Cheese is exposed to different type

Cheese is exposed to different types of contamination
during manufacture with different kinds of heavy metals such
as cadmium, nickel, lead, copper and mercury [19]. Trace
metals may enter our foods from a number of sources like soil,
chemicals used to agricultural land, water used in food
processing or cooking, equipment, containers and utensils
used for food processing, packaging, storage and cooking [20].
It causes many health problems such as weakness, heart
failure, induced cancer diseases [21] and also affects the
kidney. In case of food safety assessment it should be taken
into account that the heavy metals like Cr, Co, Cu, Fe, Mn and
Zn are essential, which are so called micronutrients

90 different cheese samples from different countries were
collected from Sharkia markets for the analysis of AFM1
(Table 2). The results showed that the small scale samples
had the highest contamination level with aflatoxin M1
recording 56.67% (17 out of 30) with levels ranging from
32.3 to 50.2 ng/kg and all the positive samples had AFM1
levels exceeding Egyptian regulation permissible limit,
while the lowest AFM1 contamination level present in the
imported cheese samples recording 33.33 % with a mean
25.74±1.82 ng/kg.

On the other hand Mohajeri et al. [41] found that AFM1
was detected in 29 (64.4%) white cheese within range:
93.3-309 ng/kg. 9 samples (20%) of white cheese had levels
above the limit According to Iranian national standard limit
for AFM1 in cheese (200 ng/kg).

These significantly variable AFM1 levels may be due to
several influencing factors such as cheese manufacturing
procedures and storage [42], types of cheese, conditions of
cheese ripening [43], analytical methods and finally the
geographical and seasonal effects [10]. In addition, the
storage conditions of products including humidity and
temperature are also important for toxin production. Cheese
is the most potent source of aflatoxin among foods because
of the AFM1 associated with the casein fraction in milk [44].
In addition, studies done on AFM1 concentration changes in
cheese showed no significant change of concentration even
after 3 months of storage [42]. It is important to mention that
the stability of AFM1 during processing and storage makes it
dangerous

The trace metal content of cheese is variable because of
factors such as differences between species, geographical
area, characteristics of the manufacturing procedures and
possible contamination from the equipment during the
process, packaging, and storage. It is necessary to control the
manufacturing process at each step in order to determine the
source and levels of contamination and to ensure the desired
product quality [19]. This could be result of contamination
during the cheese making process. Coni et al. [50] indicated
that the release of heavy metals from the equipment to the
cheese might occur during processing at a relatively high
temperature

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชีจะสัมผัสกับสิ่งปนเปื้อนชนิดต่าง ๆในระหว่างผลิตกับชนิดของโลหะหนักเช่นแคดเมียม นิกเกิล ตะกั่ว ทองแดง และปรอท [19] การสืบค้นกลับโลหะอาจป้อนอาหารจากหลายแหล่งเช่นดินสารเคมีที่ใช้ในการเกษตร น้ำที่ใช้ในอาหารการประมวลผล หรือการทำ อาหาร อุปกรณ์ ภาชนะ และช้อนส้อมใช้สำหรับการแปรรูปอาหาร บรรจุ ภัณฑ์ จัดเก็บ และการทำอาหาร [20]มันทำให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมายเช่นความอ่อนแอ หัวใจความล้มเหลว เกิดโรคมะเร็ง [21] และยัง มีผลต่อการไต ในกรณีที่การประเมินความปลอดภัยของอาหาร นั้นจะต้องดำเนินการเข้าบัญชีที่โลหะหนักเช่น Cu, Fe, Mn, Cr, Co และZn เป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งจะเรียกว่าธาตุอาหารการเก็บตัวอย่างต่าง ๆ ชีส 90 จากประเทศต่าง ๆรวบรวมจากตลาด Sharkia สำหรับการวิเคราะห์ของ AFM1(ตารางที่ 2) ผลพบว่ากลุ่มตัวอย่างขนาดเล็กมีนระหว่างกระบวน M1 ของปนเปื้อนสูงบันทึก 56.67% (17 จาก 30) มีตั้งแต่ระดับ32.3 การ 50.2 กิโลกรัมฉบับและตัวอย่างบวกมี AFM1ระดับเกินวงเงินอนุญาตควบคุมอียิปต์ในขณะที่ระดับต่ำสุด AFM1 ปนเปื้อนอยู่ในตัวตัวอย่างชีนำบันทึก 33.33% มีค่าเฉลี่ย25.74±1.82 ฉบับกิโลกรัมคง Mohajeri et al. [41] พบว่า AFM1พบใน 29 (ประมาณ 64.4 มม.%) ขาวชีช่วง:93.3 ฉบับที่ 309/kg ตัวอย่างที่ 9 (20%) ของชีขาวมีระดับขีดตามขีดจำกัดมาตรฐานชาติอิหร่านสำหรับ AFM1 ในชี (200 ฉบับ/kg)ระดับ AFM1 เหล่านี้ผันแปรอย่างมากอาจจะปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อหลายเช่นการผลิตชีสขั้นตอน และเก็บ [42] ชนิดของชีส เงื่อนไขชี [43] สุก วิธีการวิเคราะห์และการภูมิศาสตร์ และตามฤดูกาลผล [10] นอกจากนี้ การสภาพการจัดเก็บสินค้ารวมทั้งความชื้น และอุณหภูมิมีความสำคัญสำหรับการผลิตสารพิษ ชีสเป็นแหล่งของนระหว่างกระบวนหนึ่งในอาหารที่มีศักยภาพมากที่สุดเนื่องจากของ AFM1 เกี่ยวข้องกับเศษส่วนเคซีนในนม [44]นอกจากนี้ ศึกษาเสร็จสิ้นการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้น AFM1 ในแสดงให้เห็นว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของความเข้มข้นแม้ชีหลังจาก 3 เดือนเก็บข้อมูล [42] จำเป็นต้องพูดถึงความมั่นคงของ AFM1 ในระหว่างเก็บรักษาและทำให้อันตรายติดตามเนื้อหาโลหะของชีเป็นตัวแปรเนื่องจากการปัจจัยต่าง ๆ เช่นความแตกต่างระหว่างพันธุ์ ภูมิศาสตร์พื้นที่ ลักษณะของกระบวนการผลิต และปนเปื้อนได้จากอุปกรณ์ในระหว่างการกระบวนการ บรรจุภัณฑ์ และจัดเก็บ จำเป็นต้องควบคุมการกระบวนการที่แต่ละขั้นตอนการผลิตเพื่อตรวจสอบการแหล่งที่มาและระดับ การปนเปื้อน และ เพื่อให้แน่ใจที่ต้องการคุณภาพสินค้า [19] นี้อาจเป็นผลมาจากการปนเปื้อนระหว่างชีกระบวน ระบุ Coni et al. [50]ที่เปิดตัวของโลหะหนักจากอุปกรณ์เพื่อการชีสอาจเกิดขึ้นระหว่างการประมวลผลที่ค่อนข้างสูงอุณหภูมิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชีสสัมผัสกับความแตกต่างของการปนเปื้อน
ระหว่างการผลิตที่มีความแตกต่างกันของโลหะหนักเช่น
แคดเมียมนิกเกิลตะกั่วทองแดงและปรอท [19] Trace
โลหะอาจใส่อาหารของเราจากหลายแหล่งเช่นดิน
สารเคมีที่ใช้ในการที่ดินเพื่อการเกษตร, น้ำใช้ในอาหาร
การประมวลผลหรือการปรุงอาหารอุปกรณ์ภาชนะและเครื่อง
ใช้สำหรับการแปรรูปอาหาร, บรรจุภัณฑ์, การจัดเก็บและการปรุงอาหาร [20].
มันทำให้เกิดจำนวนมาก ปัญหาสุขภาพเช่นความอ่อนแอของหัวใจ
ล้มเหลวโรคมะเร็งเหนี่ยวนำให้เกิด [21] และยังมีผลต่อ
ไต ในกรณีของการประเมินความปลอดภัยของอาหารก็ควรจะนำ
มาพิจารณาว่าโลหะหนักเช่น Cr, Co, Cu, Fe, Mn และ
สังกะสีมีความจำเป็นซึ่งจะเรียกว่าธาตุอาหาร

90 ตัวอย่างชีสที่แตกต่างจากประเทศที่แตกต่างกัน
ที่เก็บรวบรวมจากตลาด Sharkia สำหรับ วิเคราะห์ AFM1
(ตารางที่ 2) ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก
มีระดับการปนเปื้อนสูงสุดด้วยอะฟลาท็อกซิน M1
บันทึก 56.67% (17 จาก 30) ที่มีระดับตั้งแต่
32.3 ที่จะ 50.2 ng / กก. และทุกตัวอย่างในเชิงบวกมี AFM1
ระดับเกินระเบียบอียิปต์ขีด จำกัด ที่อนุญาต
ในขณะที่ AFM1 ระดับการปนเปื้อนต่ำสุดในปัจจุบัน
ตัวอย่างชีสนำเข้าบันทึก 33.33% โดยมีค่าเฉลี่ย
25.74 ± 1.82 นาโนกรัม / กก.

ในทางตรงกันข้าม Mohajeri et al, [41] พบว่า AFM1
ถูกตรวจพบในวันที่ 29 (64.4%) เนยแข็งสีขาวอยู่ในช่วง:
93.3-309 ng / กก. 9 ตัวอย่าง (20%) ของชีสสีขาวมีระดับ
เหนือขีด จำกัด ตามที่อิหร่านขีด จำกัด มาตรฐานแห่งชาติ
สำหรับ AFM1 ในชีส (200 ng / กก.)

เหล่านี้ระดับ AFM1 ตัวแปรอย่างมีนัยสำคัญอาจจะเป็นเพราะ
ปัจจัยที่มีอิทธิพลหลายอย่างเช่นการผลิตชีส
วิธีการและการจัดเก็บ [42], ประเภทชีสเงื่อนไขของ
สุกชีส [43] วิธีการวิเคราะห์และสุดท้าย
ผลกระทบทางภูมิศาสตร์และตามฤดูกาล [10] นอกจากนี้
สภาพการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์รวมทั้งความชื้นและ
อุณหภูมิยังมีความสำคัญในการผลิตสารพิษ ชีส
เป็นแหล่งที่มีศักยภาพมากที่สุดของอะฟลาท็อกซินในหมู่อาหารเพราะ
ของ AFM1 ที่เกี่ยวข้องกับส่วนเคซีนในนม [44].
นอกจากนี้การศึกษาทำใน AFM1 การเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นใน
ชีสแสดงให้เห็นว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญของความเข้มข้นแม้
หลังจาก 3 เดือนของการจัดเก็บ [42 ] มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะพูดถึงว่า
ความมั่นคงของ AFM1 ระหว่างการประมวลผลและการเก็บรักษาที่ทำให้มัน
อันตราย

เนื้อหาโลหะร่องรอยของชีสเป็นตัวแปรเพราะ
ปัจจัยต่าง ๆ เช่นความแตกต่างระหว่างสายพันธุ์ทางภูมิศาสตร์
พื้นที่ลักษณะของขั้นตอนการผลิตและ
การปนเปื้อนจากอุปกรณ์ในช่วง
ขั้นตอนการบรรจุภัณฑ์และการจัดเก็บ มันเป็นสิ่งจำเป็นในการควบคุม
กระบวนการผลิตในแต่ละขั้นตอนในการสั่งซื้อเพื่อตรวจสอบ
แหล่งที่มาและระดับของการปนเปื้อนและเพื่อให้แน่ใจว่าต้องการ
สินค้าที่มีคุณภาพ [19] ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการปนเปื้อน
ระหว่างชีสขั้นตอนการทำ CONI et al, [50] ชี้ให้เห็น
ว่าการเปิดตัวของโลหะหนักจากอุปกรณ์ในการที่
ชีสอาจเกิดขึ้นระหว่างการประมวลผลที่ค่อนข้างสูง
อุณหภูมิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชีสจะสัมผัสกับประเภทที่แตกต่างกันของการปนเปื้อนในระหว่างการผลิต กับชนิดของโลหะหนัก เช่นเป็นแคดเมียม นิกเกิล ตะกั่ว ทองแดงและปรอท [ 19 ] ติดตามโลหะอาจระบุอาหารของเราจากหลายแหล่ง เช่น ดินสารเคมีที่ใช้ในการเกษตร น้ำที่ใช้ในอาหารการประมวลผลหรือการปรุงอาหาร อุปกรณ์ ภาชนะ และเครื่องใช้ที่ใช้ในการประมวลผลอาหาร การบรรจุ การเก็บและการปรุงประกอบอาหาร [ 20 ]มันทำให้เกิดปัญหาสุขภาพหลายอย่าง เช่น จุดอ่อนของหัวใจความล้มเหลว กระตุ้นมะเร็งโรค [ 21 ] และยังมีผลต่อไต ในกรณีของการประเมินความปลอดภัยของอาหารนั้นควรเข้าไปที่บัญชี โลหะหนัก เช่น โครเมียม โคบอลต์ ทองแดง เหล็ก แมงกานีส และสังกะสีเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งเรียกว่า รูป90 ชีสตัวอย่างจากประเทศที่แตกต่างกันมีแตกต่างกันเก็บมาจากตลาดชาร์เกียสำหรับการวิเคราะห์ afm1( ตารางที่ 2 ) ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างขนาดเล็กมีการปนเปื้อนของอะฟลาท็อกซิน M1 สูงสุดระดับบันทึก 56.67 ร้อยละ 17 จาก 30 ) ที่มีระดับตั้งแต่และ 50.2 นาโนกรัม / กิโลกรัม และทุกตัวอย่างมี afm1 บวกระดับเกินอียิปต์ระเบียบอนุญาตจำกัดในขณะที่ค่าต่ำสุด afm1 ปนเปื้อนในระดับปัจจุบันนำเข้าชีสตัวอย่างบันทึก 33.33% กับหมายถึง± 25.74 1.82 กรัม / กิโลกรัมบนมืออื่น ๆ mohajeri et al . [ 41 ] พบว่า afm1ที่ตรวจพบใน 29 ( 64.4 % ) ชีสสีขาวภายในช่วง :93.3-309 นาโนกรัม / กิโลกรัม 9 ตัวอย่าง ( ร้อยละ 20 ของชีสสีขาวที่มีระดับเหนือ จำกัด ตามมาตรฐานแห่งชาติอิหร่านจำกัดสำหรับ afm1 ในชีส ( 200 กรัม / กก. )ตัวแปรเหล่านี้อย่างมาก afm1 ระดับอาจจะเนื่องจากหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น การผลิตเนยแข็งขั้นตอนและกระเป๋า [ 42 ] , ชนิดของชีส เงื่อนไขชีสสุก [ 43 ] , วิเคราะห์ และสุดท้ายภูมิศาสตร์และฤดูกาลผล [ 10 ] นอกจากนี้สภาพกระเป๋าของผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ความชื้น และอุณหภูมิยังมีความสำคัญสำหรับการผลิตสารพิษ ชีสมันมีพลังมากที่สุดแหล่งที่มาของอะฟลาทอกซินในอาหาร เพราะของ afm1 เคซีนในนมที่เกี่ยวข้องกับเศษส่วน [ 44 ]นอกจากนี้การศึกษาทำใน afm1 ความเข้มข้นในการเปลี่ยนแปลงไม่พบการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญความเข้มข้นของชีสด้วยซ้ำหลังจาก 3 เดือนของกระเป๋า [ 42 ] มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเอ่ยว่าเสถียรภาพของ afm1 ในระหว่างการประมวลผลและจัดเก็บให้มันเป็นอันตรายร่องรอยโลหะเนื้อหาชีสเป็นตัวแปร เพราะปัจจัยทางภูมิศาสตร์ เช่น ความแตกต่างระหว่างสายพันธุ์พื้นที่ , ลักษณะของขั้นตอนการผลิตและการปนเปื้อนจากอุปกรณ์ที่เป็นไปได้ระหว่างกระบวนการผลิต การบรรจุ และการเก็บรักษา มันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อควบคุมกระบวนการผลิตในแต่ละขั้นตอนในการกำหนดแหล่งที่มา และระดับของการปนเปื้อน และเพื่อให้ ต้องการคุณภาพผลิตภัณฑ์ [ 19 ] นี้อาจจะเป็นผลของการปนเปื้อนในระหว่างกระบวนการผลิตเนยแข็ง . กระต่าย et al . [ 50 ] ระบุที่ปล่อยโลหะหนักจากอุปกรณ์ไปยังชีสอาจเกิดขึ้นในระหว่างการประมวลผลที่ค่อนข้างสูงอุณหภูมิ