Predictors of Sleep OutcomesGiven t

Predictors of Sleep Outcomes
Given that previous research found that parental presence appears to moderate the relationship between breastfeeding and sleep, hierarchical linear regressions were BREASTFEEDING AND SLEEP 197 used to investigate the relative importance of breastfeeding and parental presence at sleep onset for various sleep outcomes. For all regressions, parental presence at sleep onset was entered at Step 1 followed by breastfeeding at Step 2, to assess the independent contribution of breastfeeding beyond parental presence at sleep onset. Regression results at each time point are presented in Table 3. At base-line, breastfeeding was relatively more important in explaining increased night wakings (R 2 change=0.09, Total R
2 =.10), daytime naps (R2 change=0.09, Total R 2=.09) and decreased likelihood of waking in own bed (R 2 change=0.14,
Total R 2 =.16) than parental presence. In contrast, parental presence explained more variance in longest continuous sleep period (R2 change =0.05, Total R 2=.06) and sleep onset latency (R 2 change=0.06, Total R 2=.07). Regressions
for sleep onset latency and perception of sleep problems were not statistically significant. Taken together, breastfeeding and parental presence accounted for between 1% and 16% of the variance in sleep outcomes at baseline.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Predictors ของผลป
ระบุว่างานวิจัยก่อนหน้านี้พบว่า สถานะผู้ปกครองปรากฏบรรเทาความสัมพันธ์ระหว่างนมแม่และนอน regressions ลำดับเชิงเส้นได้เลี้ยงลูกด้วยนมและนอนหลับ 197 ใช้ตรวจสอบความสำคัญของนมแม่และการแสดงโดยผู้ปกครองที่เริ่มมีอาการนอนหลับผลต่าง ๆ สำหรับทั้งหมด regressions ป้อนสถานะโดยผู้ปกครองที่นอนเริ่มที่ขั้นตอนที่ 1 ตาม ด้วยนมแม่ใน 2 ขั้นตอน การประเมินสัดส่วนอิสระของนมนอกเหนือจากสถานะผู้ปกครองที่เริ่มมีอาการนอนหลับ ผลการถดถอยแต่ละจุดเวลาจะแสดงในตาราง 3 ที่ฐานสาย เลี้ยงลูกด้วยนมค่อนข้างสำคัญในการอธิบายเพิ่ม wakings คืน (เปลี่ยน R 2 = 0.09 รวม R
2 =. 10), naps กลางวัน (เปลี่ยน R2 = 0.09 รวม R 2 =. 09) และลดโอกาสของการปลุกในเตียงของตัวเอง (เปลี่ยน R 2 = 0.14,
2 R รวม = 16) กว่าสถานะผู้ปกครอง ในทางตรงกันข้าม สถานะผู้ปกครองอธิบายต่างเพิ่มมากขึ้นในรอบระยะเวลาการนอนหลับอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุด (เปลี่ยน R2 = 0.05 รวม R 2 =. 06) นอนเริ่มแฝง (เปลี่ยน R 2 = 0.06 รวม R 2 =. 07) Regressions
สำหรับเริ่มนอน เวลาแฝงและรับรู้ปัญหาการนอนหลับได้ไม่อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เอากัน นมและสถานะผู้ปกครองคิดเป็น 1% และ 16% ของความแปรปรวนในผลปที่พื้นฐาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การพยากรณ์ของการนอนหลับผล
การวิจัยระบุว่าพบว่าการปรากฏตัวของพ่อแม่จะปรากฏขึ้นถึงปานกลางความสัมพันธ์ระหว่างเลี้ยงลูกด้วยนมและนอนหลับวิเคราะห์เชิงลำดับชั้นได้รับการเลี้ยงลูกด้วยนมและนอน 197 ที่ใช้ในการตรวจสอบความสำคัญของการให้นมแม่และการปรากฏตัวของพ่อแม่ที่เริ่มมีอาการนอนหลับสำหรับผลการนอนหลับต่างๆ สำหรับวิเคราะห์ทุกที่ที่มีผู้ปกครองที่เริ่มมีอาการนอนหลับได้รับการป้อนที่ขั้นตอนที่ 1 ตามมาด้วยการเลี้ยงลูกด้วยนมที่ 2 ขั้นตอนในการประเมินผลงานที่เป็นอิสระจากการเลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ ที่มีผู้ปกครองที่เริ่มมีอาการนอนหลับ ผลการถดถอยที่จุดแต่ละครั้งจะแสดงในตารางที่ 3 ที่ฐานบรรทัดเลี้ยงลูกด้วยนมค่อนข้างสำคัญมากขึ้นในการอธิบายคืนเพิ่มขึ้น wakings (R 2 = 0.09 การเปลี่ยนแปลงรวม R
2 = 0.10) naps เวลากลางวัน (เปลี่ยน R2 = 0.09, รวม R 2 = 0.09) และลดโอกาสของการตื่น นอนอยู่บนเตียงของตัวเอง (R 2 = 0.14 เปลี่ยนแปลง,
รวม R 2 = 0.16) เมื่อเทียบกับการปรากฏตัวของผู้ปกครอง ในทางตรงกันข้ามมีผู้ปกครองอธิบายความแปรปรวนมากขึ้นในช่วงเวลาการนอนหลับอย่างต่อเนื่องที่ยาวที่สุด (เปลี่ยน R2 = 0.05, รวม R 2 = 0.06) และการนอนหลับแฝงการโจมตี (R 2 = 0.06 การเปลี่ยนแปลงรวม R 2 = 0.07) วิเคราะห์
เพื่อแฝงการโจมตีการนอนหลับและการรับรู้ของปัญหาการนอนหลับไม่ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ร่วมกันเลี้ยงลูกด้วยนมและการปรากฏตัวของพ่อแม่คิดระหว่าง 1% และ 16% ของความแปรปรวนในผลการนอนหลับที่ baseline

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทำนายผลนอน
ระบุว่างานวิจัยก่อนหน้านี้พบว่า ผู้ปกครองตนปรากฏค่าความสัมพันธ์ระหว่างการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และนอน ลดหลั่นเชิงเส้นสมการถดถอย คือการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และนอนและใช้ศึกษาความสำคัญสัมพัทธ์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และผู้ปกครองตนนอนหลับการโจมตีสำหรับผลลัพธ์ต่าง ๆ สังกะสีทั้งหมด ,ของตนที่ใส่นอนเริ่มที่ขั้นตอนที่ 1 ตามด้วยการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ในขั้นที่ 2 เพื่อประเมินผลงานอิสระของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ นอกจากผู้ปกครองตนที่หลับการโจมตี การถดถอยที่แต่ละจุดเวลาจะแสดงในตารางที่ 3 ที่บรรทัดฐาน การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ค่อนข้างสำคัญในการอธิบายเพิ่ม wakings คืน ( R 2 เปลี่ยน = 0.09 , รวม R
2 = 10 )เวลากลางวัน naps ( R2 = 0.09 เปลี่ยนแปลงทั้งหมด 2 , r = . 09 ) และลดลงในโอกาสของการตื่นเองเตียง ( R 2 เปลี่ยน = 0.14 , รวม R
2 = . 16 ) มากกว่าของตน ในทางตรงกันข้าม พ่อแม่ตนอธิบายความแปรปรวนในช่วงยาวต่อเนื่องนอน ( R2 = 0.05 เปลี่ยนแปลงทั้งหมด 2 , r = . 06 ) และนอนเริ่มแฝง ( R 2 เปลี่ยน = 0.06 , รวม R 2 = . 07 ) สังกะสี
หลับการโจมตีแฝงและการรับรู้ปัญหาการนอนหลับอยู่ในระดับมาก ถ่ายด้วยกัน การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และผู้ปกครองตนคิดระหว่าง 1% และ 5% ของความแปรปรวนในผล นอน ที่ พื้นฐาน