เทศกาลอีสเตอร์
เทศกาลอีสเตอร์เป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดในศาสนาคริสต์ เเละ ศาสนายิว คริสตศาสนิกชนเฉลิมฉลองเทศกาลอีสเตอร์ เนื่องจากเป็นวันสิ้นพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ เเละ พระองค์ได้ ฟื้นคืนชีพมาอีกครั้ง จากการประชุมในโบสถ์ที่ Nicaea เมื่อปี ค.ศ 325 หลังจากที่พระเยซูสิ้นพระชนม์ ก็มีการ เฉลิมฉลองเทศกาล อีสเตอร์ วันอาทิตย์เเรกนับจากพระจันทร์เต็มดวงครั้งเเรกหลัง จากวันที่พระอาทิตย์ได้โคจรผ่านครึ่งจากเหนือถึงใต้ (vårdagjämningen) ประมาณ ค.ศ 200 ทางศาสนาคริสต์ ได้ตกลงกันว่าให้มีการอดอาหารเป็นเวลา 40 วัน ก่อนวันอีสเตอร์ เพื่อเป็นการระลึกถึงพระเยซูคริสต์ที่ติดอยู่ กลางทะเลทราย เเละ หนึ่งวันก่อนวันอีสเตอร์ตามโบสถ์ต่างๆ จะจุดเทียนทุกเล่มที่ดับ เพื่อเฉลิมฉลองที่ช่วงเวลาการของ การอดอาหารได้หมดสิ้นลง
ปัจจุบันี้เราเฉลิมฉลองกันในวันอีสเตอร์เป็นส่วนใหญ่ เเต่เมื่อสมัยก่อนนานมาเเล้วจะฉลองกันในวันสุดท้ายของ การอดอาหาร ผู้คนจะทำความสะอาดบ้านเรือนของตน ก่อนวันอีสเตอร์ เเต่ในปัจจุบับ วันก่อนวันอีสเตอร์คือวันสำคัญ เเละ เป็นวันที่เริ่มมีการจัดงานฉลองกัน เทศกาลอีสเตอร์จะ ไม่ตรงกันในเเต่ละปี เเละ การฉลอง ก็เเตกต่างกันระหว่าง ภาคเหนือเเละภาคใต้ของสวีเดน
ทางภาคใต้เมื่อถึงเทศกาลอีสเตอร์ก็เข้าฤดูใบไม้ผลิพอดี ซึ่งก็ถือว่าเป็นเทศกาลของทั้งครอบครัว เเต่ทางภาคเหนือ เห็นว่าเป็นเทศกาลของผู้ใหญ่ ถึงเเม้ว่ากาลเวลาเปลี่ยนไปเเล้ว ก็ตามการเฉลิมฉลอง เทศกาลนี้ก็ยังคงมีอยู่ ในปัจจุบัน
เทศกาลอีสเตอร์ ประกอบด้วยการเดินขบวนกู๊ดฟรายเดย์หรือเรียกว่าวันอาทิตย์อีสเตอร์ จัดขึ้นในช่วงรอยต่อระหว่างเดือนมีนาคมถึงเมษายน ภายในเทศกาลจะมีการเฉลิมฉลอง พระสันตะปาปาจะมีกระแสรับสั่งถึงคริสต์ศาสนิกชนในวันอาทิตย์อีสเตอร์ ซึ่งจัดขึ้นที่นครรัฐวาติกัน
Palmsöndag (ซาล์มเซินดอก - วันอาทิตย์ก่อนถึงวันอีสเตอร์ )
วันนี้เป็นวันที่เริ่มต้นของสัปดาห์เเห่งเทศกาลอีสเตอร์ เเละ ได้รับชื่อนี้มาจากคัมภีร์ไบเบิลที่เขียนระบุไว้ว่า ในวันอาทิตย์ ผู้คนได้นำเอากิ่งก้านปาล์มมาวางลงบนพื้น เพื่อที่พระเยซูคริสต์จะได้ขี่ลาผ่านไป
Blåmåndag (โบลโมนดอก -วันจันทร์สีฟ้า)
วันนี้ได้ชื่อมาจาก ภาษาเยอรมัน ”Blauer Montag” ซึ่งเชื่อมโยง เรื่องราวไปถึง กาลเวลาครั้งเมื่อ ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมัน ได้ตกเเต่งโบสถ์ด้วยสีฟ้าในวันนี้
Fettisdag (เฟ๊ตทีสดอก - วันอังคารไขมัน)
มาจากคำว่า fet ที่เเปลว่า ไขมัน เเละ tisdag ที่เเปลว่า วัอังคาFettisdagen เป็นวันอังคาร เเละ วันสุดท้ายก่อนที่วันที่ ชาวคริสต์อดอาหาร เเละ เป็นวันที่เริ่มประเพณีการรับประทาน ขนมปังใส้ครีมที่มีชื่อว่าเซ่ม (semla)
Dymmelonsdag (ดีมเมลอุ้นสดอก- วันพุทธก่อนอีสเตอร์)
ชื่อมาจากโลหะที่เป็นกระดิ่งของระฆังที่โบสถ์ วันนี้จะเเทน ด้วยท่อนไม้ เพื่อที่จะทำให้เสียงระฆังกังวานน้อยลงเพราะ เป็นสัปดาห์เเห่งความเงียบสงบ
Skartorsdag (เเครฺทูชดอก - วันพุฤหัสก่อนอีสเตอร์)
วันนี้เป็นวันที่ระลึกถึงวันที่พระเยซูคริสต์ริเริ่ม nattvarden ภาพวาดบนฝาฝนัง ที่ ลีโอนารโด ดาวินชีได้วาดไว้ ประมาณปี ค.ศ 1495-1498 ในโบสถ์เมือง Santa Maria delle Grazie เมือง Milano เป็นรูปอาหารมื้อสุดท้าย ที่พระเยซูคริสต์เสวย ชื่อของวันนี้มีที่มาคือ พระเยซูคริสต์ได้ ล้างเท้าให้เเก่สาวกของท่าน ก่อนที่จะเสวย อาหารมื้อสุดท้าย คำว่า ”skära” เเปลว่า ”สะอาด”
Langfredag (ลองเฟรียดอก - วันศุกร์ที่ยาวนาน )
วันนี้เป็นวันที่ระลึกถึงพระเยซูคริสต์ที่ถูกตอกตรึงไว้กับไม้กางเขน เเละ สิ้นพระชนม์ที่ Golgata ประเพณีนี้เริ่ม ที่เมือง Jerusalem ในช่วงปี ค.ศ 300 เเต่ทางเเถบสเเกนดิเนเวียนับเป็นวันสำคัญทางศาสนาเมื่อประมาณปี ค.ศ 1600 วันศุกร์ที่ยาวนานนี้ จะเป็นวันเเห่งความเงียบสงบ เเละ ผู้คนจะสวมใส่เสื้อผ้าสีดำ เเละ ไปโบสถ์ ผู้คนจะไม่ทำกิจกรรมใดๆ มันจะเป็นวันที่เงียบสงบเพื่อ ระลึกถึงพระเยซูคริสต์ที่ถูกตรึงบนไม้กางเขนจน สิ้นพระชนม์
Paskafton (โพสคฺอัฟต้อน - วันก่อนวันอีสเตอร์ )
ที่จริงเเล้วเราฉลองวันอีสเตอร์กันวันเสาร์ ในสัปดาห์เเห่งความเงียบสงบ เเต่มันก็ยังไม่เป็นวันอีสเตอร์ ผู้คนก็ ต้องรอจนถึงเที่ยงคืน วันอีสเตอร์เป็นวันที่ชาวคริสตศาสนิกชนดีใจ เเต่ชาวสวีเดนฉลองเทศกาลกันในวัน ก่อนอีสเตอร์ด้วยอาหาร เเละ เครื่องดื่ม ส่วนใหญ่จะมีเเต่ เรื่อง อาหาร ไข่อีสเตอร์ ขนมหวาน เเละ ลูกกวาด
Paskdagen (โพสคฺด๊อกเก่น - วันอีสเตอร์)
ที่จริงเเล้ววันอีสเตอร์เป็นวันที่ผู้เลื่อมใสในศาสนาเฉลิมฉลองกัน เพราะตามคัมภีร์ไบเบิลเป็นวันที่พระเยซูคริสต์ ได้ฟื้นคืนชีพจากความตาย เเละ เป็นวันสำคัญทางศาสนา
Paskkarringar (โพสคฺเเชรริ่ง- ยายเเก่/ยายเฒ่าอีสเตอร์)
การเเต่งตัวเป็นยายเเก่/ยายเฒ่าเป็นประเพณีเก่าเเก่ของชาวสวีเดน ที่เกี่ยวกับเรื่องเล่าที่ว่า เเม่มดขี่ไม้กวาดเหาะไปที่ ภูเขาสีฟ้า เพื่อไปงานเฉลิมฉลองกับพญายม มันเป็นเรื่องเล่าเก่าเเก่ ที่มีมานานเเละเล่าขานกันต่อๆมา
วันนี้เป็นวันที่เด็กๆจะเเต่งตัวเป็นยายเเก่ ที่มีเครื่องแต่งกายที่ประกอบด้วย กระโปรง ผ้ากันเปื้อน เเละ มีผ้าโพกผม เด็กจะเดินรอบๆ หมู่บ้าน หรือ รอบเมือง เเละ นำเอารูปวาดเล็กๆที่พวกเขาวาดเองไปเเจก ผู้ใหญ่ก็จะให้รางวัลเด็กๆ ด้วย ลูกกวาด หรือ ท๊อฟฟี่ เเละ ของขวัญอื่นๆ
Paskagget (โพสคฺเอ็กเก็ท - ไข่อีสเตอร์)
วันอีสเตอร์ฉลองวันที่พระผู้เป็นเจ้าฟื้นคืนชีพ ในประเทศสวีเดนก็เฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิด้วย เพราะเป็นฤดูเเห่งการเกิดใหม่ที่อุดมสมบูรณ์ เเละ สัญญาลักษณ์เเห่งการเกิดใหม่คือ ไข่ ประเพณีไข่อีสเตอร์มี มานานกว่า 3000 ปี ได้มีการระบายสีไข่ในเเถบเปอร์เชีย เเละ ส่วนอื่นของโลก
ที่มาก็เนื่องมาจากช่วงเวลาการอดอาหาร ช่วงที่ผู้คนอด อาหารก่อนวันอีสเตอร์ เเม่ไก่ก็ออกไข่ไปตามปกติ เมื่อคนไม่ได้รับประทานอาหาร จำนวนไข่ก็เพิ่มพูนมากขึ้น ผู้คนจึงนำไข่มาทำอะไรอย่างอื่น นอกเหนือจาก การนำมาเป็นอาหาร มีการนำไข่มาระบายสี เเละ ตกเเต่งให้สวยงาม เเล้วนำไป ให้เป็นของขวัญเเก่กันเเละกัน ประเพณีนี้มี การฉลองในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
สัญลักษณ์ของวันอีสเตอร์
สัญลักษณ์ของวันอีสเตอร์ นั้นได้แก่สิ่งที่สื่อถึงความสุข สมหวัง ชัยชนะ ความอบอุ่น ความสดใส
ไข่
:
สื่อถึงชีวิตใหม่ ไข่ ถือเป็นสัญลักษณ์ของการบังเกิดใหม่หรือมีชีวิตใหม่ กางเขนและอุโมงค์ที่ว่างเปล่า เป็นสัญลักษณ์ของการ