Initially, the growing attention on

Initially, the growing attention on Reverse Logistics (RL) and Closed-Loop Supply Chain (CLSC) issues originated with public awareness (discussed in Dowlatshahi, 2000). Then governmental legislation forced producers to take care of their End of Life (EOL) products. For instance, the Waste Electrical and Electronic Equipment (WEEE) directive (directive 2002/96/EC) became European law in 2003, which contains mandatory requirements on collection, recycling, and recovery for all types of electrical goods, with a minimum rate of 4 kilograms per head of population per annum (Georgiadis & Besiou, 2010). WEEE-like legislation was also introduced in Canada, Japan, China, and many states in the US (Quariguasi Frota Neto, Walther, Bloemhof, Van Nunen, & Spengler, 2010). Finally, RL/CLSC is now a revenue opportunity for manufacturers instead of a cost-minimization approach (Guide & Van Wassenhove, 2009). A supply chain, in its classical form (forward supply chain), is a combination of processes to fulfill customers’ requests and includes all possible entities like suppliers, manufacturers, transporters, warehouses, retailers, and customers themselves (Chopra and Meindl, 2010). According to the American Reverse Logistics Executive Council, reverse logistics is defined as “The process of planning, implementing, and controlling the efficient, cost effective flow of raw materials, in-process inventory, finished goods and related information from the point of consumption to the point of origin for the purpose of recapturing value or proper disposal” (Rogers & Tibben-Lembke, 1998). Indeed, reverse logistics, in general forms, start from end users (first customers) where used products are collected from customers (return products) and then attempts to manage EOL products through different decisions are undertaken including recycling (to have more raw materials or raw parts), remanufacturing (to resale them to second markets or if possible to first customers), repairing (to sell in the second markets through repairing), and finally, disposing of some used parts.

If we consider forward and reverse supply chains simultaneously, the result network will construct a closed-loop supply chain. Fig. 1 illustrates a generic supply chain for both forward and reverse logistics. In this figure, the classical (forward), and reverse supply chains are presented by solid lines and dashes, respectively. In return evaluation stage, possible decisions on return products are made. (Another illustration of a generic form of closed loop supply chain is found in Beamon, 1999).

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในขั้นต้นให้ความสนใจที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับโลจิสติกกลับ (RL) และปิดห่วงโซ่อุปทาน (CLSC) ปัญหาที่เกิดขึ้นกับความตระหนักของประชาชน (ที่กล่าวถึงใน Dowlatshahi, 2000) แล้วการออกกฎหมายของรัฐบาลบังคับให้ผู้ผลิตที่จะดูแลของพวกเขาในตอนท้ายของชีวิต (EOL) ผลิตภัณฑ์ ยกตัวอย่างเช่นไฟฟ้าของเสียและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (WEEE) สั่ง (Directive 2002/96 / EC) กลายเป็นกฎหมายยุโรปในปี 2003 ซึ่งมีข้อกำหนดที่บังคับใช้กับคอลเลกชัน, การรีไซเคิลและการกู้คืนสำหรับทุกประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้ามีอัตราต่ำสุดของ 4 กิโลกรัมต่อหัวของประชากรต่อปี (Georgiadis & Besiou 2010) WEEE เหมือนกฎหมายก็ยังนำมาใช้ในแคนาดา, ญี่ปุ่น, จีนและหลายรัฐในสหรัฐอเมริกา (Quariguasi Frota เนวอลเธอร์, Bloemhof แวน Nunen และ Spengler 2010) สุดท้าย RL / CLSC อยู่ในขณะนี้โอกาสที่รายได้สำหรับผู้ผลิตแทนการใช้วิธีการลดค่าใช้จ่าย (ที่ Guide & Van Wassenhove 2009) ห่วงโซ่อุปทานในรูปแบบคลาสสิก (ไปข้างหน้าห่วงโซ่อุปทาน) คือการรวมกันของกระบวนการเพื่อตอบสนองการร้องขอของลูกค้าและมีหน่วยงานที่เป็นไปได้ทั้งหมดเช่นซัพพลายเออร์, ผู้ผลิต, การขนส่ง, โกดัง, ร้านค้าปลีกและลูกค้าตัวเอง (Chopra และ Meindl 2010) . ตามที่ย้อนกลับอเมริกันจิสติกส์คณะผู้บริหารโลจิสติกกลับถูกกำหนดให้เป็น "กระบวนการของการวางแผนการดำเนินการและการควบคุมที่มีประสิทธิภาพค่าใช้จ่ายในการไหลที่มีประสิทธิภาพของวัตถุดิบสินค้าคงคลังในกระบวนการสินค้าสำเร็จรูปและข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากจุดของการบริโภคเพื่อ จุดกำเนิดเพื่อวัตถุประสงค์ในการปล้นค่าหรือการกำจัดที่เหมาะสม "(โรเจอร์สและ Tibben-Lembke, 1998) อันที่จริงกลับจิสติกส์ในรูปแบบทั่วไปเริ่มต้นจากผู้ใช้ (ลูกค้ารายแรก) ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ใช้จะถูกเก็บรวบรวมจากลูกค้า (ผลิตภัณฑ์กลับ) และจากนั้นพยายามที่จะจัดการผลิตภัณฑ์ EOL ผ่านการตัดสินใจที่แตกต่างกันจะดำเนินการรวมทั้งการรีไซเคิล (จะมีวัตถุดิบมากขึ้นหรือดิบ ชิ้นส่วน) remanufacturing (เพื่อขายคืนพวกเขาไปยังตลาดที่สองหรือถ้าเป็นไปได้ให้กับลูกค้าครั้งแรก) ซ่อม (ที่จะขายในตลาดที่สองผ่านการซ่อม) และสุดท้ายการกำจัดชิ้นส่วนที่ใช้บาง. ถ้าเราพิจารณาไปข้างหน้าและย้อนกลับโซ่อุปทานพร้อมกัน เครือข่ายผลที่จะสร้างห่วงโซ่อุปทานวงปิด รูป 1 แสดงให้เห็นถึงห่วงโซ่อุปทานทั่วไปสำหรับทั้งข้างหน้าและโลจิสติกกลับ ในรูปนี้คลาสสิก (ไปข้างหน้า) และย้อนกลับห่วงโซ่อุปทานที่นำเสนอโดยเส้นทึบและรอยขีดข่วนตามลำดับ ในขั้นตอนการประเมินผลตอบแทนการตัดสินใจที่เป็นไปได้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ทำผลตอบแทน (ภาพของรูปแบบทั่วไปของห่วงโซ่อุปทานวงปิดอีกจะพบใน Beamon, 1999)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เริ่มต้น เติบโต ความสนใจในโลจิสติกส์ย้อนกลับ ( RL ) และปิดวงโซ่อุปทาน ( clsc ) ปัญหาที่มากับความตระหนัก ( กล่าวถึงใน dowlatshahi , 2000 ) แล้วกฎหมายที่รัฐบาลบังคับให้ผู้ผลิตต้องดูแลสิ้นสุดของชีวิต ( EOL ) ผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่นขยะอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ( WEEE ) Directive ( Directive 2002 / 96 / EC ) กลายเป็นกฎหมายในยุโรปในปี 2003ซึ่งมีความต้องการจำเป็นในคอลเลกชัน , รีไซเคิล , และการกู้คืนทุกประเภทของสินค้าไฟฟ้า ด้วยคะแนนอย่างน้อย 4 กิโลกรัมต่อหัวของประชากรต่อปี ( georgiadis & besiou , 2010 ) ขณะชอบกฎหมายยังแนะนำในแคนาดา , ญี่ปุ่น , จีน , และหลายรัฐในสหรัฐฯ ( quariguasi frota Neto , Walther , bloemhof , รถตู้ nunen &สปิงเงอเลอร์ , 2010 ) ในที่สุดRL / clsc ตอนนี้รายได้โอกาสสำหรับผู้ผลิตแทนที่จะลดต้นทุนวิธี ( คู่มือ&รถตู้ wassenhove , 2009 ) โซ่อุปทานในรูปแบบคลาสสิก ( โซ่ไปข้างหน้าอุปทาน ) คือการรวมกันของกระบวนการเพื่อตอบสนองการร้องขอของลูกค้า และรวมถึงหน่วยงานที่เป็นไปได้ทั้งหมดเช่นซัพพลายเออร์ ผู้ผลิต , ขนส่ง , คลังสินค้า , ร้านค้าปลีกและลูกค้าเอง ( Chopra และ meindl , 2010 ) ตามที่อเมริกันสภาผู้บริหารโลจิสติกส์ย้อนกลับ ย้อนกลับ โลจิสติกส์ หมายถึง " กระบวนการวางแผน การดำเนินงานและการควบคุมที่มีประสิทธิภาพค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพการไหลของวัตถุดิบ สินค้าคงคลังกระบวนการสินค้าสําเร็จรูป และข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากจุดของการจุดเริ่มต้นเพื่อการจับกุมตัวมูลค่าเหมาะสมทิ้ง " ( โรเจอร์& tibben lembke , 1998 ) แน่นอน โลจิสติกส์ย้อนกลับ ในรูปแบบทั่วไปเริ่มจากผู้ใช้ ( ลูกค้า ) ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่รวบรวมจากลูกค้า ( ผลิตภัณฑ์คืน ) และจากนั้นพยายามที่จะจัดการสินค้า EOL ผ่านการตัดสินใจต่างมีปัญหารวมทั้งการรีไซเคิล ( มีวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนวัตถุดิบ ) , remanufacturing ( เพื่อขายให้ตลาดที่สอง หรือถ้าเป็นไปได้ให้ลูกค้าก่อน )ซ่อม ( เพื่อขายในตลาดที่สองผ่านการซ่อม ) และในที่สุดก็กำจัดของบางชิ้นส่วนที่ใช้

ถ้าเราพิจารณาไปข้างหน้าและย้อนกลับห่วงโซ่อุปทานพร้อมกันผลเครือข่ายจะสร้างแบบโซ่อุปทาน รูปที่ 1 แสดงให้เห็นถึงการจัดหาทั่วไปโซ่ทั้งข้างหน้าและย้อนกลับ โลจิสติกส์ ในรูปนี้คลาสสิก ( ข้างหน้า )ห่วงโซ่อุปทานย้อนกลับ และแสดงโดยเส้นทึบและเส้นประ ตามลำดับ ในขั้นตอนการประเมินกลับการตัดสินใจเป็นไปได้ในผลิตภัณฑ์ยังทำ อื่น ( ภาพประกอบของแบบฟอร์มทั่วไปของห่วงโซ่อุปทานปิดที่พบใน บีมอน , 1999 )