Scurvy is a disease caused by a die

Scurvy is a disease caused by a diet that lacks vitamin C (ascorbic acid).

Patients develop anemia, debility, exhaustion, edema (swelling) in some parts of the body, and sometimes ulceration of the gums and loss of teeth.

The name scurvy comes from the Latin scorbutus. We have known about the disease in humans since ancient Greek and Egyptian times.

Scurvy commonly is associated with sailors in the 16th to 18th centuries who navigated long voyages without enough vitamin C and frequently perished from the condition. Modern cases of scurvy are extremely rare.

Humans cannot synthesize vitamin C, which is necessary for the production of collagen and iron absorption. We have to obtain it from external sources, i.e. from fruits and vegetables, or some foods which are fortified with vitamin C in order to prevent the vitamin C deficiency known as scurvy.

Vitamin C deficiency is especially dangerous for the fetus (developing baby in the womb). Researchers from the University of Copenhagen reported in the journal PLOS ONE that pregnant women with a vitamin C deficiency can have babies whose brain did not develop properly.

What causes scurvy?
The primary cause of scurvy is insufficient intake of vitamin C (ascorbic acid). This may be due to ignorance, famine, anorexia, restrictive diets (due to allergies, food fads, etc.), or difficulty orally ingesting foods. Historically, scurvy was the result of long sea voyages where sailors did not bring along enough foods with vitamin C.

Who gets scurvy?
Though scurvy is a very rare disease, it still occurs in some patients - usually elderly people, alcoholics, or those that live on a diet devoid of fresh fruits and vegetables. Similarly, infants or children who are on special or poor diets for any number of economic or social reasons may be prone to scurvy.

Symptoms of scurvy
Scurvy symptoms may begin with appetite loss, poor weight gain, diarrhea, rapid breathing, fever, irritability, tenderness and discomfort in legs, swelling over long bones, bleeding (hemorrhaging), and feelings of paralysis.

As the disease progresses, a scurvy victim may present bleeding of the gums, loosened teeth, petechial hemorrhage of the skin and mucous membranes (a tiny pinpoint red mark), bleeding in the eye, proptopsis of the eyeball (protruding eye), constochondral beading (beading of the cartilage between joints), hyperkeratosis (a skin disorder), corkscrew hair, and sicca syndrome (an automimmune disease affecting connective tissue).

Infants with scurvy will become apprehensive, anxious, and progressively irritable. They often will assume the frog leg posture for comfort when struck with pseudoparalysis. It is common for infants with scurvy to present subperiosteal hemorrhage, a specific bleeding that occurs at the lower ends of the long bones.

Diagnosis of scurvy
Physicians initially will conduct a physical exam, looking for symptoms described above. Actual vitamin C levels can be obtained by using laboratory tests that analyze serum ascorbic acid levels (or white blood cell ascorbic acid concentration). Sometimes, radiological procedures are ordered for diagnostic purposes and to see what damage scurvy has already done.

Treatments for scurvy
Scurvy is treated by providing the patient with vitamin C, administered either orally or via injection. Orange juice usually functions as an effective dietary remedy, but specific vitamin supplements are also known to be effective.

How can scurvy be prevented?
Scurvy can be prevented by consuming enough vitamin C, either in the diet or as a supplement. Foods that contain vitamin C include:

Oranges, lemons, kiwis and strawberries
Oranges, lemons, kiwi fruit and strawberries are all excellent natural sources of vitamin C.
Oranges
Lemons
Blackcurrants
Guava
Kiwifruit
Papaya
Tomatoes
Strawberries
Carrots
Bell peppers
Broccoli
Potatoes
Cabbage
Spinach
Paprika
Liver
Oysters.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลักปิดลักเปิดเป็นโรคที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่ขาดวิตามินซี (กรดแอสคอร์บิค)ผู้ป่วยพัฒนาโรคโลหิตจาง debility อ่อนเพลีย บวม (บวม) ในบางส่วนของร่างกาย และบางครั้งอาจเปื่อยของเหงือกและการสูญเสียฟันลักปิดลักเปิดชื่อมาจาก scorbutus ติ เราได้รู้เกี่ยวกับโรคในมนุษย์ตั้งแต่สมัยกรีกและอียิปต์โบราณลักปิดลักเปิดมักจะเกี่ยวข้องกับเรือในศตวรรษ 16 ถึง 18 ที่นำทางเดินทางยาวนาน โดยไม่มีวิตามินซีเพียงพอ และมักเสียชีวิตจากสภาพ กรณีลักปิดลักเปิดที่ทันสมัยมีน้อยมากมนุษย์ไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซี ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตของคอลลาเจนและเหล็ก เราต้องขอข้อมูล จากแหล่งภายนอก เช่นผลไม้ และผัก หรืออาหารบางอย่างซึ่งมีรูปวิตามินซีเพื่อป้องกันการขาดวิตามินที่เรียกว่าลักปิดลักเปิดการขาดวิตามินซีเป็นอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับทารกในครรภ์ (พัฒนาทารกในครรภ์) นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนรายงานในสมุด PLOS หนึ่งที่หญิงตั้งครรภ์กับการขาดวิตามินซีได้ทารกที่มีสมองไม่ได้พัฒนาอย่างลักปิดลักเปิดทำบ้างสาเหตุหลักของลักปิดลักเปิดมีปริมาณไม่เพียงพอของวิตามินซี (กรดแอสคอร์บิค) นี้อาจเป็น เพราะความไม่รู้ อดอยาก อาการ อาหารจำกัด (เนื่องจากภูมิแพ้ สมัยนิยมอาหาร ฯลฯ), หรือความยากลำบากในการรับประทานบริโภคอาหาร อดีต ลักปิดลักเปิดคือ ผลลัพธ์จากการเดินทางทะเลยาวที่เรือไม่ได้นำทางอาหารมีวิตามินซีเพียงพอใครลักปิดลักเปิดลักปิดลักเปิดเป็น โรคหายากมาก มันยังคงเกิดในบางผู้ป่วย - ผู้สูงอายุมักจะ alcoholics หรือผู้ที่อาศัยอยู่ในอาหารที่ไร้ผักและผลไม้สด ในทำนองเดียวกัน เด็กที่อยู่ในอาหารไม่ดี หรือพิเศษสำหรับจำนวนเหตุผลทางเศรษฐกิจ หรือสังคมใดๆ อาจเสี่ยงที่จะลักปิดลักเปิดอาการลักปิดลักเปิดอาการลักปิดลักเปิดอาจเริ่มต้น ด้วยการสูญเสียความกระหาย ดี น้ำหนัก ท้องเสีย หายใจเร็ว ไข้ ความหงุดหงิด ความอ่อนโยน และสบายขา บวมกว่ายาวกระดูก เลือด (hemorrhaging), และความรู้สึกของอัมพาตเป็นยะโรค เหยื่อลักปิดลักเปิดอาจมีเลือดออกของเหงือก ฟันหลวม petechial การตกเลือดผิวหนังและเยื่อเมือก (เล็กกรอบสีแดงเครื่อง), เลือดออกตา proptopsis ของลูกตา (ตาที่ยื่นออกมา), beading constochondral (กระดูกอ่อนระหว่างข้อต่อลูกปัด), hyperkeratosis (โรคผิวหนัง), ผมเกลียว และ sicca โรค (เป็นโรค automimmune ที่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน) กับลักปิดลักเปิดจะกลายเป็นความวิตก กังวล และแปรปรวนเรื่อย ๆ พวกเขามักจะคิดท่าขากบสบายเมื่อตี ด้วย pseudoparalysis เป็นเรื่องปกติสำหรับทารกด้วยลักปิดลักเปิดการตกเลือด subperiosteal มีเลือดเฉพาะที่เกิดขึ้นที่ปลายล่างของกระดูกยาววินิจฉัยโรคลักปิดลักเปิดแพทย์เริ่มแรกจะทำการสอบทางกายภาพ ค้นหาอาการที่อธิบายไว้ข้างต้น จริงวิตามินซีสามารถได้รับ โดยใช้ห้องปฏิบัติการทดสอบการวิเคราะห์กรดแอสคอร์บิคระดับ (หรือเม็ดเลือดขาวความเข้มข้นของกรดแอสคอร์บิค) บาง สั่งขั้นตอนเกี่ยวกับรังสีเพื่อการวินิจฉัย และเพื่อดูความเสียหายอะไร ลักปิดลักเปิดได้แล้วทำรักษาลักปิดลักเปิดลักปิดลักเปิดเป็นรักษา โดยการให้ผู้ป่วยมีวิตามินซี ยารับประทาน หรือฉีดผ่านทาง น้ำส้มมักจะทำเป็นยาเป็นอาหารที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นที่รู้จักเฉพาะวิตามินมีประสิทธิภาพสามารถป้องกันลักปิดลักเปิดอย่างไรลักปิดลักเปิดสามารถป้องกันได้ โดยใช้เพียงพอสำหรับวิตามินซี อาหาร หรือ เป็นอาหารเสริม อาหารที่ประกอบด้วยวิตามินซีได้แก่:ส้ม มะนาว กีวี และสตรอเบอร์รี่ส้ม มะนาว กีวี และสตรอเบอร์รี่มียอดแหล่งธรรมชาติของวิตามินซีส้มมะนาวรูปภาพฝรั่งผลไม้กีวีมะละกอมะเขือเทศสตรอเบอร์รี่แครอทพริกบรอกโคลีมันฝรั่งกะหล่ำปลีผักโขมพริกขี้หนูตับหอยนางรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เลือดออกตามไรฟันเป็นโรคที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่ขาดวิตามิน C (วิตามินซี). ผู้ป่วยพัฒนาโรคโลหิตจางอ่อนเพลียอ่อนเพลียบวม (บวม) ในบางส่วนของร่างกายและบางครั้งแผลของเหงือกและการสูญเสียฟัน. ชื่อเลือดออกตามไรฟัน มาจากภาษาละติน scorbutus เราได้รู้จักกันเกี่ยวกับโรคในมนุษย์มาตั้งแต่สมัยกรีกและอียิปต์โบราณ. เลวโดยทั่วไปมีความเกี่ยวข้องกับชาวเรือในวันที่ 16 ถึงศตวรรษที่ 18 ที่สำรวจการเดินทางนานโดยไม่เพียงพอวิตามินซีและเสียชีวิตบ่อยครั้งจากสภาพ กรณีที่ทันสมัยของเลือดออกตามไรฟันที่หายากมาก. มนุษย์ไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตคอลลาเจนและการดูดซึมธาตุเหล็ก เราจะต้องได้รับจากแหล่งภายนอกเช่นจากผักและผลไม้หรืออาหารบางอย่างที่จะเสริมด้วยวิตามินซีเพื่อป้องกันการขาดวิตามินซีที่รู้จักกันเป็นเลือดออกตามไรฟัน. ขาดวิตามินซีเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่งสำหรับทารกในครรภ์ (การพัฒนาลูกน้อยใน ครรภ์). นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนรายงานในวารสาร PLoS ONE ว่าหญิงตั้งครรภ์ที่มีการขาดวิตามินซีสามารถมีเด็กทารกที่มีสมองไม่ได้พัฒนาอย่างถูกต้อง. อะไรทำให้เลือดออกตามไรฟัน? สาเหตุหลักของการเลือดออกตามไรฟันเป็นปริมาณไม่เพียงพอของวิตามิน C (วิตามินซี) นี้อาจจะเป็นเพราะความไม่รู้อดอยากเบื่ออาหารอาหารที่เข้มงวด (เนื่องจากการแพ้, แฟชั่นอาหาร ฯลฯ ) หรือความยากลำบากอาหารรับประทานบริโภค ประวัติศาสตร์เลือดออกตามไรฟันเป็นผลมาจากการเดินทางทะเลยาวที่ลูกเรือไม่ได้นำมาพร้อมอาหารเพียงพอกับวิตามินซีใครได้เลือดออกตามไรฟัน? แม้ว่าเลือดออกตามไรฟันเป็นโรคที่หายากมากก็ยังคงเกิดขึ้นในผู้ป่วยบาง - โดยปกติผู้สูงอายุผู้ติดสุราหรือผู้ที่ อาศัยอยู่ในอาหารที่ไร้ผลไม้และผักสด ในทำนองเดียวกันทารกหรือเด็กที่มีในอาหารพิเศษหรือดีสำหรับจำนวนของเหตุผลทางเศรษฐกิจหรือสังคมใด ๆ อาจจะมีแนวโน้มที่จะเลือดออกตามไรฟัน. อาการเลือดออกตามไรฟันอาการโรคลักปิดลักเปิดอาจเริ่มต้นด้วยการสูญเสียความอยากอาหารเพิ่มน้ำหนักยากจนท้องเสียหายใจอย่างรวดเร็วมีไข้หงุดหงิด ความอ่อนโยนและความรู้สึกไม่สบายในขาบวมกระดูกยาวมีเลือดออก (คั่ง) และความรู้สึกของอัมพาต. ในฐานะที่เป็นโรคดำเนินเหยื่อเลือดออกตามไรฟันอาจมีเลือดออกจากเหงือกหลวมฟันตกเลือด petechial ของผิวหนังและเยื่อเมือก (เล็ก ๆ ระบุเครื่องหมายสีแดง), เลือดออกในตา proptopsis ของลูกตา (ที่ยื่นออกมาตา) ประดับด้วยลูกปัด constochondral (ประดับด้วยลูกปัดของกระดูกอ่อนระหว่างข้อต่อ) hyperkeratosis (โรคผิวหนัง) ผมเกลียวและซินโดรม sicca (โรค automimmune มีผลต่อเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ). เด็กทารกที่มีเลือดออกตามไรฟันจะกลายเป็นความวิตกกังวลและหงุดหงิดมีความก้าวหน้า พวกเขามักจะถือว่าท่ากบขาเพื่อความสะดวกสบายเมื่อหลงกับ pseudoparalysis มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับทารกที่มีเลือดออกตามไรฟันที่จะนำเสนอการตกเลือด subperiosteal, เลือดออกเฉพาะที่เกิดขึ้นที่ปลายล่างของกระดูกยาว. วินิจฉัยโรคเลือดออกตามไรฟันแพทย์จะเริ่มดำเนินการสอบทางกายภาพที่กำลังมองหาอาการอธิบายไว้ข้างต้น ระดับวิตามินซีที่เกิดขึ้นจริงสามารถหาได้โดยใช้ทดสอบในห้องปฏิบัติการที่วิเคราะห์ระดับซีรั่มวิตามินซี (หรือความเข้มข้นของเซลล์เม็ดเลือดวิตามินซีสีขาว) บางครั้งขั้นตอนรังสีมีการสั่งซื้อเพื่อการวินิจฉัยและเพื่อดูว่าเลือดออกตามไรฟันความเสียหายที่ได้ทำมาแล้ว. การรักษาเลือดออกตามไรฟันโรคลักปิดลักเปิดได้รับการรักษาโดยการให้ผู้ป่วยที่มีวิตามิน C, การบริหารงานไม่ว่าด้วยวาจาหรือผ่านการฉีด น้ำส้มมักจะทำหน้าที่เป็นยาที่มีการบริโภคอาหารที่มีประสิทธิภาพ แต่วิตามินอาหารเสริมเฉพาะนอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักกันให้มีประสิทธิภาพ. วิธีสามารถเลือดออกตามไรฟันได้รับการป้องกัน? เลวสามารถป้องกันได้โดยการบริโภควิตามินซีเพียงพอทั้งในอาหารหรือเป็นอาหารเสริม อาหารที่มีวิตามินซี ได้แก่ส้มมะนาว, กีวีและสตรอเบอร์รี่ส้มมะนาวกีวีและสตรอเบอร์รี่ทุกแหล่งน้ำธรรมชาติที่ดีของวิตามินซีส้มมะนาวblackcurrants ฝรั่งกีวีมะละกอมะเขือเทศสตรอเบอร์รี่แครอทพริกบร็อคมันฝรั่งกะหล่ำปลีผักโขมPaprika ตับหอยนางรม