a theoretical framework for MBAR that integrates both
measurement and information perspectives for accounting information (i.e. it integrates the early normative approach with modern finance theory). The model is parsimonious, and does not incorporate information asymmetry—a key feature of many issues of interest to accounting researchers. Subsequent modelling has, however, enriched the basic model, thereby providing a role for many important features of the accounting system, such as conservatism, and different decompositions of earnings. A few UK researchers have made notable contributions to this modelling literature. Cooke and Tippett (2000) examine the
structure of the double entry bookkeeping system and demonstrate the conditions in which non-linear relationships exist between bookkeeping summary measures and the market value of equity. Ashton et al. (2003) also focus on non-linearities. Using a generalization of the linear information dynamics that underpins the Ohlson (1995) model, they present an aggregation theorem which shows that the recursion value of equity is functionally proportional to its adaptation value. Hence, the market value of equity (the sum of recursion value and adaptation value) will be a highly convex function of its adaptation value. Supporting UK evidence is presented. The implication of this is that empirical evidence based on the linear approach to residual income valuation is very difficult to interpret.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วนของจะให้กรอบทฤษฎี MBAR ซึ่งรวมทั้งมุมมองการประเมินและข้อมูลบัญชีข้อมูล (เช่นมันรวมวิธี normative ต้นกับทฤษฎีสมัยใหม่ finance) รูปแบบคือ parsimonious และรวมข้อมูล asymmetry คือคุณลักษณะสำคัญของหลายประเด็นน่าสนใจสำหรับนักวิจัยบัญชี แบบจำลองต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม อุดมให้ไปรุ่นพื้นฐาน การให้บทบาทสำหรับคุณลักษณะที่สำคัญมากของระบบบัญชี อนุรักษนิยม และ decompositions ต่าง ๆ ของกำไร นักวิจัยอังกฤษกี่ทำผลงานโดดเด่นเพื่อประกอบการสร้างแบบจำลองนี้ คุกและ Tippett (2000) ตรวจสอบการโครงสร้างของระบบจัดทำบัญชีรายการคู่ และแสดงให้เห็นถึงเงื่อนไขความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่เชิงเส้นอยู่ระหว่างการจัดทำบัญชีสรุปมาตรการและมูลค่าตลาดของหุ้น แอชตัน et al. (2003) ยังมุ่งเน้น linearities ไม่ ใช้ generalization ของเปลี่ยนแปลงเชิงข้อมูลที่ underpins แบบ (1995) Ohlson พวกเขามีการรวมทฤษฎีบทซึ่งแสดงว่าค่าสอบของหุ้นสัดส่วนฟังก์ชันของค่าปรับ ดังนั้น มูลค่าตลาดของหุ้น (ผลรวมของค่าสอบและค่าปรับ) จะเป็นฟังก์ชันของค่าปรับสูงนูน สนับสนุน UK หลักฐานนำเสนอ ปริยายนี้เป็นประจักษ์หลักฐานตามวิธีเส้นตรงเพื่อหารายได้ส่วนที่เหลือมาก difficult แปล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลงานของตนคือการให้กรอบทฤษฎีสำหรับเอ็มบาร์ที่รวมทั้ง
การวัดและมุมมองข้อมูลสำหรับข้อมูลทางบัญชี (คือมันรวมวิธีกฎเกณฑ์ต้นกับทฤษฎีบำรุง Fi ที่ทันสมัย) รูปแบบคือการประหยัดและไม่ได้รวมสมส่วน-ข้อมูลคุณลักษณะที่สำคัญของหลายประเด็นที่สนใจของนักวิจัยการบัญชี การสร้างแบบจำลองที่เกิดขึ้นภายหลังได้ แต่อุดมรูปแบบพื้นฐานจึงให้บทบาทสำหรับคุณสมบัติที่สำคัญมากของระบบบัญชีเช่นการอนุรักษ์และการสลายตัวของรายได้ที่แตกต่างกัน นักวิจัยอังกฤษเพียงไม่กี่คนได้มีส่วนร่วมที่โดดเด่นวรรณกรรมการสร้างแบบจำลองนี้ Cooke และ Tippett (2000) ตรวจสอบ
โครงสร้างของระบบการทำบัญชีรายการคู่และแสดงให้เห็นถึงเงื่อนไขในการที่ความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่เชิงเส้นที่อยู่ระหว่างการทำบัญชีสรุปมาตรการและค่าการตลาดของผู้ถือหุ้น แอชตันและคณะ (2003) นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นไปที่ไม่ linearities ใช้ลักษณะทั่วไปของการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเชิงเส้นที่รมย์ Ohlson (1995) รุ่นพวกเขานำเสนอการรวมทฤษฎีบทซึ่งแสดงให้เห็นว่าค่าการเรียกซ้ำของผู้ถือหุ้นเป็นหน้าที่สัดส่วนกับค่าการปรับตัวของ ดังนั้นมูลค่าตลาดของผู้ถือหุ้น (ผลรวมของมูลค่าการเรียกซ้ำและค่าปรับ) จะเป็นฟังก์ชั่นนูนสูงของค่าการปรับตัวของมัน หลักฐานประกอบสหราชอาณาจักรจะนำเสนอ ความหมายของเรื่องนี้ก็คือหลักฐานเชิงประจักษ์ขึ้นอยู่กับวิธีการเชิงเส้นที่จะประเมินมูลค่ารายได้ที่เหลือเป็นยากที่จะแปลความหมายมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การบริจาคเพื่อให้แนวคิดเชิงทฤษฎีสำหรับมิลลิบาร์ที่รวมทั้ง
การวัดและข้อมูลมุมมองของข้อมูลทางบัญชี ( คือมันรวมๆเกี่ยวกับวิธีการทฤษฎีจึงแม่คู่สมัยใหม่ ) รูปแบบ คือ ความตระหนี่ และไม่รวมข้อมูล asymmetry-a คีย์คุณลักษณะของหลายประเด็นสนใจของนักวิจัยทางการบัญชี การสร้างแบบจำลองที่ตามมาได้อย่างไรก็ตาม ด้วยรูปแบบพื้นฐาน จึงให้บทบาทหลายคุณสมบัติที่สําคัญของระบบบัญชี เช่น ความระมัดระวัง และ decompositions ของรายได้ที่แตกต่างกัน . UK นักวิจัยน้อยได้สร้างผลงานน่าทึ่งนี้แบบวรรณกรรม คุก และ ทิปเป็ทท์ ( 2000 ) ศึกษา
โครงสร้างของระบบบัญชีคู่ รายการและแสดงให้เห็นถึงเงื่อนไขที่ความสัมพันธ์เชิงเส้นอยู่ระหว่างการสรุปมาตรการและมูลค่าตลาดของหุ้น แอชตัน et al . ( 2003 ) ยังมุ่งเน้นไม่ linearities . ใช้ทั่วไปของข้อมูลเชิงพลวัตที่บอกโอลสัน ( 1995 ) รุ่นพวกเขาเสนอสมุห์ทฤษฎีบทการเรียกซ้ำซึ่งแสดงว่า มูลค่าของหุ้นคือ functionally เป็นสัดส่วนกับค่าของการปรับตัว ดังนั้น มูลค่าตลาดของหุ้น ( ผลรวมของการเรียกซ้ำ คุณค่าปรับ ) จะเป็นฟังก์ชันนูนสูงของค่าของการปรับตัว หลักฐานสนับสนุน UK จะนำเสนอ