Disasters have never stopped. In pa

Disasters have never stopped. In particular, natural
disasters, such as earthquakes, floods, landslides,
and extreme weather conditions, continue to cause
death in many parts of the world. According to
the Centre for Research on the Epidemiology of
Disasters (CRED), a total of 385 natural disasters
resulted in approximately 300,000 deaths worldwide
and caused more than US$ 120 billion of
economic damages in 2010 alone.1
In 2011, this wave did not change. Largescale
earthquakes have hit Japan, Turkey and
Peru.The largest one with the magnitude 9.0 took
place in northeastern Japan on 11 March, and
caused a tsunami and nuclear power plant disaster.
Reportedly, it killed approximately 16,000
people and 4,000 are still missing as of 26 October
2011. Although it took place in northeastern
Japan, it has had significant economic and psychological
impact on the whole of Japan and
71,358 evacuees are still spread across all 47 prefectures.
2 Moreover, it was responsible for major
supply chain interruptions around the world
in the early weeks following the disaster. This
massive disaster has influenced other countries,
in particular in their decisions whether to keep
existing or build new nuclear power plants. In
other words, its influence has gone beyond Japan’s
national borders.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไม่เคยได้หยุดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธรรมชาติภัยพิบัติ แผ่นดินไหว น้ำท่วม แผ่นดิน ถล่มและทำให้เกิดสภาพอากาศมากตายในหลายส่วนของโลก ตามที่ศูนย์วิจัยระบาดวิทยาของภัย (ข้อมูลประจำตัว), จำนวน 385 ภัยพิบัติส่งผลให้ทั่วโลกเสียชีวิตประมาณ 300000และสาเหตุอื่น ๆ อีกมากกว่า 120 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ของความเสียหายทางเศรษฐกิจใน 2010 alone.1ใน 2011 คลื่นนี้ไม่เปลี่ยนแปลง Largescaleเกิดแผ่นดินไหวได้ตีญี่ปุ่น ตุรกี และPeru.The หนึ่งที่ใหญ่ที่สุด มีขนาด 9.0 เอาทำในญี่ปุ่นอีสานบน 11 มีนาคม และเกิดสึนามิและภัยพิบัติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์รายงาน มันฆ่าประมาณ 16000คนและ 4000 ถูกวันที่ 26 ตุลาคม2011. แม้ว่าจะเกิดขึ้นในตะวันออกเฉียงเหนือญี่ปุ่น มันมีสำคัญทางเศรษฐกิจ และจิตใจผลกระทบทั้งหมดของญี่ปุ่น และอพยพ 71,358 จะยังคงแพร่กระจายไปทั่วจังหวัดทั้งหมด 472 Moreover มันเป็นความรับผิดชอบในวิชาใส่ขัดจังหวะโซ่ทั่วโลกในสัปดาห์แรกหลังเกิดเหตุ นี้ภัยพิบัติขนาดใหญ่ได้มีอิทธิพลต่อประเทศอื่น ๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตัดสินใจว่าจะให้หรือไม่ที่มีอยู่หรือสร้างใหม่นิวเคลียร์โรงไฟฟ้า ในคำอื่น ๆ แล้วอิทธิพลของมันเกินของญี่ปุ่นเขตแดนแห่งชาติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภัยพิบัติไม่เคยหยุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งธรรมชาติ
ภัยพิบัติเช่นแผ่นดินไหวน้ำท่วมแผ่นดินถล่ม
และสภาพอากาศที่รุนแรงยังคงที่จะทำให้เกิด
การเสียชีวิตในหลายส่วนของโลก ตามที่
ศูนย์เพื่อการวิจัยระบาดวิทยาของ
ภัยพิบัติ (CRED) ประมาณ 385 ภัยธรรมชาติ
ส่งผลให้เสียชีวิตประมาณ 300,000 คนทั่วโลก
และก่อให้เกิดมากกว่า US $ 120 พันล้าน
ความเสียหายทางเศรษฐกิจในปี 2010 alone.1
ในปี 2011 คลื่นนี้ไม่ได้ เปลี่ยนแปลง largescale
แผ่นดินไหวได้ตีญี่ปุ่น, ตุรกีและ
Peru.The ที่ใหญ่ที่สุดหนึ่งที่มีขนาด 9.0 เอา
สถานที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคมและ
ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิและภัยพิบัติที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์.
ข่าวมันฆ่าตายประมาณ 16,000
คนและ 4,000 ยังคงหายไปเป็นของ วันที่ 26 ตุลาคม
2011 แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ของญี่ปุ่นก็มีทางเศรษฐกิจและทางจิตวิทยาที่สำคัญ
ส่งผลกระทบต่อทั้งของญี่ปุ่นและ
71,358 ผู้อพยพยังคงแผ่กระจายไปทั่วทั้งหมด 47 จังหวัด.
2 นอกจากนี้ยังเป็นความรับผิดชอบที่สำคัญ
การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
ในสัปดาห์แรก ต่อไปนี้การเกิดภัยพิบัติ นี้
ภัยพิบัติขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อประเทศอื่น ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตัดสินใจของพวกเขาว่าจะเก็บ
ที่มีอยู่หรือสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหม่ ใน
คำอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลต่อการที่ได้ไปกว่าของญี่ปุ่น
พรมแดนของประเทศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภัยพิบัติที่ไม่เคยหยุด โดยเฉพาะภัยธรรมชาติ
เช่นแผ่นดินไหว น้ำท่วม ดินถล่ม และสภาพอากาศที่รุนแรง

ต่อไป เพราะความตายในหลายส่วนของโลก ตาม
ศูนย์วิจัยระบาดวิทยา
ภัยพิบัติ ( CRED ) รวม 385 ภัยธรรมชาติ
( ประมาณ 300000 การเสียชีวิตทั่วโลก
และทำให้มากกว่า $ 120 พันล้าน
ความเสียหายทางเศรษฐกิจใน 2010 คนเดียว 1
ใน 2011 , คลื่นนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แผ่นดินไหวได้มากกว่า

peru.the ตีญี่ปุ่น ตุรกี และหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดมีขนาด 9.0 เอา
สถานที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม และ
เกิดสึนามิและภัยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
รายงานว่ามันฆ่าประมาณ 16 , 000 คน และยังสูญหาย 4

เมื่อ 26 ตุลาคม 2011แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ญี่ปุ่น มันมีผลกระทบทางเศรษฐกิจและทางจิตวิทยา
) ทั้งของญี่ปุ่นและ
71358 ผู้อพยพที่ยังคงแผ่กระจายไปทั่วทั้ง 47 จังหวัด
2 ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลัก

ห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงักทั่วโลกในสัปดาห์แรก หลังภัยพิบัติ ภัยพิบัติครั้งใหญ่นี้

ที่มีต่อประเทศอื่น ๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตัดสินใจว่าจะให้
ที่มีอยู่หรือสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหม่ ในคำอื่น ๆ
, อิทธิพลของมันได้หายไปเกินกว่าพรมแดนแห่งชาติ
ญี่ปุ่น