In the United States, nearly 30% of

In the United States, nearly 30% of the 40 million older people who live in the community live alone. About half of the oldest old (people who are 85 years or older) who live in the community live alone. About four fifths of older people living alone are women. Men are more likely to die before their wives, and widowed or divorced men are more likely to remarry than are widowed or divorced women.

Living alone can present many challenges:

People who live alone are more likely to be poor, and poverty is increasingly more likely the longer they live alone.

Many older people who live alone say they feel lonely and isolated.

Because eating is a social activity for most people, some older people who live alone do not prepare full, balanced meals. Thus, undernutrition becomes a concern.

Among people with health problems or difficulty seeing or hearing, it is all too easy for new or worsening symptoms of disease to go unnoticed.

Many older people who live alone have problems following directions for prescribed treatments.

Despite these challenges and problems, most older people who live alone express a keen desire to maintain their independence. Many fear being overly dependent on others and wish to continue to live alone despite the challenges they face. Engaging in regular physical and mental activities and staying connected with others help older people who are living alone maintain their independence.

People returning home from a hospital stay, particularly after surgery, may benefit from having a discussion with a social worker or health care practitioner about any extra services that will be needed. Such services, which may include home health aides or visiting nurses, can help ensure that people resume living independently.

Staying Connected

Studies have shown that older people who lack social interaction tend to have more health problems then those who are not socially isolated. Older people who live alone may need to make an effort to avoid social isolation.

Many older people find that volunteering is a good way to use skills and life experiences to contribute to society. Hundreds of organizations in the United States welcome the skills of older adults. An example is Senior Corps, a program of the Corporation for National and Community Service. Senior Corps programs include the Foster Grandparent Program, the Senior Companion Program, and RSVP (see Senior Corpssee ).

Some older people also find taking classes a good way to keep their minds active and to connect with others in their communities. Many communities, school districts, and colleges offer continuing education classes for all people and even some designed with older adults in mind.

Hobbies and social groups may also help older people maintain social connections and physical fitness. Some older people rediscover a hobby that was put aside when free time was more occupied with work and family concerns. Other people may want to explore new interests.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในสหรัฐอเมริกา เกือบ 30% ของคนสูงอายุ 40 ล้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนอาศัยอยู่คนเดียว ประมาณครึ่งหนึ่งของอายุเก่าแก่ที่สุด (ผู้ 85 ปี หรือมากกว่า) ที่อาศัยอยู่ในชุมชนอยู่ตามลำพัง ประมาณ 4 fifths ของคนสูงอายุที่อยู่คนเดียวเป็นผู้หญิง ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะตายก่อนภรรยาของพวกเขา และบรรทัด หรือหย่าผู้ชายมีแนวโน้มที่จะ remarry กว่าจะ widowed หรือหญิงที่หย่าแล้วอยู่คนเดียวสามารถนำเสนอความท้าทายมาก:คนที่อยู่คนเดียวมักจะไม่ดี และความยากจนยิ่งขึ้นอีกต่อไปพวกเขาอยู่ตามลำพังรุ่นเก่าหลายคนที่อาศัยอยู่คนเดียวว่า พวกเขารู้สึกโดดเดี่ยว และแยกเนื่องจากรับประทานอาหารเป็นกิจกรรมทางสังคมสำหรับคนส่วนใหญ่ บางคนเก่าที่อยู่คนเดียวไม่เตรียมอาหารทั้งหมด สมดุล ดังนั้น undernutrition กลายเป็น ความกังวลระหว่างคนที่มีปัญหาสุขภาพ หรือปัญหาเห็น หรือได้ยิน ได้ใหม่ หรือกำเริบอาการของโรคไปส่งทั้งหมดง่ายเกินไปรุ่นเก่าหลายคนที่อาศัยอยู่คนเดียวมีปัญหาตามคำแนะนำสำหรับการรักษาที่กำหนดแม้ มีความท้าทายและปัญหาเหล่านี้ คนสูงอายุส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่คนเดียวแสดงความต้องการความกระตือรือร้นเพื่อรักษาเอกราชของตน หลายคนกลัวจะมากเกินไปขึ้นอยู่กับผู้อื่น และต้องการอยู่คนเดียวแม้ มีความท้าทายพวกเขาเผชิญกับ ในกิจกรรมทางกายภาพ และจิตใจปกติ และพักการเชื่อมต่อกับผู้อื่นช่วยเหลือคนสูงอายุที่อยู่คนเดียวรักษาเอกราชของพวกเขาคนที่กลับจากโรงพยาบาลพัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการผ่าตัด อาจได้รับประโยชน์จากการมีการสนทนากับผู้ประกอบการสังคมหรือสุขภาพเกี่ยวกับบริการเพิ่มเติมใด ๆ ที่จำเป็น บริการดังกล่าว ซึ่งอาจรวมถึงช่วยบ้านสุขภาพหรือเยี่ยมชมพยาบาล สามารถช่วยให้มั่นใจว่า คนดำเนินชีวิตอย่างเป็นอิสระเชื่อมต่ออยู่การศึกษาได้แสดงว่า คนสูงอายุที่ขาดสังคมมักจะ มีปัญหาสุขภาพมากขึ้นแล้วคนไม่แยกสังคม คนสูงอายุที่อยู่คนเดียวอาจจำเป็นต้องพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการแยกทางสังคมรุ่นเก่าหลายคนพบว่า อาสาสมัครเป็นวิธีดีในการใช้ทักษะ และประสบการณ์ชีวิตเพื่อนำไปสู่สังคม ขององค์กรในสหรัฐอเมริกาต้อนรับทักษะของผู้ใหญ่รุ่นเก่า ตัวอย่างคือ อาวุโส Corps โปรแกรมของบริษัทแห่งชาติและบริการชุมชน โยธินอาวุโสโปรแกรมรวมโปรแกรมฟอสเตอร์ปู่ย่าตายาย โปรแกรมสหายอาวุโส และดังกล่าว (ดูอาวุโส Corpssee)บางคนเก่ายังค้นหาการเรียนดี เพื่อให้คนที่ใช้งานอยู่ และเชื่อมต่อกับผู้อื่นในชุมชนของตน ชุมชนหลายแห่ง โรงเรียนอำเภอ และวิทยาลัยมีชั้นเรียนการศึกษาต่อเนื่องสำหรับทุกคนและแม้บางด้วยผู้ใหญ่เก่าในใจงานอดิเรกและกลุ่มสังคมอาจยังช่วยรักษาเชื่อมต่อสังคมและกายคนสูงอายุ บางคนเก่าเหน็ดงานอดิเรกที่ถูกวางเฉยเมื่อเวลาว่างถูกครอบครอง ด้วยงานและความกังวลของครอบครัวมากขึ้น คนอื่น ๆ อาจต้องการสำรวจสถานที่ใหม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในสหรัฐอเมริกาเกือบ 30% ของ 40 ล้านคนที่มีอายุมากกว่าที่อาศัยอยู่ในชุมชนอยู่คนเดียว ประมาณครึ่งหนึ่งของที่เก่าแก่ที่สุดเก่า (คนที่ 85 ปีหรือมากกว่า) ที่อาศัยอยู่ในชุมชนอยู่คนเดียว เกี่ยวกับ 4/5 ของผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวเป็นผู้หญิง ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะตายก่อนที่ภรรยาของเขาและม่ายหย่าร้างหรือผู้ชายมีแนวโน้มที่จะแต่งงานใหม่กว่าจะเป็นม่ายหย่าร้างหรือผู้หญิง. ที่อาศัยอยู่คนเดียวที่สามารถนำเสนอความท้าทายหลายคนที่อยู่คนเดียวมีแนวโน้มที่จะมีความยากจนและความยากจนมากขึ้นมากขึ้น น่าจะเป็นอีกต่อไปพวกเขาอาศัยอยู่คนเดียว. หลายคนผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวกล่าวว่าพวกเขารู้สึกเหงาและโดดเดี่ยว. เพราะการรับประทานอาหารเป็นกิจกรรมทางสังคมสำหรับคนส่วนใหญ่บางคนสูงอายุที่อยู่คนเดียวไม่ได้เตรียมความพร้อมเต็มรูปแบบอาหารที่สมดุล ดังนั้น undernutrition กลายเป็นความกังวล. ในบรรดาผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือปัญหามองเห็นหรือได้ยินก็คือทั้งหมดที่ง่ายเกินไปสำหรับใหม่หรือเลวลงอาการของโรคที่จะไปไม่มีใครสังเกตเห็น. หลายคนผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวมีปัญหาตามทิศทางที่กำหนดไว้สำหรับการรักษา. แม้จะมีเหล่านี้ ความท้าทายและปัญหาที่คนส่วนใหญ่มีอายุมากกว่าผู้ที่อยู่คนเดียวแสดงความปรารถนาที่กระตือรือร้นที่จะรักษาความเป็นอิสระของพวกเขา หลายคนกลัวมากเกินไปเป็นขึ้นอยู่กับคนอื่น ๆ และต้องการที่จะยังคงอยู่คนเดียวแม้จะมีความท้าทายที่พวกเขาเผชิญ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางร่างกายและจิตใจปกติและเชื่อมต่ออยู่กับคนอื่น ๆ ช่วยให้ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียวรักษาความเป็นอิสระของพวกเขา. คนที่กลับมาจากพักในโรงพยาบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการผ่าตัดอาจได้รับประโยชน์จากการมีการสนทนากับนักสังคมสงเคราะห์หรือผู้ประกอบการเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ บริการพิเศษใด ๆ ที่จะต้อง บริการดังกล่าวซึ่งอาจรวมถึงผู้ช่วยด้านสุขภาพบ้านหรือเยี่ยมชมพยาบาลสามารถช่วยให้แน่ใจว่าคนที่อาศัยอยู่อย่างอิสระดำเนินการต่อ. เชื่อมต่อตลอดการศึกษาพบว่าผู้สูงอายุที่ขาดการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพมากขึ้นแล้วผู้ที่ไม่ได้แยกตัวออกสังคม ผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวอาจจะต้องทำให้ความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการแยกทางสังคม. ผู้สูงอายุหลายคนพบว่าอาสาสมัครเป็นวิธีที่ดีที่จะใช้ทักษะและประสบการณ์ชีวิตที่จะนำไปสู่สังคม หลายร้อยองค์กรในสหรัฐอเมริกายินดีต้อนรับทักษะของผู้สูงอายุ ตัวอย่างคืออาวุโสคณะซึ่งเป็นโปรแกรมของ บริษัท สำหรับบริการประชาชนและชุมชน โปรแกรมทหารอาวุโสรวมถึงฟอสเตอร์ปู่ย่าตายายโครงการโครงการสหายอาวุโสและ RSVP (ดูอาวุโส Corpssee). บางคนที่มีอายุมากกว่านอกจากนี้ยังพบว่าการเรียนเป็นวิธีที่ดีที่จะทำให้จิตใจของพวกเขาที่ใช้งานและการเชื่อมต่อกับคนอื่น ๆ ในชุมชนของพวกเขา หลายชุมชนโรงเรียนและวิทยาลัยมีอย่างต่อเนื่องในการเรียนการศึกษาสำหรับทุกคนและแม้กระทั่งบางการออกแบบที่มีผู้สูงอายุที่อยู่ในใจ. งานอดิเรกและกลุ่มทางสังคมนอกจากนี้ยังอาจช่วยให้ผู้สูงอายุรักษาความสัมพันธ์ทางสังคมและการออกกำลังกายทางกายภาพ บางคนที่มีอายุมากกว่าค้นพบงานอดิเรกที่ถูกวางทิ้งไว้เมื่อเวลาว่างถูกครอบครองมากขึ้นกับการทำงานและความกังวลของครอบครัว คนอื่น ๆ อาจต้องการที่จะสำรวจความสนใจใหม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในสหรัฐอเมริกา เกือบ 30 % ของ 40 ล้านคนผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในชุมชนที่อาศัยอยู่คนเดียว ประมาณครึ่งหนึ่งของเก่า ( ผู้ที่เป็น 85 ปีหรือมากกว่า ) ที่อาศัยอยู่ในชุมชนที่อาศัยอยู่คนเดียว ประมาณสี่ห้าของผู้สูงอายุอยู่คนเดียวเป็นผู้หญิง ผู้ชายมีโอกาสตายก่อนเมีย และเป็นหม้าย หรือหย่าร้าง ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะแต่งงานใหม่มากกว่าผู้หญิงเป็นหม้าย หรือหย่าร้าง

อยู่คนเดียวสามารถนำเสนอความท้าทายมากมาย :

คนที่อยู่คนเดียวจะยากจนและยากจนมากขึ้นมากขึ้น ยิ่งเธออยู่คนเดียว

มากมายแก่คนที่อยู่คนเดียวว่าพวกเขารู้สึกโดดเดี่ยว

เพราะกินเป็นกิจกรรมสังคมเพื่อคนส่วนใหญ่ มีคนแก่ ใครอยู่คนเดียวไม่เตรียมพร้อมเต็มที่ อาหารที่สมดุล ดังนั้นจึงพบเป็นกังวล

ในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือปัญหาเห็นหรือได้ยิน มันก็ง่ายสำหรับใหม่หรือเลวลงอาการของโรคไปสังเกต

รุ่นเก่ามาก คนที่ชอบอยู่คนเดียว มีปัญหาตามทิศทางต่างๆ

แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้และปัญหา ส่วนใหญ่ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียวแสดงความปรารถนากระตือรือร้นที่จะรักษาความเป็นอิสระ ของพวกเขาหลายคนกลัวจนเกินเหตุพึ่งพาผู้อื่น และต้องการมีชีวิตต่อไปคนเดียว แม้จะมีความท้าทายที่พวกเขาเผชิญอยู่ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางกาย และจิตปกติและเชื่อมต่ออยู่กับคนอื่น ๆช่วยให้ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียว รักษาเอกราชของพวกเขา .

คนกลับบ้านจากโรงพยาบาลอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการผ่าตัดอาจได้รับประโยชน์จากการมีการสนทนากับแพทย์ นักสังคมสงเคราะห์ หรือการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับการบริการพิเศษใด ๆที่จะต้องใช้ บริการดังกล่าว ซึ่งอาจรวมถึงสุขภาพผู้ช่วยพยาบาล หรือ เยี่ยมชม สามารถช่วยให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตอย่างอิสระ .



เชื่อมต่ออยู่มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้สูงอายุที่ขาดการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพมากกว่าผู้ที่ไม่ได้เป็นคนสันโดษ ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียว อาจจะต้องทำให้ความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการแยกทางสังคม .

หลายผู้สูงอายุพบว่า อาสาสมัครเป็นวิธีที่ดีที่จะใช้ทักษะและประสบการณ์ชีวิตไปสู่สังคมหลายองค์กรในสหรัฐอเมริกายินดีต้อนรับทักษะของผู้ใหญ่รุ่นเก่า ตัวอย่างคือ ทหารอาวุโส , โปรแกรมของ บริษัท เพื่อชาติและบริการชุมชน โปรแกรมอาสาสมัครอาวุโสรวมโปรแกรมปู่ย่าตายาย ฟอสเตอร์ , โปรแกรมสหายอาวุโสและ RSVP ( ดู corpssee

รุ่นพี่ )บางคนเก่ายังหาเรียนเป็นวิธีดีเพื่อให้จิตใจของพวกเขาที่ใช้งาน และเชื่อมต่อกับผู้อื่นในชุมชนของตน หลายชุมชน โรงเรียน และวิทยาลัยเสนอชั้นเรียนการศึกษาอย่างต่อเนื่องสำหรับทุกคนและแม้กระทั่งบางออกแบบกับผู้สูงอายุในใจ

งานอดิเรกและกลุ่มทางสังคมยังอาจช่วยรักษาความสัมพันธ์ทางสังคมของผู้สูงอายุและสมรรถภาพทางกาย .คนรุ่นเก่าบางค้นพบงานอดิเรกที่วางเฉย เมื่อว่างก็ไม่ว่างด้วยเรื่องงานและครอบครัว คนอื่น ๆอาจต้องการที่จะสำรวจความสนใจใหม่