A hidden gem of a province, Nan was

A hidden gem of a province, Nan was once an independent kingdom and is now a refuge for travelers who wish to explore the natural beauty of northern Thailand and its rich cultural heritage in peace and tranquility.A quiet and tranquil province, Nan is nestled in a verdant valley in northern Thailand along the border with Laos. Because of its relative proximity to Luang Prabang, the historical capital of the Laotian Lan Xang kingdom, the earliest settlers in the area were Lan Xang’s Laotians, ethnic Tai who are distantly related to the Tai people who settled in central Thailand. These early settlers established themselves around present-day Pua district, which is rich in rock salt deposits, about 700 years ago. The earliest Nan rulers allied themselves with neighboring principalities to establish the kingdom of Lan Na. The center of power in Nan eventually moved south to the fertile Nan River basin, where the capital of Nan exists to this day. Nan's history, development, and architecture were greatly influenced by various neighboring kingdoms, in particular Sukhothai, which played important political and religious roles in shaping the development of Nan. Over the centuries however, Nan alternated between being an independent principality under the control of Lan Na, Sukhothai, Burma and Siam in that order. In 1558, the town was conquered and depopulated by the Burmese. By the late 18th century Nan forged an alliance with the new Bangkok centered Rattakosin Kingdom and existed as a semi-autonomous kingdom with a line of monarchs that ruled from 1786 until 1931. Today, Nan is still the home of numerous Thai Lue and other hill tribes who retain many of their fascinating customs and traditions.The rural province of Nan is an attractive region of northern Thailand where there are high populations of hill tribe communities, including Hmong, N'tin, and Khamu.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อัญมณีที่ซ่อนไว้ของจังหวัด น่านเคยเป็นราชอาณาจักรอิสระ และเป็นหลบภัยสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมความงามของธรรมชาติของภาคเหนือและมรดกทางวัฒนธรรมหลากหลายในสงบเงียบ สงบจังหวัด น่านตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาเขียวขจีในภาคเหนือตามแนวเส้นขอบกับประเทศลาว เพราะอยู่ใกล้ญาติหลวง หลวงพระบางอดีตเมืองหลวงของราชอาณาจักรลาวลานซาง ตั้งถิ่นฐานที่เก่าที่สุดในพื้นที่มี Lan ซางลาว ชนเผ่าไทที่ distantly ที่เกี่ยวข้องกับคนไตที่ในภาคกลาง เหล่านี้ตั้งถิ่นฐานช่วงก่อตั้งตัวเองสถานอำเภอปัว ซึ่งจะอุดมไปด้วยเกลือสินเธาว์ฝาก ประมาณ 700 ปีที่ผ่านมา พระน่านสุดพ้องตัวเองกับราชรัฐใกล้เคียงเพื่อสร้างอาณาจักรของ Lan เรี่ยม ศูนย์กลางของอำนาจในน่านในที่สุดย้ายใต้ลุ่มแม่น้ำน่านอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของน่านอยู่นี้ น่านประวัติ พัฒนา และสถาปัตยกรรมได้อย่างมากรับอิทธิพลจากหลายอาณาจักรใกล้เคียง สุโขทัยเฉพาะ การเล่นบทบาททางการเมือง และทางศาสนาที่สำคัญในการกำหนดทิศของน่าน มากกว่าอื่นๆ อย่างไรก็ตาม น่านสลับระหว่างการเป็นรัฐอิสระภายใต้การควบคุมของลานนา สุโขทัย พม่า และสยามในใบสั่งนั้น ใน 1558 เมืองแปลก และ depopulated โดยพม่า โดยปลายพุทธศตวรรษ น่านปลอมพันธมิตรกับใหม่กรุงเทพฯ ศูนย์กลางราชอาณาจักร Rattakosin และเดิมเป็นราชอาณาจักรอิสระกึ่งกับสายของพระมหากษัตริย์ที่ปกครองจาก 1786 จนถึง 1931 วันนี้ น่านเป็นยังบ้านของไทลื้อไทยจำนวนมาก และอื่น ๆ ชาวเขาเผ่าที่ยังคงรักษาหลายความน่าสนใจและประเพณีชนบทของจังหวัดน่านเป็นน่าสนใจภาคเหนือมีประชากรสูงของชุมชนชาวเขา รวมทั้งม้ง N'tin และ Khamu

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อัญมณีที่ซ่อนของจังหวัดน่านครั้งหนึ่งเคยเป็นอาณาจักรอิสระและเป็นที่หลบภัยสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามของภาคเหนือของประเทศไทยและมรดกทางวัฒนธรรมที่อุดมไปด้วยความสงบและ tranquility.A จังหวัดที่เงียบสงบและเงียบสงบน่านตั้งอยู่ใน หุบเขาเขียวขจีในภาคเหนือของประเทศไทยตามแนวชายแดนลาว เพราะอยู่ใกล้ญาติให้หลวงพระบางเป็นเมืองหลวงทางประวัติศาสตร์ของราชอาณาจักรลาวล้านช้างที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่เป็นล้านช้างของลาวชาติพันธุ์ไทที่มีความสัมพันธ์ห่างเหินกับคนไทที่ตั้งถิ่นฐานในภาคกลางของประเทศไทย เหล่านี้ตั้งถิ่นฐานที่ยอมรับกันทั่วในปัจจุบันอำเภอปัวซึ่งอุดมไปด้วยเงินฝากเกลือสินเธาว์ประมาณ 700 ปีที่ผ่านมา ที่เก่าแก่ที่สุดผู้ปกครองน่านมีลักษณะคล้ายกันกับอาณาเขตใกล้เคียงที่จะสร้างอาณาจักรแห่งล้านนา เป็นศูนย์กลางของอำนาจในน่านในที่สุดก็ย้ายลงใต้ไปยังแอ่งน้ำแม่น้ำน่านที่อุดมสมบูรณ์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจังหวัดน่านที่มีอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ น่านประวัติศาสตร์การพัฒนาและสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากสหราชอาณาจักรที่อยู่ใกล้เคียงต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุโขทัยซึ่งเล่นบทบาทสำคัญทางการเมืองและศาสนาในการสร้างการพัฒนาของจังหวัดน่าน ตลอดหลายศตวรรษ แต่น่านสลับไปมาระหว่างการเป็นอาณาเขตที่เป็นอิสระภายใต้การควบคุมของล้านนาสุโขทัย, พม่าและไทยอยู่ในลำดับที่ ใน 1558 เมืองที่ถูกยึดครองและ depopulated โดยพม่า โดยศตวรรษที่ 18 น่านได้สร้างพันธมิตรใหม่กับกรุงเทพฯศูนย์กลาง Rattakosin ราชอาณาจักรและมีอยู่เป็นราชอาณาจักรกึ่งอิสระกับสายของพระมหากษัตริย์ที่ปกครองจาก 1786 จนถึงปี 1931 วันนี้น่านยังคงเป็นบ้านของนานาไทยลื้อและเนินอื่น ๆ ชนเผ่าที่ยังคงมีจำนวนมากของศุลกากรที่น่าสนใจของพวกเขาและในชนบท traditions.The จังหวัดน่านเป็นภูมิภาคท​​ี่น่าสนใจของภาคเหนือของประเทศไทยที่มีประชากรสูงของชุมชนชาวเขาเผ่ารวมทั้งม้ง N'tin และขมุ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของจังหวัดน่าน เคยเป็นอาณาจักรที่เป็นอิสระและเป็นที่หลบภัยสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวชมความงามตามธรรมชาติของภาคเหนือและมรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลายในสันติภาพและความเงียบสงบ จังหวัด เงียบสงบน่านตั้งอยู่ในท่ามกลางหุบเขาในภาคเหนือของประเทศไทยตามแนวชายแดนกับลาว เพราะมีญาติใกล้ชิดกับหลวงพระบางทุนทางประวัติศาสตร์ของลาวอาณาจักรน่านเจ้าอาณาจักร ตั้งถิ่นฐานแรกในพื้นที่ของอาณาจักรน่านเจ้าลาวชาติพันธุ์ไทที่ห่างเหินเกี่ยวข้องกับคนใต้ที่อาศัยอยู่ในภาคกลางของประเทศไทย ผู้ตั้งถิ่นฐานยุคแรกๆ สร้างเองรอบปัจจุบันอำเภอปัว ซึ่งอุดมไปด้วยเกลือเงินฝากประมาณ 700 ปีก่อนโดยผู้ปกครองน่านพันธมิตรตัวเองกับเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างอาณาเขตของอาณาจักรล้านนา ศูนย์กลางของอำนาจในน่านในที่สุดย้ายไปทางใต้ของแม่น้ำน่าน ลุ่มน้ำที่อุดมสมบูรณ์ที่เมืองหลวงของน่าน จนถึงทุกวันนี้ ประวัติศาสตร์การพัฒนาของจังหวัดน่าน และ สถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลอย่างมากจากต่างอาณาจักรใกล้เคียง โดยเฉพาะในสุโขทัยซึ่งมีบทบาททางการเมืองและศาสนาที่สำคัญในการสร้าง พัฒนา จังหวัดน่าน กว่าศตวรรษแต่น่านสลับระหว่างการเป็นราชรัฐอิสระภายใต้การควบคุมของล้านนา สุโขทัย พม่าและสยาม เพื่อที่ ในค.ศ. เมืองถูกยึดครองและการ depopulated จากพม่าจากสายศตวรรษที่ 18 น่านปลอมเป็นพันธมิตรกับกรุงเทพฯใหม่เป็นศูนย์กลางเกาะรัตนโกสินทร์และอาณาจักรมีอยู่เป็นกึ่งอิสระราชอาณาจักรกับสายของพระมหากษัตริย์ที่ปกครองจาก 1 จนกระทั่ง 1931 . วันนี้น่านยังบ้านมากมาย ไทยลื้อ และชาวเขาเผ่าต่างๆ ที่ยังคงน่าสนใจมากของศุลกากรและประเพณีของพวกเขา .จังหวัดในชนบทของจังหวัดน่าน เป็นภูมิภาคที่น่าสนใจของภาคเหนือที่มีประชากรสูงของชุมชนชาวเขาทั้งม้ง n'tin และชุมชน .