สงครามเมืองทรอย และกลยุทธ์ม้าไม้บันลือโลก

สงครามเมืองทรอย และกลยุทธ์ม้าไม้บัน

สงครามเมืองทรอย และกลยุทธ์ม้าไม้บันลือโลก "


สงครามเมืองทรอยเป็นเรื่องที่ถูกบันทึกเอาไว้ในมหากาพย์เรื่อง “อีเลียด” (Iliad) ของมหากวีนาม “โฮเมอร์” (ซึ่งเขาเป็นผู้ประพันธ์มหากาพย์อีกเรื่องคือโอดิสซีย์ (Odyssey) สำหรับคุณผู้อ่านที่สงสัยว่า ม้าไม้ยักษ์แห่งทรอยนั้นมีจริงหรือไม่ เรื่องนี้ก็ยังไม่สามารถตอบฟันธงลงไปได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าไม่มีหลักฐานใดที่สามารถชี้ชัดได้

แต่ถ้าจะถามว่าเมืองทรอยนั้นมีจริงหรือเปล่า ตอบได้ชัดเลยว่ามีอยู่จริง เพราะว่ามีการขุดค้นพบซากเมืองที่เชื่อกันว่าจะเป็นเมืองทรอย บริเวณที่ชื่อ ฮิซาร์ลิก ในเมืองคานัคเกล ทางตะวันตกของประเทศตุรกี ซึ่งมีอายุอยู่ในช่วง 1,250 ปีก่อนคริสตกาล โดยเราสามารถเห็นซากกำแพงและหอคอยของเมืองทรอยได้ และปัจจุบันก็มีการสร้างม้าไม้จำลองขนาดยักษ์ขึ้นบริเวณซากเมืองทรอยอีกด้วย



ตำนานแห่งเมืองทรอย อันที่จริง ไม่ใช่จินตนิยาย

แต่ที่จริงแล้ว ตามประวัติการตั้งถิ่นฐานของชาวกรีกนั้น ชาวกรีกเผ่าแรก ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองไมซีนี่ คาบสมุทรกรีซ เมื่อประมาณ 1,500 ปี ก่อนคริสตกาล ต่อมาได้ขยายอำนาจข้ามทะเลไปยังฝั่งเอเชียไมเนอร์หรือ ดินแดนอะนาโตเลีย ซึ่งมีเมืองทรอยเป็นหน้าด่านสำคัญ เมื่อเกิดความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ จึงเกิดการสู้รบที่ยืดเยื้อหลายปี แต่ไม่ใช่เพราะชิงสาวงามเฮเลน ดังที่ปรากฏในมหากาพย์อีเลียดของโฮเมอร์

จากการสู้รบในครั้งนั้น ชาวกรีกเผ่า อาเคียนจำนวนหนึ่ง ที่ถูกส่งมาทำสงครามกับเมืองทรอย จึงได้ปักหลักตั้งถิ่นฐานอยู่ใน ดินแดนอะนาโตเลียเสียเลย และก็มีชาวกรีกเผ่าอื่นๆ ตามมาทีหลังอีก เช่น เผ่าอีโอเลียน, ไอโอ-เนียน และคอเรียน เป็นต้น

ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยว่า ปัจจุบัน ทำไมหนุ่มๆ สาวๆ ชาวตุรกีส่วนใหญ่ จึงทั้งหล่อและสวยกัน ทั้งนี้ก็เพราะมีเชื้อสาย “เทพบุตรกรีก” ปนอยู่ด้วยนั่นเอง..

เมืองทรอยจึงมีอยู่จริง บนฝั่งทะเลใกล้ ๆ ปากช่องแคบดาร์ดะเนลส์ ที่แยกยุโรปกับเอเชียออกจากกัน เช่นเดียวกับช่องแคบบอสฟอรัสทางเหนือของทะเลมาร์มาร่า ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่นักโบราณคดีได้ขุดค้นพบ ให้ซากปรักหักพังทั้งหลาย ปรากฏต่อสายตาของคนรุ่นหลัง


แผนที่ จากกรีซไปก็เดินเรือไกลเหมือนกัน เป็นการใหญ่มากที่จะต้องยกเรือหลายพันลำ ข้ามไปฝั่งทวีปเอเชีย

กลับมาเรื่องของสงครามกันบ้าง ใครจะเชื่อว่าจุดเริ่มต้นแห่งสงครามที่ยิ่งใหญ่นี้เกิดขึ้นเพราะแอปเปิลเพียงผลเดียว โดยจุดเริ่มต้นของสงครามนั้นเริ่มขึ้นเมื่อ เพเลอุส (กษัตริย์แห่งเมอมิดอนส์) และ เธติส (เทพีแห่งทะเล) ได้จัดงานอภิเษกสมรสขึ้น แต่ทั้งคู่กลับไม่ได้เชิญ อีริส (เทพีแห่งความขัดแย้ง) พระธิดาของเทพสูงสุด ซุส มาร่วมงานด้วย เพราะทั้งคู่เกรงว่านางจะทำให้งานมงคลนี้ต้องวุ่นวายได้ กระนั้น เมื่อข่าวนี้รู้ไปถึงหูของ เทพีอีริส เธอจึงรีบไปร่วมงานของทั้งคู่ทันทีด้วยความอาฆาตแค้น

เมื่อไปถึงงาน เทพีอีริสจึงเริ่มแผนสร้างความแตกแยกขึ้น ด้วยการโยนแอปเปิลทองคำลงบนโต๊ะ พร้อมกับกล่าวว่า ลูกแอปเปิลทองคำนี้จะเป็นของผู้ที่งดงามที่สุดเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ เทพีเฮรา(มเหสีของเทพซุส) เอเธนา(เทพีแห่งปัญญา) และอโฟรไดต์ (เทพีแห่งความรัก) ซึ่งต่างคิดว่าตัวเองเป็นผู้ที่เลอโฉมที่สุดจึงแย่งกันเป็นเจ้าของแอปเปิลทองคำลูกนั้น พร้อมกับให้เทพซุสมาเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งเทพซุสรู้ดีว่าการตัดสินของเขานั้นอาจจะสร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเองได้ จึงโยนไปให้ เจ้าชายปารีส แห่งเมืองทรอย เป็นผู้ตัดสินแทน

เมื่อรู้ว่าเจ้าชายปารีสจะทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสิน เทพีเฮราจึงไปติดสินบนด้วยการสัญญาว่า จะช่วยให้เจ้าชายปารีสมีชัยเหนือกรีก ส่วนเทพีอาเธนาได้ไปสัญญาว่าจะช่วยให้เจ้าชายปารีสครอบครองแผ่นดินทั่วทั้งเอเชียและยุโรป ขณะที่เทพีอโฟรไดต์สัญญาว่าจะมอบหญิงผู้เลอโฉมที่สุดในแผ่นดินให้


หลังจากได้ฟังข้อเสนอของทั้งสามแล้ว เจ้าชายปารีสเลือกที่จะตัดสินให้เทพีอโฟรไดต์เป็นผู้ที่งดงามที่สุด ต่อมาอโฟรไดต์ก็ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ ด้วยการพาเจ้าชายปารีสไปพบหญิงผู้งดงามที่สุดซึ่งก็คือ เฮเลน ผู้เป็นธิดาแห่งเทพซุส ปัญหาก็คือ เฮเลนไม่ใช่คนตัวเปล่าเล่าเปลือย แต่นางเป็นถึงมเหสีของ เมเนลอส เจ้าเมืองสปาร์ตา

เมื่อไปถึงสปาร์ตา กษัตริย์เมเนลอสต้อนรับเจ้าชายปารีสเป็นอย่างดี แต่ในระหว่างที่เมเนลอสต้องออกจากเมืองเพื่อไปเยี่ยมกษัตริย์นอสซอส เจ้าชายปารีสจึงลงมือลักพาตัวเฮเลนกลับไปยังเมืองทรอย ก่อนจะจัดพิธีอภิเษกขึ้นในภายหลัง ครั้นเมื่อกลับมาและพบว่า พระมเหสีอันเป็นที่รักถูกลักพาตัวไป กษัตริย์เมเนลอสจึงได้รวบรวมสมัครพรรคพวกทั้งหลาย ร่วมกันส่งกองทัพไปยังเมืองทรอยเพื่อล้างแค้น

กองทัพอันยิ่งใหญ่ของกรีกที่มีเรือกว่า 1,000 ลำนี้ต้องใช้เวลานานกว่าที่จะไปถึงเมืองทรอยเนื่องจากไม่มีผู้ใดรู้ถึงที่ตั้งอันแน่ชัดของเมืองทรอย อย่างไรก็ตาม สงครามระหว่างกรีกและทรอยนั้นต้องใช้เวลาสู้รบกันยาวนานกว่า 10 ปีด้วยกัน เนื่องจากเมืองทรอยนั้นมีกำแพงเมืองที่แข็งแกร่งยากที่ผู้ใดจะทำลายได้ ด้วยเหตุนี้ ในช่วง 9 ปีแรกของสงครามกองทัพกรีกจึงต้องไปโจมตีทำลายเมืองบริวารทั้งหลายของทรอยให้สิ้น เนื่องจากเมืองเหล่านี้คอยส่งอาหารและอาวุธต่างๆให้กับทรอย

แม้จะทำลายเมืองบริวารจนหมดสิ้นแล้วก็ตาม กองทัพกรีกก็ยังไม่สามารถบุกเข้าไปในเมืองทรอยได้ จนทำให้เหล่านักรบกรีกเริ่มถอดใจ แต่ในยามที่สำคัญเช่นนี้ โอดิสซุสแม่ทัพผู้ปราดเปรื่องของกรีกก็คิดอุบายหนึ่งขึ้นมาได้ ซึ่งเขาสั่งให้สร้างม้าไม้ขนาดมโหฬารขึ้นมา และทำให้ด้านในของม้าไม้นี้กลวงเพื่อที่จะได้นำทหารของกรีกเข้าไปหลบอยู่ด้านใน

เมื่อการสร้างม้าไม้เสร็จสิ้นแล้ว โอดิสซุสและกษัตริย์เมเนลอสพร้อมทหารแห่งกรีกจึงเข้าไปหลบซ่อนอยู่ภายในม้าไม้ที่สร้างขึ้น ก่อนจะสั่งให้เผาค่ายทิ้ง และให้ทหารแสร้งทำเป็นยกกองทัพเรือกลับไป แถมยังทิ้งทหารชื่อ ซินอน เอาไว้ที่เมืองทรอย เพื่อหลอกล่อให้ชาวทรอยหลงเชื่อ

เมื่อชาวทรอยเห็นกองทัพกรีกถอนทัพไปจนหมดสิ้นแล้ว จึงพากันออกมาดูไม้ยักษ์ที่ตั้งตระหง่าน โดยซินอนได้หลอกชาวทรอยว่า เขานั้นถูกกองทัพกรีกทิ้งเอาไว้ให้หลงทางอยู่เพียงคนเดียว ส่วนม้าไม้นี้เป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะ และเป็นการขอบคุณเทพีอาเธนาที่คอยช่วยเหลือ ซึ่งม้าไม้ตัวนี้จะนำพาโชคลาภให้กับเมือง
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
สงครามเมืองทรอยและกลยุทธ์ม้าไม้บันลือโลก"ของมหากวีนามสงครามเมืองทรอยเป็นเรื่องที่ถูกบันทึกเอาไว้ในมหากาพย์เรื่อง "อีเลียด" (อีเลียด) "โฮเมอร์" (ซึ่งเขาเป็นผู้ประพันธ์มหากาพย์อีกเรื่องคือโอดิสซีย์ (โคลง) สำหรับคุณผู้อ่านที่สงสัยว่าม้าไม้ยักษ์แห่งทรอยนั้นมีจริงหรือไม่เรื่องนี้ก็ยังไม่สามารถตอบฟันธงลงไปได้ 100 เปอร์เซ็นต์เพราะว่าไม่มีหลักฐานใดที่สามารถชี้ชัดได้แต่ถ้าจะถามว่าเมืองทรอยนั้นมีจริงหรือเปล่าตอบได้ชัดเลยว่ามีอยู่จริงเพราะว่ามีการขุดค้นพบซากเมืองที่เชื่อกันว่าจะเป็นเมืองทรอยบริเวณที่ชื่อฮิซาร์ลิกในเมืองคานัคเกลทางตะวันตกของประเทศตุรกีซึ่งมีอายุอยู่ในช่วง 1250 ปีก่อนคริสตกาลโดยเราสามารถเห็นซากกำแพงและหอคอยของเมืองทรอยได้และปัจจุบันก็มีการสร้างม้าไม้จำลองขนาดยักษ์ขึ้นบริเวณซากเมืองทรอยอีกด้วยตำนานแห่งเมืองทรอยอันที่จริงไม่ใช่จินตนิยาย แต่ที่จริงแล้วตามประวัติการตั้งถิ่นฐานของชาวกรีกนั้นชาวกรีกเผ่าแรกได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองไมซีนี่คาบสมุทรกรีซเมื่อประมาณ 1500 ปีก่อนคริสตกาลต่อมาได้ขยายอำนาจข้ามทะเลไปยังฝั่งเอเชียไมเนอร์หรือดินแดนอะนาโตเลียซึ่งมีเมืองทรอยเป็นหน้าด่านสำคัญเมื่อเกิดความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์จึงเกิดการสู้รบที่ยืดเยื้อหลายปีแต่ไม่ใช่เพราะชิงสาวงามเฮเลนดังที่ปรากฏในมหากาพย์อีเลียดของโฮเมอร์จากการสู้รบในครั้งนั้นชาวกรีกเผ่าอาเคียนจำนวนหนึ่งที่ถูกส่งมาทำสงครามกับเมืองทรอยจึงได้ปักหลักตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนอะนาโตเลียเสียเลยและก็มีชาวกรีกเผ่าอื่น ๆ ตามมาทีหลังอีกเช่นเผ่าอีโอเลียน เป็นต้นและคอเรียนไอโอเนียนดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยว่าปัจจุบันทำไมหนุ่ม ๆ สาว ๆ ชาวตุรกีส่วนใหญ่จึงทั้งหล่อและสวยกันทั้งนี้ก็เพราะมีเชื้อสาย "เทพบุตรกรีก" ปนอยู่ด้วยนั่นเอง...เมืองทรอยจึงมีอยู่จริงบนฝั่งทะเลใกล้ๆ ปากช่องแคบดาร์ดะเนลส์ที่แยกยุโรปกับเอเชียออกจากกันเช่นเดียวกับช่องแคบบอสฟอรัสทางเหนือของทะเลมาร์มาร่าซึ่งเป็นเมืองโบราณที่นักโบราณคดีได้ขุดค้นพบให้ซากปรักหักพังทั้งหลายปรากฏต่อสายตาของคนรุ่นหลังแผนที่จากกรีซไปก็เดินเรือไกลเหมือนกันเป็นการใหญ่มากที่จะต้องยกเรือหลายพันลำข้ามไปฝั่งทวีปเอเชียกลับมาเรื่องของสงครามกันบ้างใครจะเชื่อว่าจุดเริ่มต้นแห่งสงครามที่ยิ่งใหญ่นี้เกิดขึ้นเพราะแอปเปิลเพียงผลเดียวโดยจุดเริ่มต้นของสงครามนั้นเริ่มขึ้นเมื่อเพเลอุส (กษัตริย์แห่งเมอมิดอนส์) และเธติส (เทพีแห่งทะเล) ได้จัดงานอภิเษกสมรสขึ้นแต่ทั้งคู่กลับไม่ได้เชิญอีริส (เทพีแห่งความขัดแย้ง) พระธิดาของเทพสูงสุดซุสมาร่วมงานด้วยเพราะทั้งคู่เกรงว่านางจะทำให้งานมงคลนี้ต้องวุ่นวายได้กระนั้นเมื่อข่าวนี้รู้ไปถึงหูของเทพีอีริสเธอจึงรีบไปร่วมงานของทั้งคู่ทันทีด้วยความอาฆาตแค้นเมื่อไปถึงงานเทพีอีริสจึงเริ่มแผนสร้างความแตกแยกขึ้นด้วยการโยนแอปเปิลทองคำลงบนโต๊ะพร้อมกับกล่าวว่าลูกแอปเปิลทองคำนี้จะเป็นของผู้ที่งดงามที่สุดเท่านั้นด้วยเหตุนี้เทพีเฮรา(มเหสีของเทพซุส)เอเธนา(เทพีแห่งปัญญา)และอโฟรไดต์ (เทพีแห่งความรัก) ซึ่งต่างคิดว่าตัวเองเป็นผู้ที่เลอโฉมที่สุดจึงแย่งกันเป็นเจ้าของแอปเปิลทองคำลูกนั้นพร้อมกับให้เทพซุสมาเป็นผู้ตัดสินซึ่งเทพซุสรู้ดีว่าการตัดสินของเขานั้นอาจจะสร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเองได้จึงโยนไปให้เจ้าชายปารีสแห่งเมืองทรอยเป็นผู้ตัดสินแทนเมื่อรู้ว่าเจ้าชายปารีสจะทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินเทพีเฮราจึงไปติดสินบนด้วยการสัญญาว่าจะช่วยให้เจ้าชายปารีสมีชัยเหนือกรีกส่วนเทพีอาเธนาได้ไปสัญญาว่าจะช่วยให้เจ้าชายปารีสครอบครองแผ่นดินทั่วทั้งเอเชียและยุโรปขณะที่เทพีอโฟรไดต์สัญญาว่าจะมอบหญิงผู้เลอโฉมที่สุดในแผ่นดินให้หลังจากได้ฟังข้อเสนอของทั้งสามแล้วเจ้าชายปารีสเลือกที่จะตัดสินให้เทพีอโฟรไดต์เป็นผู้ที่งดงามที่สุดต่อมาอโฟรไดต์ก็ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ด้วยการพาเจ้าชายปารีสไปพบหญิงผู้งดงามที่สุดซึ่งก็คือเฮเลนผู้เป็นธิดาแห่งเทพซุสปัญหาก็คือเฮเลนไม่ใช่คนตัวเปล่าเล่าเปลือยแต่นางเป็นถึงมเหสีของเมเนลอสเจ้าเมืองสปาร์ตาเมื่อไปถึงสปาร์ตากษัตริย์เมเนลอสต้อนรับเจ้าชายปารีสเป็นอย่างดีแต่ในระหว่างที่เมเนลอสต้องออกจากเมืองเพื่อไปเยี่ยมกษัตริย์นอสซอสเจ้าชายปารีสจึงลงมือลักพาตัวเฮเลนกลับไปยังเมืองทรอยก่อนจะจัดพิธีอภิเษกขึ้นในภายหลังครั้นเมื่อกลับมาและพบว่าพระมเหสีอันเป็นที่รักถูกลักพาตัวไปกษัตริย์เมเนลอสจึงได้รวบรวมสมัครพรรคพวกทั้งหลายร่วมกันส่งกองทัพไปยังเมืองทรอยเพื่อล้างแค้นกองทัพอันยิ่งใหญ่ของกรีกที่มีเรือกว่า 1000 ลำนี้ต้องใช้เวลานานกว่าที่จะไปถึงเมืองทรอยเนื่องจากไม่มีผู้ใดรู้ถึงที่ตั้งอันแน่ชัดของเมืองทรอยอย่างไรก็ตามสงครามระหว่างกรีกและทรอยนั้นต้องใช้เวลาสู้รบกันยาวนานกว่า 10 ปีด้วยกันเนื่องจากเมืองทรอยนั้นมีกำแพงเมืองที่แข็งแกร่งยากที่ผู้ใดจะทำลายได้ด้วยเหตุนี้ในช่วง 9 ปีแรกของสงครามกองทัพกรีกจึงต้องไปโจมตีทำลายเมืองบริวารทั้งหลายของทรอยให้สิ้นเนื่องจากเมืองเหล่านี้คอยส่งอาหารและอาวุธต่างๆให้กับทรอยแม้จะทำลายเมืองบริวารจนหมดสิ้นแล้วก็ตามกองทัพกรีกก็ยังไม่สามารถบุกเข้าไปในเมืองทรอยได้จนทำให้เหล่านักรบกรีกเริ่มถอดใจแต่ในยามที่สำคัญเช่นนี้โอดิสซุสแม่ทัพผู้ปราดเปรื่องของกรีกก็คิดอุบายหนึ่งขึ้นมาได้ซึ่งเขาสั่งให้สร้างม้าไม้ขนาดมโหฬารขึ้นมาและทำให้ด้านในของม้าไม้นี้กลวงเพื่อที่จะได้นำทหารของกรีกเข้าไปหลบอยู่ด้านในเมื่อการสร้างม้าไม้เสร็จสิ้นแล้วโอดิสซุสและกษัตริย์เมเนลอสพร้อมทหารแห่งกรีกจึงเข้าไปหลบซ่อนอยู่ภายในม้าไม้ที่สร้างขึ้นก่อนจะสั่งให้เผาค่ายทิ้งและให้ทหารแสร้งทำเป็นยกกองทัพเรือกลับไปแถมยังทิ้งทหารชื่อซินอนเอาไว้ที่เมืองทรอยเพื่อหลอกล่อให้ชาวทรอยหลงเชื่อเมื่อชาวทรอยเห็นกองทัพกรีกถอนทัพไปจนหมดสิ้นแล้วจึงพากันออกมาดูไม้ยักษ์ที่ตั้งตระหง่านโดยซินอนได้หลอกชาวทรอยว่าเขานั้นถูกกองทัพกรีกทิ้งเอาไว้ให้หลงทางอยู่เพียงคนเดียวส่วนม้าไม้นี้เป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะและเป็นการขอบคุณเทพีอาเธนาที่คอยช่วยเหลือซึ่งม้าไม้ตัวนี้จะนำพาโชคลาภให้กับเมือง
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
สงครามเมืองทรอย และกลยุทธ์ม้าไม้บันลือโลก "


สงครามเมืองทรอยเป็นเรื่องที่ถูกบันทึกเอาไว้ในมหากาพย์เรื่อง “อีเลียด” (Iliad) ของมหากวีนาม “โฮเมอร์” (ซึ่งเขาเป็นผู้ประพันธ์มหากาพย์อีกเรื่องคือโอดิสซีย์ (Odyssey) สำหรับคุณผู้อ่านที่สงสัยว่า ม้าไม้ยักษ์แห่งทรอยนั้นมีจริงหรือไม่ เรื่องนี้ก็ยังไม่สามารถตอบฟันธงลงไปได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าไม่มีหลักฐานใดที่สามารถชี้ชัดได้

แต่ถ้าจะถามว่าเมืองทรอยนั้นมีจริงหรือเปล่า ตอบได้ชัดเลยว่ามีอยู่จริง เพราะว่ามีการขุดค้นพบซากเมืองที่เชื่อกันว่าจะเป็นเมืองทรอย บริเวณที่ชื่อ ฮิซาร์ลิก ในเมืองคานัคเกล ทางตะวันตกของประเทศตุรกี ซึ่งมีอายุอยู่ในช่วง 1,250 ปีก่อนคริสตกาล โดยเราสามารถเห็นซากกำแพงและหอคอยของเมืองทรอยได้ และปัจจุบันก็มีการสร้างม้าไม้จำลองขนาดยักษ์ขึ้นบริเวณซากเมืองทรอยอีกด้วย



ตำนานแห่งเมืองทรอย อันที่จริง ไม่ใช่จินตนิยาย

แต่ที่จริงแล้ว ตามประวัติการตั้งถิ่นฐานของชาวกรีกนั้น ชาวกรีกเผ่าแรก ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองไมซีนี่ คาบสมุทรกรีซ เมื่อประมาณ 1,500 ปี ก่อนคริสตกาล ต่อมาได้ขยายอำนาจข้ามทะเลไปยังฝั่งเอเชียไมเนอร์หรือ ดินแดนอะนาโตเลีย ซึ่งมีเมืองทรอยเป็นหน้าด่านสำคัญ เมื่อเกิดความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ จึงเกิดการสู้รบที่ยืดเยื้อหลายปี แต่ไม่ใช่เพราะชิงสาวงามเฮเลน ดังที่ปรากฏในมหากาพย์อีเลียดของโฮเมอร์

จากการสู้รบในครั้งนั้น ชาวกรีกเผ่า อาเคียนจำนวนหนึ่ง ที่ถูกส่งมาทำสงครามกับเมืองทรอย จึงได้ปักหลักตั้งถิ่นฐานอยู่ใน ดินแดนอะนาโตเลียเสียเลย และก็มีชาวกรีกเผ่าอื่นๆ ตามมาทีหลังอีก เช่น เผ่าอีโอเลียน, ไอโอ-เนียน และคอเรียน เป็นต้น

ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยว่า ปัจจุบัน ทำไมหนุ่มๆ สาวๆ ชาวตุรกีส่วนใหญ่ จึงทั้งหล่อและสวยกัน ทั้งนี้ก็เพราะมีเชื้อสาย “เทพบุตรกรีก” ปนอยู่ด้วยนั่นเอง..

เมืองทรอยจึงมีอยู่จริง บนฝั่งทะเลใกล้ ๆ ปากช่องแคบดาร์ดะเนลส์ ที่แยกยุโรปกับเอเชียออกจากกัน เช่นเดียวกับช่องแคบบอสฟอรัสทางเหนือของทะเลมาร์มาร่า ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่นักโบราณคดีได้ขุดค้นพบ ให้ซากปรักหักพังทั้งหลาย ปรากฏต่อสายตาของคนรุ่นหลัง


แผนที่ จากกรีซไปก็เดินเรือไกลเหมือนกัน เป็นการใหญ่มากที่จะต้องยกเรือหลายพันลำ ข้ามไปฝั่งทวีปเอเชีย

กลับมาเรื่องของสงครามกันบ้าง ใครจะเชื่อว่าจุดเริ่มต้นแห่งสงครามที่ยิ่งใหญ่นี้เกิดขึ้นเพราะแอปเปิลเพียงผลเดียว โดยจุดเริ่มต้นของสงครามนั้นเริ่มขึ้นเมื่อ เพเลอุส (กษัตริย์แห่งเมอมิดอนส์) และ เธติส (เทพีแห่งทะเล) ได้จัดงานอภิเษกสมรสขึ้น แต่ทั้งคู่กลับไม่ได้เชิญ อีริส (เทพีแห่งความขัดแย้ง) พระธิดาของเทพสูงสุด ซุส มาร่วมงานด้วย เพราะทั้งคู่เกรงว่านางจะทำให้งานมงคลนี้ต้องวุ่นวายได้ กระนั้น เมื่อข่าวนี้รู้ไปถึงหูของ เทพีอีริส เธอจึงรีบไปร่วมงานของทั้งคู่ทันทีด้วยความอาฆาตแค้น

เมื่อไปถึงงาน เทพีอีริสจึงเริ่มแผนสร้างความแตกแยกขึ้น ด้วยการโยนแอปเปิลทองคำลงบนโต๊ะ พร้อมกับกล่าวว่า ลูกแอปเปิลทองคำนี้จะเป็นของผู้ที่งดงามที่สุดเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ เทพีเฮรา(มเหสีของเทพซุส) เอเธนา(เทพีแห่งปัญญา) และอโฟรไดต์ (เทพีแห่งความรัก) ซึ่งต่างคิดว่าตัวเองเป็นผู้ที่เลอโฉมที่สุดจึงแย่งกันเป็นเจ้าของแอปเปิลทองคำลูกนั้น พร้อมกับให้เทพซุสมาเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งเทพซุสรู้ดีว่าการตัดสินของเขานั้นอาจจะสร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเองได้ จึงโยนไปให้ เจ้าชายปารีส แห่งเมืองทรอย เป็นผู้ตัดสินแทน

เมื่อรู้ว่าเจ้าชายปารีสจะทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสิน เทพีเฮราจึงไปติดสินบนด้วยการสัญญาว่า จะช่วยให้เจ้าชายปารีสมีชัยเหนือกรีก ส่วนเทพีอาเธนาได้ไปสัญญาว่าจะช่วยให้เจ้าชายปารีสครอบครองแผ่นดินทั่วทั้งเอเชียและยุโรป ขณะที่เทพีอโฟรไดต์สัญญาว่าจะมอบหญิงผู้เลอโฉมที่สุดในแผ่นดินให้


หลังจากได้ฟังข้อเสนอของทั้งสามแล้ว เจ้าชายปารีสเลือกที่จะตัดสินให้เทพีอโฟรไดต์เป็นผู้ที่งดงามที่สุด ต่อมาอโฟรไดต์ก็ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ ด้วยการพาเจ้าชายปารีสไปพบหญิงผู้งดงามที่สุดซึ่งก็คือ เฮเลน ผู้เป็นธิดาแห่งเทพซุส ปัญหาก็คือ เฮเลนไม่ใช่คนตัวเปล่าเล่าเปลือย แต่นางเป็นถึงมเหสีของ เมเนลอส เจ้าเมืองสปาร์ตา

เมื่อไปถึงสปาร์ตา กษัตริย์เมเนลอสต้อนรับเจ้าชายปารีสเป็นอย่างดี แต่ในระหว่างที่เมเนลอสต้องออกจากเมืองเพื่อไปเยี่ยมกษัตริย์นอสซอส เจ้าชายปารีสจึงลงมือลักพาตัวเฮเลนกลับไปยังเมืองทรอย ก่อนจะจัดพิธีอภิเษกขึ้นในภายหลัง ครั้นเมื่อกลับมาและพบว่า พระมเหสีอันเป็นที่รักถูกลักพาตัวไป กษัตริย์เมเนลอสจึงได้รวบรวมสมัครพรรคพวกทั้งหลาย ร่วมกันส่งกองทัพไปยังเมืองทรอยเพื่อล้างแค้น

กองทัพอันยิ่งใหญ่ของกรีกที่มีเรือกว่า 1,000 ลำนี้ต้องใช้เวลานานกว่าที่จะไปถึงเมืองทรอยเนื่องจากไม่มีผู้ใดรู้ถึงที่ตั้งอันแน่ชัดของเมืองทรอย อย่างไรก็ตาม สงครามระหว่างกรีกและทรอยนั้นต้องใช้เวลาสู้รบกันยาวนานกว่า 10 ปีด้วยกัน เนื่องจากเมืองทรอยนั้นมีกำแพงเมืองที่แข็งแกร่งยากที่ผู้ใดจะทำลายได้ ด้วยเหตุนี้ ในช่วง 9 ปีแรกของสงครามกองทัพกรีกจึงต้องไปโจมตีทำลายเมืองบริวารทั้งหลายของทรอยให้สิ้น เนื่องจากเมืองเหล่านี้คอยส่งอาหารและอาวุธต่างๆให้กับทรอย

แม้จะทำลายเมืองบริวารจนหมดสิ้นแล้วก็ตาม กองทัพกรีกก็ยังไม่สามารถบุกเข้าไปในเมืองทรอยได้ จนทำให้เหล่านักรบกรีกเริ่มถอดใจ แต่ในยามที่สำคัญเช่นนี้ โอดิสซุสแม่ทัพผู้ปราดเปรื่องของกรีกก็คิดอุบายหนึ่งขึ้นมาได้ ซึ่งเขาสั่งให้สร้างม้าไม้ขนาดมโหฬารขึ้นมา และทำให้ด้านในของม้าไม้นี้กลวงเพื่อที่จะได้นำทหารของกรีกเข้าไปหลบอยู่ด้านใน

เมื่อการสร้างม้าไม้เสร็จสิ้นแล้ว โอดิสซุสและกษัตริย์เมเนลอสพร้อมทหารแห่งกรีกจึงเข้าไปหลบซ่อนอยู่ภายในม้าไม้ที่สร้างขึ้น ก่อนจะสั่งให้เผาค่ายทิ้ง และให้ทหารแสร้งทำเป็นยกกองทัพเรือกลับไป แถมยังทิ้งทหารชื่อ ซินอน เอาไว้ที่เมืองทรอย เพื่อหลอกล่อให้ชาวทรอยหลงเชื่อ

เมื่อชาวทรอยเห็นกองทัพกรีกถอนทัพไปจนหมดสิ้นแล้ว จึงพากันออกมาดูไม้ยักษ์ที่ตั้งตระหง่าน โดยซินอนได้หลอกชาวทรอยว่า เขานั้นถูกกองทัพกรีกทิ้งเอาไว้ให้หลงทางอยู่เพียงคนเดียว ส่วนม้าไม้นี้เป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะ และเป็นการขอบคุณเทพีอาเธนาที่คอยช่วยเหลือ ซึ่งม้าไม้ตัวนี้จะนำพาโชคลาภให้กับเมือง
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
สงครามเมืองทรอยและกลยุทธ์ม้าไม้บันลือโลก

"สงครามเมืองทรอยเป็นเรื่องที่ถูกบันทึกเอาไว้ในมหากาพย์เรื่อง " อีเลียด " ( นกเงือก ) ของมหากวีนาม " โฮเมอร์ " ( ซึ่งเขาเป็นผู้ประพันธ์มหากาพย์อีกเรื่องคือโอดิสซีย์ ( Odyssey ) สำหรับคุณผู้อ่านที่สงสัยว่าเรื่องนี้ก็ยังไม่สามารถตอบฟันธงลงไปได้ 100 เปอร์เซ็นต์เพราะว่าไม่มีหลักฐานใดที่สามารถชี้ชัดได้

แต่ถ้าจะถามว่าเมืองทรอยนั้นมีจริงหรือเปล่าตอบได้ชัดเลยว่ามีอยู่จริงเพราะว่ามีการขุดค้นพบซากเมืองที่เชื่อกันว่าจะเป็นเมืองทรอยบริเวณที่ชื่อฮิซาร์ลิกในเมืองคานัคเกลทางตะวันตกของประเทศตุรกี1250 ปีก่อนคริสตกาลโดยเราสามารถเห็นซากกำแพงและหอคอยของเมืองทรอยได้และปัจจุบันก็มีการสร้างม้าไม้จำลองขนาดยักษ์ขึ้นบริเวณซากเมืองทรอยอีกด้วย





ตำนานแห่งเมืองทรอยอันที่จริงไม่ใช่จินตนิยายแต่ที่จริงแล้วตามประวัติการตั้งถิ่นฐานของชาวกรีกนั้นชาวกรีกเผ่าแรกได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองไมซีนี่คาบสมุทรกรีซเมื่อประมาณ 1500 . ก่อนคริสตกาลต่อมาได้ขยายอำนาจข้ามทะเลไปยังฝั่งเอเชียไมเนอร์หรือดินแดนอะนาโตเลียซึ่งมีเมืองทรอยเป็นหน้าด่านสำคัญเมื่อเกิดความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์จึงเกิดการสู้รบที่ยืดเยื้อหลายปี
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: