พวกเขามองว่าการทำบ้านทำให้เขาเสียเวลาที่จะเล่นกับเพื่อน สนทนากับเพื่อน เพราะเวลาทำการบ้านไม่มีความสุขเหมือนเวลาเล่นกับเพื่อน และทำอย่างอื่นอีกมากมาย ทั้งที่เขาไม่รู้เลยว่า การทำการบ้าน เป็นการฝึกทักษะและสมองได้มากแค่ไหน ทำให้ฝึกความรับผิดชอบไปในตัวอีกด้วย โดยที่เด็กอีกกลุ่มหนึ่งที่ตั้งใจเรียน ทำการบ้านทุกครั้งที่ครูสั่ง พวกเขากลุ่มนั้นมองว่าการบ้านคือสิ่งที่มีความท้าทายและน่าสนใจมาก และเป็นการฝึกทักษะในการแก้ปัญหา การเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยที่ไม่ต้องพึ่งครู ซึ่งทำให้เขามีความรู้ความสามารถเพื่อที่จะนำไปใช้แก้ปัญหาในอนาคตได้ การตั้งใจทำการบ้านของพวกเขานั้นได้ฝึกความรับผิดชอบ ให้พวกเขารู้จักความรับผิดชอบต่อหน้าที่ จะทำให้เป้นคนเก่งได้ในอนาคตข้างหน้า จึงจะเห็นได้ว่าทุกอย่างนั้นมีการคิดต่างทั้งสองด้าน เปรียบเสมือนเหรียญก็มีสองด้านเช่นกัน เด็กกลุ่มหนึ่งมองว่าการบ้านเป้นสิ่งที่น่าเบื่อ โดยที่เด็กอีกกลุ่มหนึ่งมองว่าการบ้านเป็นสิ่งที่น่าสนใจ โดยสรุปได้ว่าการบ้านเป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่ก็เป็นสิ่งที่น่าเบื่อเช่นกัน แต่โดยแท้จริงแล้ว การบ้านเป็นสิ่งที่ ทดสอบความรู้ของเรา ว่าเราจะมีความเข้าใจมากน้อยแค่ไหน เด็กหลายคนตั้งคำถามว่าทำไมต้องทำการบ้าน? เพราะเป็นการแก้ปัญหาหรือตอบโจทย์ปัญหาด้วยตนเองโดยไม่มีครูคอยสอนเหมือนในห้องเรียน เพราะในอนาคตข้างหน้า เราจะต้องแก้ปัญหาอีกหลายอย่าง โดยที่เราต้องตอบโจทย์ปัญหาที่เข้ามาในชีวิตด้วยตนเอง ปัญหาในห้องเรียนเรายังมีครูที่คอยสอน แต่ครูไม่ได้อยู่กับเราไปจนแก่ ครูจะอยู่กับเราถึงจบปีการศึกษานั้นๆ แต่เราต้องเจอปัยหาอีกหลายอย่างที่เข้ามาในชีวิต ซึ่งเราต้องเป็นคนแก้มัน นี่คือคำตอบว่าทำไมเราจึงต้องทำการบ้าน
ต่อจากนี้เป็นต้นไปเราทุกคนจะต้องทำการบ้าน และแก้ปัญหาในชีวิตต่อไป จนกว่าชีวิตจะสิ้นสุด ไม่ว่าผู้ให้การบ้านจะเป็นครู หรือเจ้านาย หรือคนรอบข้างที่จะเข้ามาให้เราแก้ปัญหาโดยการทำการบ้าน