Fraud is legally defined as an act

Fraud is legally defined as an act committed with the intent to deceive and which causes harm or injury. There are four basic requirements for classifying a behavior as fraudulent: "First, a false representation is made by one party, who either knows it to be false or is knowingly ignorant of its truth ... Second, the misrepresenter's intent is that another will rely on the false representation. Third, the recipient of the information is unaware of the intentional deception. Fourth, the recipient of the information is justified in relying on or expecting the truth from the communicator. The resulting injury may be financial, physical or emotional

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทุจริตตามกฎหมายไว้เป็นการกระทำที่มุ่งมั่นมีเจตนาหลอกลวงที่ทำให้เกิดอันตรายหรือบาดเจ็บ มีสี่ข้อกำหนดพื้นฐานสำหรับการจัดประเภทพฤติกรรมเป็นการหลอกลวง: "ครั้งแรก การแสดงเท็จจะ โดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ที่รู้ว่ามันเป็นเท็จ หรือมีเจตนาไม่รู้ความจริง... สอง เจตนาของ misrepresenter เป็นที่อื่นจะพึ่งแสดงเท็จ ที่สาม ผู้รับข้อมูลได้ไม่รู้ตัวหลอกลวงมิ ผู้รับข้อมูล 4 เป็นธรรมพึ่งพา หรือคาดหวังความจริงจากการใช้ communicator อาจบาดเจ็บได้เงิน ทางกายภาพ หรืออารมณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การทุจริตที่ถูกกำหนดให้ถูกต้องตามกฎหมายเป็นการกระทำด้วยความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะหลอกลวงและที่ทำให้เกิดความเสียหายหรือการบาดเจ็บ มีสี่ความต้องการขั้นพื้นฐานสำหรับการจำแนกพฤติกรรมเป็นหลอกลวงคือ: "ครั้งแรกเป็นตัวแทนเท็จจะทำโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ทั้งรู้ว่ามันเป็นเท็จหรือรู้เท่าทันไม่รู้ความจริงของ ... ประการที่สองความตั้งใจ misrepresenter ก็คือว่าจะอีก พึ่งพาการแสดงเท็จ. สามผู้รับของข้อมูลที่ไม่ได้ตระหนักถึงการหลอกลวงโดยเจตนา. ประการที่สี่ผู้รับข้อมูลที่เป็นธรรมในการพึ่งพิงหรือคาดหวังว่าความจริงจากสื่อสาร. การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นทางการเงินทางร่างกายหรือจิตใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การฉ้อโกงตามกฎหมายกำหนด ซึ่งแสดงความมุ่งมั่นมีเจตนาที่จะหลอกลวงและทำให้เกิดอันตรายหรือบาดเจ็บได้ มีสี่ขั้นพื้นฐานสำหรับการจำแนกพฤติกรรมที่หลอกลวง " ก่อนการแสดงเท็จถูกสร้างโดยฝ่ายหนึ่ง คนที่รู้ว่ามันเป็นเท็จหรือเจตนาละเลยความจริงของมัน . . . . . . . ประการที่สอง เจตนาของ misrepresenter นั่นอีก จะอาศัยการเท็จประการที่สาม ผู้รับข้อมูลตระหนักถึงการหลอกลวงโดยเจตนา ประการที่สี่ ผู้รับข้อมูลจะอาศัยหรือไม่ ต้องพิสูจน์ความจริงจากสายตา . ทำให้เกิดการบาดเจ็บทางร่างกายหรือจิตใจ อาจเป็นเงิน