Bananas are a staple starch for man

Bananas are a staple starch for many tropical populations. Depending upon cultivar and ripeness, the flesh can vary in taste from starchy to sweet, and texture from firm to mushy. Both the skin and inner part can be eaten raw or cooked. The banana's flavor is due, amongst other chemicals, to isoamyl acetate which is one of the main constituents of banana oil.[citation needed]During the ripening process, bananas produce the gas ethylene, which acts as a plant hormone and indirectly affects the flavor. Among other things, ethylene stimulates the formation of amylase, an enzyme that breaks down starch into sugar, influencing the taste of bananas. The greener, less ripe bananas contain higher levels of starch and, consequently, have a "starchier" taste. On the other hand, yellow bananas taste sweeter due to higher sugar concentrations. Furthermore, ethylene signals the production of pectinase, an enzyme which breaks down the pectin between the cells of the banana, causing the banana to soften as it ripens.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กล้วยมีแป้งเป็นหลักสำหรับประชากรในเขตร้อน เนื้อขึ้น cultivar และ ripeness สามารถเปลี่ยนรสชาติจากฟูมจะหวาน และเนื้อจากบริษัทเพื่อ mushy ผิวหนังและส่วนภายในสามารถรับประทานดิบ หรือสุก รสชาติของกล้วยจะครบ หมู่เคมีภัณฑ์อื่น ๆ isoamyl acetate ซึ่งเป็นหนึ่งใน constituents หลักน้ำมันกล้วย[ต้องการอ้างอิง]ระหว่าง ripening กล้วยผลิตก๊าซเอทิลีน ซึ่งทำหน้าที่เป็นฮอร์โมนพืช และส่งผลต่อรสชาติทางอ้อม ต่าง ๆ เอทิลีนช่วยกระตุ้นการก่อตัวของ amylase เอนไซม์ที่แบ่งแป้งเป็นน้ำตาล มีอิทธิพลต่อรสชาติของกล้วย กล้วยสุกน้อย ไส้ประกอบด้วยระดับสูงของแป้ง แล้ว ดังนั้น ได้ลิ้มรส "starchier" ในทางกลับกัน สีเหลืองรสกล้วยสุดยอดเนื่องจากความเข้มข้นของน้ำตาลสูง นอกจากนี้ เอทิลีนสัญญาณ pectinase การผลิตเอนไซม์ซึ่งแบ่งเพกทินระหว่างเซลล์ของกล้วย กล้วยให้นุ่มเหมือนที่ทำให้เกิด ripens

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กล้วยเป็นอาหารหลักไหมแป้งไหมมากไหม ร้อนไหมกร ขึ้นอยู่กับพันธุ์ และ ความสุก เนื้อจะแตกต่างกันในรสชาติหวานจากแป้ง และเนื้อจากบริษัทนะ ทั้งผิวและส่วนภายใน สามารถรับประทานดิบหรือสุก รสชาติของกล้วย เนื่องจาก หมู่เคมีอื่น ๆ ,   ในปริมาณอะซิเตท ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของน้ำมันกล้วยรึเปล่า .[ อ้างอิงที่จำเป็น ] ในระหว่างกระบวนการผลิตไหมสุกกล้วยไหมก๊าซเอทิลีน ซึ่งทำหน้าที่เป็น  ฮอร์โมนพืชและทางอ้อมมีผลต่อรสชาติ ในสิ่งอื่น ๆ , เอทิลีนกระตุ้นการก่อตัวของเอนไซม์อะไมเลสไหม มีอะไรไหมที่หยุดพักลงในแป้งให้เป็นน้ำตาล มีผลต่อรสชาติของกล้วย ไส้กล้วยสุกน้อยมีระดับที่สูงขึ้นของแป้ง และ จากนั้น มี " รสนิยม starchier "บนมืออื่น ๆ , กล้วยสีเหลือง รสหวานจากน้ำตาลความเข้มข้นสูง . นอกจากนี้เอทิลีนสัญญาณการผลิตเอนไซม์เพคติเนสเหรอ มีเอนไซม์ซึ่งแบ่งลงรึเปล่าเพคตินรึเปล่าระหว่างเซลล์ของกล้วย ทำให้กล้วยนิ่มเป็นมัน ripens .