N-ACETYL GLUCOSAMINE (NAG) Mechanis

N-ACETYL GLUCOSAMINE (NAG)
Mechanism of Action of Glucosamine
N-acetyl glucosamine (NAG), is an amino-sugar that inhibits the glycosylation of tyrosinase, which accounts for its depigmenting effect. In addition, NAG acts as a substrate for the production of humectants that maintain hydration of the dermis, such as hyaluronic acid, heparan sulfate, and proteoglycans. 1 Investigators hypothesize that NAG and its metabolites (which include glucosamine and glucuronic acid) act as additional substrates for in situ production of hydroquinone.
Efficacy of N-Acetyl Glucosamine
Preclinical Studies Using Glucosamine
Glucosamine inhibits lipid carrier-dependent glycosylation of protein, which in turn inhibits pigmentation and changes the structure and function of melanogenic compartments of B16 melanoma cells. 7 NAG in concentrations ranging from 1% to 5% applied topically to skin equivalent cell cultures induced declines in melanin content in a dose-dependent manner. In particular, the changes compared to vehicle control compared to the 3% NAG concentration were statistically significant (P=0.0350). In vitro experiments showed that NAG on skin cell equivalents induced upregulation of gene expression relating to protein and epidermal turnover that could contribute to the pigmentation reduction observed in the skin equivalent cell cultures.
Clinical Studies Using N-Acetyl Glucosamine
Kimball et al conducted a randomized, double-blind, vehicle- controlled trial with 202 Caucasian female subjects (ages 40–60) had moderate to moderately severe irregular hyperpigmentation, 188 (93%) of whom completed the study. Subjects in the niacinamide plus NAG group received a topical night-time cream formulation containing 4% niacinamide plus 2% NAG and a topical daytime lotion formulation which also contained 4% niacinamide plus 2% NAG, for 8 weeks. Investigators calculated the spot area fraction as the ratio of total hyperpigmented area to total skin measurement area, multiplied by 100 Although hyperpigmentation worsened from baseline during the study in both groups, the increases in spot area fraction were significantly smaller in the niacinamide plus NAG group at 6 and 8 weeks. In an 8-week, double-blind, split-face study among 50 Japanese female subjects (ages 25–55), topical 2% n-acetyl glucosamine was effective in improving the appearance of facial hyperpigmentation based on computer images This study reported an overall directional spot area fraction change at a combined 4 and 8 weeks (P = 0.089)Investigators also conducted an 8-week, double-blind, placebo controlled, split-face study among 35 Caucasian female subjects (ages 35–65) with solar lentigines on both sides of the face. There were 3 test formulations: a placebo control, 4% niacinamide, and 4% niacinamide plus 2% n-acetyl glucosamine. At week 8, the combination formulation was significantly more effective at reducing hyperpigmentation spot area than was niacinamide alone (P = 0.017), which in turn was more effective than the control formulation.
Safety of N-Acetyl Glucosamine
N-acetyl glucosamine was well-tolerated clinically by participants in the clinical studies mentioned above, with fewer than 3.5% developing such adverse reactions as mild-to-moderate skin irritation in both studies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

N-ACETYL GLUCOSAMINE (NAG) กลไกของการดำเนินการของ Glucosamine N-acetyl glucosamine (NAG), คือ เป็นอะมิโนน้ำตาลที่ยับยั้ง glycosylation ของ tyrosinase ซึ่งมีผลต่อ depigmenting นอกจากนี้ NAG ทำหน้าที่เป็นพื้นผิวสำหรับการผลิต humectants ที่รักษาไล่น้ำของผิวหนัง กรด hyaluronic, heparan ซัลเฟต และ proteoglycans สืบสวน 1 hypothesize NAG ที่ และ metabolites ของ (ซึ่งรวมถึงกรด glucosamine และ glucuronic) ทำหน้าที่เป็นพื้นผิวที่เพิ่มเติมสำหรับการผลิตใน situ ของ hydroquinoneประสิทธิภาพของ N-Acetyl Glucosamine การใช้ Glucosamine preclinical ศึกษา Glucosamine ยับยั้ง glycosylation ขึ้นอยู่กับการขนส่งไขมันโปรตีน ซึ่งจะยับยั้งผิวคล้ำ และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและหน้าที่ของช่อง melanogenic ของเซลล์ B16 melanoma NAG 7 ในความเข้มข้นตั้งแต่ 1% ถึง 5% ใช้ topically วัฒนธรรมเท่าเซลล์ผิวเกิดจากในเนื้อหาเมลานินในลักษณะขึ้นอยู่กับปริมาณรังสี โดยเฉพาะ การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับเมื่อเทียบกับความเข้มข้น 3% NAG ควบคุมรถได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P = 0.0350) ในหลอดทดลองพบว่า NAG บนเทียบเท่าเซลล์ผิวทำให้เกิด upregulation ของยีนที่เกี่ยวข้องกับโปรตีนและหมุนเวียน epidermal ที่อาจนำไปสู่การลดผิวคล้ำในวัฒนธรรมเหมือนเซลล์ผิวการศึกษาทางคลินิกโดยใช้ N-Acetyl Glucosamine Kimball et al conducted a randomized, double-blind, vehicle- controlled trial with 202 Caucasian female subjects (ages 40–60) had moderate to moderately severe irregular hyperpigmentation, 188 (93%) of whom completed the study. Subjects in the niacinamide plus NAG group received a topical night-time cream formulation containing 4% niacinamide plus 2% NAG and a topical daytime lotion formulation which also contained 4% niacinamide plus 2% NAG, for 8 weeks. Investigators calculated the spot area fraction as the ratio of total hyperpigmented area to total skin measurement area, multiplied by 100 Although hyperpigmentation worsened from baseline during the study in both groups, the increases in spot area fraction were significantly smaller in the niacinamide plus NAG group at 6 and 8 weeks. In an 8-week, double-blind, split-face study among 50 Japanese female subjects (ages 25–55), topical 2% n-acetyl glucosamine was effective in improving the appearance of facial hyperpigmentation based on computer images This study reported an overall directional spot area fraction change at a combined 4 and 8 weeks (P = 0.089)Investigators also conducted an 8-week, double-blind, placebo controlled, split-face study among 35 Caucasian female subjects (ages 35–65) with solar lentigines on both sides of the face. There were 3 test formulations: a placebo control, 4% niacinamide, and 4% niacinamide plus 2% n-acetyl glucosamine. At week 8, the combination formulation was significantly more effective at reducing hyperpigmentation spot area than was niacinamide alone (P = 0.017), which in turn was more effective than the control formulation.Safety of N-Acetyl Glucosamine N-acetyl glucosamine was well-tolerated clinically by participants in the clinical studies mentioned above, with fewer than 3.5% developing such adverse reactions as mild-to-moderate skin irritation in both studies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

N-Acetyl กลูโคซา (จู้จี้)
กลไกของการดำเนินการของกลูโคซาลู N-acetyl (จู้จี้) เป็นอะมิโนน้ำตาลที่ยับยั้ง glycosylation ของเอนไซม์ tyrosinase ซึ่งบัญชีสำหรับผล depigmenting ของ
นอกจากนี้จู้จี้ทำหน้าที่เป็นสารตั้งต้นในการผลิตของ humectants ที่รักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังเช่นกรดไฮยาลูโรซัลเฟต heparan และ proteoglycans 1 นักวิจัยตั้งสมมติฐานว่าจู้จี้และสารที่ (ซึ่งรวมถึง glucosamine และ glucuronic กรด) ทำหน้าที่เป็นพื้นผิวที่เพิ่มขึ้นสำหรับในการผลิตแหล่งกำเนิดของ hydroquinone.
การศึกษาประสิทธิภาพของ N-Acetyl Glucosamine
ศึกษา Preclinical ใช้ Glucosamine
Glucosamine ยับยั้ง glycosylation ผู้ให้บริการขึ้นอยู่กับไขมันโปรตีนซึ่งในทางกลับกัน ยับยั้งการสร้างเม็ดสีและการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการทำงานของช่อง melanogenic ของเซลล์เนื้องอก B16 7 จู้จี้ในระดับความเข้มข้นตั้งแต่ 1% ถึง 5% ใช้ topically วัฒนธรรมเซลล์ผิวเทียบเท่าเหนี่ยวนำให้เกิดการลดลงในเนื้อหาของเมลานินในลักษณะที่ขึ้นอยู่กับปริมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับการควบคุมรถเมื่อเทียบกับความเข้มข้นจู้จี้ 3% อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.0350) ในหลอดทดลองการทดลองแสดงให้เห็นว่าจู้จี้ในรายการเทียบเท่าเซลล์ผิวที่เหนี่ยวนำให้เกิด upregulation การแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับโปรตีนและผลประกอบการที่ผิวหนังที่อาจนำไปสู่การลดผิวคล้ำพบในเซลล์เพาะเลี้ยงผิวหนังเทียบเท่า.
การศึกษาทางคลินิกการใช้ N-Acetyl Glucosamine
คิมบอลล์, et al ดำเนินการสุ่ม double-blind ทดลองควบคุม vehicle- กับอาสาสมัคร 202 คนผิวขาวหญิง (อายุ 40-60) มีปานกลางถึงรุนแรงปานกลางรอยดำผิดปกติ 188 (93%) ของผู้ที่เสร็จสิ้นการศึกษา อาสาสมัครในกลุ่ม Niacinamide บวกจู้จี้รับสูตรครีมในเวลากลางคืนที่มีเฉพาะ Niacinamide 4% บวก 2% จู้จี้และโลชั่นสูตรเฉพาะในเวลากลางวันซึ่งยังมี Niacinamide 4% บวก 2% จู้จี้, 8 สัปดาห์ นักวิจัยคำนวณส่วนพื้นที่จุดที่เป็นอัตราส่วนของพื้นที่ทั้งหมดเม็ดสีมากเกินไปกับผิวรวมพื้นที่วัดคูณด้วย 100 แม้ว่ารอยดำแย่ลงจาก baseline ในระหว่างการศึกษาในทั้งสองกลุ่มที่เพิ่มขึ้นในจุดส่วนพื้นที่อย่างมีนัยสำคัญที่มีขนาดเล็กใน Niacinamide บวกกลุ่มจู้จี้ที่ 6 และ 8 สัปดาห์ ใน 8 สัปดาห์, double-blind การศึกษาแยกใบหน้าหมู่ 50 อาสาสมัครหญิงญี่ปุ่น (อายุ 25-55) เฉพาะ 2% กลูโคซา n-acetyl มีประสิทธิภาพในการลดเลือนรอยดำบนใบหน้าที่ขึ้นอยู่กับภาพคอมพิวเตอร์การศึกษานี้รายงาน จุดทิศทางโดยรวมของการเปลี่ยนแปลงส่วนพื้นที่ที่รวม 4 และ 8 สัปดาห์ (P = 0.089) นักวิจัยยังดำเนินการ 8 สัปดาห์, double-blind ได้รับยาหลอกควบคุมการศึกษาแยกใบหน้าหมู่ 35 อาสาสมัครเพศหญิงผิวขาว (อายุ 35-65) ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ lentigines ทั้งสองข้างของใบหน้า มี 3 สูตรการทดสอบพบว่าการควบคุมยาหลอก Niacinamide 4% และ 4% Niacinamide บวก 2% กลูโคซา n-acetyl ในสัปดาห์ที่ 8 สูตรการรวมกันอย่างมีนัยสำคัญมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการลดพื้นที่จุดรอยดำกว่า Niacinamide เป็นคนเดียว (P = 0.017) ซึ่งจะเป็นผลดีกว่าสูตรควบคุม.
ความปลอดภัยของ N-Acetyl Glucosamine
ลู N-acetyl ได้ดี การยอมรับทางการแพทย์โดยผู้เข้าร่วมในการศึกษาทางคลินิกดังกล่าวข้างต้นที่มีน้อยกว่า 3.5% การพัฒนาอาการไม่พึงประสงค์เช่นการระคายเคืองผิวหนังอ่อนถึงปานกลางในการศึกษาทั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

n-acetyl กลู ( บ่น )

n-acetyl กลไกการออกฤทธิ์ของกลูโคซามีน ( บ่น ) เป็น กรดอะมิโน น้ำตาลที่ยับยั้ง glycosylation ของไทโรซิเนส ซึ่งบัญชีสำหรับ depigmenting Effect นอกจากนี้ บ่นทำเป็นสารตั้งต้นเพื่อผลิต humectants ว่ารักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง เช่น กรดไฮยาลูโร , ซัลเฟต , heparan และ proteoglycans .1 นักวิจัยพบว่าจู้จี้และ metabolites ( ซึ่งรวมถึงกลูและ glucuronic acid ) เป็นสารอาหารเพิ่มเติมในการผลิตชนิดของไฮโดรควิโนน ประสิทธิภาพของกลูโคซามีน
.
n-acetyl จาการศึกษาโดยใช้กลู
กลูยับยั้งไขมันขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ glycosylation โปรตีนซึ่งจะช่วยยับยั้งเม็ดสี และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการทำงานของ melanogenic ช่องของ b16 เนื้องอกเซลล์ 7 บ่นในความเข้มข้นตั้งแต่ 1% ถึง 5% ใช้ topically เพื่อกระตุ้นเซลล์ผิวเท่ากับวัฒนธรรมลดลงในเนื้อหาของเมลานินในลักษณะปิดกั้น . โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับการควบคุมรถเมื่อเทียบกับ 3% บ่นความเข้มข้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( p = 0.0350 ) ในหลอดทดลอง พบว่า ในเซลล์ผิวและบ่นเทียบเท่าระหว่างการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับโปรตีน และการหมุนเวียนของ epidermal ที่อาจนำไปสู่การลดเม็ดสีที่พบในเซลล์ผิวเทียบเท่า
วัฒนธรรมการศึกษาทางคลินิกที่ใช้ n-acetyl กลู
คิมบอลล์ et al ได้ทำการสุ่มแบบยานพาหนะ - ทดลองกับคนผิวขาวเพศหญิง ( อายุ 40 – 60 ) ต้องรุนแรงปานกลางผิดปกติ hyperpigmentation ปานกลาง , 188 ( 93% ) ของผู้ที่จบการศึกษาวิชาในกลุ่มที่ได้รับเฉพาะที่ Niacinamide และบ่น กลางคืนสูตรครีมที่ประกอบด้วย Niacinamide 4% พร้อมบ่น 2 % และ topical สูตรกลางวันครีม Niacinamide 4% ที่ยังมีบวก 2% บ่นตลอด 8 สัปดาห์ นักวิจัยคำนวณพื้นที่จุดเศษ เมื่ออัตราส่วนของพื้นที่ทั้งหมดการการวัดพื้นที่ผิวทั้งหมดคูณด้วย 100 ถึงแม้ว่า hyperpigmentation worsened พื้นฐานจากในระหว่างศึกษาทั้งในกลุ่ม เพิ่มในส่วนพื้นที่จุดขนาดเล็กอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มที่จ้องจับผิด Niacinamide บวก 6 และ 8 สัปดาห์ ในสัปดาห์ที่ 8 , double-blind , การศึกษาหน้าแบ่งกัน 50 คน หญิงชาวญี่ปุ่น ( อายุ 25 – 55 )ยาทา 2% n-acetyl กลู ประสิทธิภาพในการปรับปรุงลักษณะที่ปรากฏของใบหน้า hyperpigmentation ขึ้นอยู่กับภาพคอมพิวเตอร์การศึกษานี้รายงานโดยรวม พื้นที่จุด ส่วนทิศทางการเปลี่ยนแปลงรวม 4 และ 8 สัปดาห์ ( P = 0.089 ) นักวิจัยยังทำการสัปดาห์ที่ 8 แบบ ซึ่งควบคุมศึกษาหน้าแยกระหว่าง 35 ผิวขาวเพศหญิง ( อายุ 35 – 65 ) กับโซล่า เลนทีจิ้น ทั้ง 2 ข้างของใบหน้า มี 3 การทดสอบสูตร : ยาหลอกควบคุม 4% Niacinamide 4% Niacinamide บวก 2% n-acetyl กลู ในสัปดาห์ที่ 8 , รวมสูตรมากขึ้น มีประสิทธิภาพในการลด hyperpigmentation จุด พื้นที่ กว่า ไนอะซินาไมด์อย่างเดียว ( p = 0.017 )ซึ่งจะได้ประสิทธิภาพมากกว่าสูตรควบคุม ความปลอดภัยของ n-acetyl กลู

n-acetyl กลูก็ยอมรับทางการแพทย์ โดยผู้เข้าร่วมในการศึกษาทางคลินิกที่กล่าวถึงข้างต้น จำนวนกว่า 3.5 % พัฒนาอาการไม่พึงประสงค์ เช่น อ่อน ระคายเคืองผิวปานกลางทั้งในการศึกษา .