The purposes of research at to stud

The purposes of research at to study consumption behavior and nutritional status and Find personal factors that was correlated to consumption behavior and nutritional status of students in Huay San Yao Wittaya School grade 1-6 Dong Mada sub district, Mae Lao District, Chiang Rai Province. Population was 99 primary school students grade 1-6 in Dong Mada sub district. The instrument in this study consists of 3 parts: the questionnaire, the nutritional assessment tool. The data was analyzed by frequency, percentage, average and standard deviation and correlating by Chi-Square, Fisher’s Exact Test.
The findings indicated consumption behavior was at moderate level (69.7%) good level (30.3%). When considering a text list, found that student behavior should improve in eating sweets every day (μ = 1.06, σ = 0.73). The behavior is moderate drink sweetened beverages every day (μ = 1.60, σ = 0.73), eat grilled and fried every day (μ = 2.22, σ = 0.74) and eat high fat every day (such fried chicken, fried pork green curry etc.) (μ = 2.33, σ = 0.67). The findings indicated nutritional status based on weight for height in that 71.72% was normal, 22.22% was relatively obesity. The findings indicated correlated to consumption behavior and nutritional status found that personal factors (gender, age and ethnic group) the correlated with consumption behavior and nutritional status without the statistical significance at the 0.05 level.
The students in Huay San Yao Wittaya School have overnutrition 22.22% and consumption behavior eating sweets, high fat, grilled and fried that may be the cause students in Huay San Yao Wittaya School have overnutrition. Therefore, the parents should encourage children to eat foods that are tasteless and And avoid that children are eating or drinking sweet taste. The teacher or the school should arrange activities that encourage students to exercise every day for the good nutrition and good health following.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อศึกษาพฤติกรรมการบริโภค และโภชนาการ และค้นหาปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคและโภชนาการของนักเรียนในย่อยดงมาดาเกรด 1-6 โรงเรียนบ้านนายพลห้วยซานเขต อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ประชากรคือ 99 โรงเรียนประถมศึกษานักเรียนเกรด 1-6 ในอำเภอดงมาดา เครื่องมือในการศึกษานี้ประกอบด้วยส่วนที่ 3: แบบสอบถาม เครื่องมือการประเมินโภชนาการ ข้อมูลถูกกัน โดยทดสอบที่แน่นอนของ Fisher ไคสแควร์ และวิเคราะห์ โดยความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยระบุปริมาณการใช้ลักษณะการทำงานได้ในระดับปานกลาง (69.7%) ระดับดี (30.3%) เมื่อพิจารณารายข้อความ พบว่า ลักษณะการทำงานของนักเรียนควรปรับปรุงในการกินขนมหวานทุกวัน (μ = 1.06 σ = 0.73) ลักษณะการทำงานจะดื่มเครื่องดื่มปานกลางหวานทุกวัน (μ = 1.60 σ = 0.73), กินย่าง และผัดทุกวัน (μ = 2.22 σ = 0.74) และกินไขมันสูงทุกวัน (เช่นผัดแกงกะหรี่หมูทอด ไก่เขียวฯลฯ) (Μ = 2.33 Σ = 0.67) ผลการวิจัยระบุโภชนาการตามน้ำหนักความสูงในที่ 71.72% ไม่ปกติ 22.22% เป็นโรคอ้วนค่อนข้าง ผลการวิจัยระบุมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภค และโภชนาการพบว่าบุคคลปัจจัย (เพศ อายุ และชาติพันธุ์กลุ่ม) ที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคและโภชนาการที่ไม่ มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 นักเรียนในโรงเรียนบ้านนายพลห้วยซานมี overnutrition 22.22% และปริมาณการใช้ลักษณะการทำงานกินขนม ไขมันสูง ย่าง และผัดที่อาจจะมีสาเหตุนักเรียนในโรงเรียนบ้านนายพลซานห้วย overnutrition ดังนั้น ผู้ปกครองควรส่งเสริมให้เด็กรับประทานอาหารที่มีรสจืด และ และหลีกเลี่ยงการให้เด็กรับประทานอาหาร หรือดื่มรสหวาน ครูหรือโรงเรียนควรจัดกิจกรรมที่กระตุ้นให้นักเรียนออกกำลังกายทุกวันเพื่อโภชนาการที่ดีและสุขภาพดีต่อไปนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของการวิจัยที่จะศึกษาพฤติกรรมการบริโภคและภาวะโภชนาการและหาปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคและภาวะโภชนาการของนักเรียนในตำบลห้วยซานยาววิทยาโรงเรียนเกรด 1-6 ดงมะดะอำเภอแม่ลาวจังหวัดเชียงราย ประชากร 99 นักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ในตำบลดงมะดะ เครื่องมือในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย 3 ส่วนคือแบบสอบถามเครื่องมือการประเมินภาวะโภชนาการ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่ร้อยละค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและมีความสัมพันธ์โดย Chi-square ทดสอบที่แน่นอนฟิชเชอร์.
ผลการวิจัยชี้ให้เห็นพฤติกรรมการบริโภคอยู่ในระดับปานกลาง (69.7%) ระดับดี (30.3%) เมื่อพิจารณารายการข้อความที่พบพฤติกรรมของนักเรียนที่ควรปรับปรุงในการกินขนมทุกวัน (μ = 1.06, σ = 0.73) พฤติกรรมเป็นเครื่องดื่มในระดับปานกลางหวานเครื่องดื่มทุกวัน (μ = 1.60, σ = 0.73), กินอาหารปิ้งย่างและทอดทุกวัน (μ = 2.22, σ = 0.74) และกินไขมันสูงทุกวัน (ไก่ทอดเช่นหมูทอดแกงเขียวหวาน ฯลฯ .) (μ = 2.33, σ = 0.67) ผลการวิจัยชี้ให้เห็นภาวะโภชนาการขึ้นอยู่กับน้ำหนักสำหรับความสูงในการที่ 71.72% เป็นปกติ 22.22% ค่อนข้างโรคอ้วน ผลการวิจัยพบความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคและภาวะโภชนาการพบว่าปัจจัยส่วนบุคคล (เพศอายุและกลุ่มชาติพันธุ์) มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคและภาวะโภชนาการโดยไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05.
นักเรียนในห้วยซานยาว Wittaya School มีภาวะโภชนาการเกิน 22.22 % และพฤติกรรมการบริโภคการกินขนมที่มีไขมันสูงปิ้งย่างและทอดที่อาจจะเป็นสาเหตุที่นักเรียนในห้วยซานยาว Wittaya School มีภาวะโภชนาการเกิน ดังนั้นพ่อแม่ควรส่งเสริมให้เด็กกินอาหารที่มีรสจืดและและหลีกเลี่ยงการที่เด็กจะรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มรสหวาน ครูหรือโรงเรียนควรจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนที่จะออกกำลังกายทุกวันสำหรับโภชนาการที่ดีและสุขภาพที่ดีต่อไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อศึกษาพฤติกรรมการบริโภคและภาวะโภชนาการ และพบว่าปัจจัยส่วนบุคคลมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคและภาวะโภชนาการของนักเรียนในโรงเรียนเกรด 1-6 ห้วยซันยาววิทยา ตำบลดงมะดะ อําเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ประชากร คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 99 ในดงมะดะต. . เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 3 ส่วน คือ แบบสอบถาม การประเมินภาวะโภชนาการ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ไคสแควร์ และสัมพันธ์โดย Fisher " s exact testผลการวิจัยพบว่า พฤติกรรมการบริโภคในระดับปานกลาง ( 69.7 ) ระดับดี ( 30.3 % ) เมื่อพิจารณารายการข้อความ พบว่า นักเรียนควรปรับปรุงพฤติกรรมในการรับประทานขนมทุกวัน ( μ = 1.06 σ = 0.73 ) พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวานปานกลาง คือ ทุก ๆวัน ( μ = 1.60 σ = 0.73 ) , กินย่างและทอดทุกวัน ( μ = 2.22 , σ = 0.74 ) และกินไขมันสูงทุกวัน ( เช่น ไก่ทอด หมูทอด แกงเขียวหวาน ฯลฯ ) ( μ = 2.33 , σ = 0.67 ) ผลการวิจัยพบว่า ภาวะโภชนาการโดยน้ำหนักสำหรับความสูงที่ 71.72 % ปกติ ร้อยละ 22.22 ค่อนข้างอ้วน ผลการวิจัยพบว่า มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคและภาวะโภชนาการ พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคล ( เพศ อายุ และกลุ่มชาติพันธุ์ ) มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคและภาวะโภชนาการ ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05นักเรียนโรงเรียนห้วยซันยาววิทยา มีภาวะโภชนาการเกิน 22.22 เปอร์เซ็นต์และพฤติกรรมการรับประทานขนมไขมันสูง ย่าง และทอด นั่นอาจเป็นเพราะนักเรียนในโรงเรียนห้วยซันยาววิทยา มีภาวะโภชนาการเกิน . ดังนั้น พ่อแม่ควรส่งเสริมให้เด็กที่จะกิน อาหารที่มีรสจืด และหลีกเลี่ยงการ ที่เด็กมีการรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มรสหวาน ครู หรือ โรงเรียนควรจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนออกกำลังกายทุกวันเพื่อโภชนาการที่ดีและสุขภาพที่ดีต่อไป