Carbon monoxide (CO) is a colorless

Carbon monoxide (CO) is a colorless, odorless, and tasteless gas that is slightly less dense than air. It is toxic to humans and animals when encountered in higher concentrations, although it is also produced in normal animal metabolism in low quantities, and is thought to have some normal biological functions. In the atmosphere, it is spatially variable, short lived, having a role in the formation of ground-level ozone.
Carbon monoxide consists of one carbon atom and one oxygen atom, connected by a triple bond that consists of two covalent bonds as well as one dative covalent bond. It is the simplest oxocarbon, and isoelectronic with the cyanide ion and molecular nitrogen. In coordination complexes the carbon monoxide ligand is called carbonyl.
Carbon monoxide is produced from the partial oxidation of carbon-containing compounds; it forms when there is not enough oxygen to produce carbon dioxide (CO2), such as when operating a stove or an internal combustion engine in an enclosed space. In the presence of oxygen, including atmospheric concentrations, carbon monoxide burns with a blue flame, producing carbon dioxide.[1] Coal gas, which was widely used before the 1960s for domestic lighting, cooking, and heating, had carbon monoxide as a significant fuel constituent. Some processes in modern technology, such as iron smelting, still produce carbon monoxide as a byproduct.[2]
Worldwide, the largest source of carbon monoxide is natural in origin, due to photochemical reactions in the troposphere that generate about 5×1012 kilograms per year.[3] Other natural sources of CO include volcanoes, forest fires, and other forms of combustion.
In biology, carbon monoxide is naturally produced by the action of heme oxygenase 1 and 2 on the heme from hemoglobin breakdown. This process produces a certain amount of carboxyhemoglobin in normal persons, even if they do not breathe any carbon monoxide. Following the first report that carbon monoxide is a normal neurotransmitter in 1993,[4][5] as well as one of three gases that naturally modulate inflammatory responses in the body (the other two being nitric oxide and hydrogen sulfide), carbon monoxide has received a great deal of clinical attention as a biological regulator. In many tissues, all three gases are known to act as anti-inflammatories, vasodilators, and promoters of neovascular growth.[6] Clinical trials of small amounts of carbon monoxide as a drug are ongoing.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) เป็นก๊าซไม่มีสีไม่มีกลิ่นและรสจืดที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าอากาศ มันเป็นพิษต่อมนุษย์และสัตว์เมื่อพบในระดับความเข้มข้นที่สูงขึ้น แต่ก็ยังมีการผลิตในการเผาผลาญอาหารสัตว์ตามปกติในปริมาณที่ต่ำและมีความคิดที่จะมีการทำงานทางชีวภาพบางอย่างปกติ ในบรรยากาศที่เป็นตัวแปรเชิงพื้นที่อาศัยอยู่ระยะสั้นที่มีบทบาทในการก่อตัวของพื้นระดับโอโซน.
คาร์บอนมอนอกไซด์ประกอบด้วยอะตอมคาร์บอนหนึ่งอะตอมและออกซิเจนหนึ่งเชื่อมต่อกันด้วยพันธะสามที่ประกอบด้วยสองพันธะโควาเลนเป็นพันธะโควาเลนหนึ่งรก มันเป็น oxocarbon ง่ายและ isoelectronic กับไซยาไนด์ไอออนและโมเลกุลไนโตรเจน ในคอมเพล็กซ์ประสานงานแกนด์คาร์บอนมอนออกไซด์ที่เรียกว่าคาร์บอนิล
.คาร์บอนมอนออกไซด์ที่ผลิตจากซิเดชั่นบางส่วนของสารประกอบคาร์บอนที่มี; มันเป็นเมื่อไม่มีออกซิเจนเพียงพอในการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เช่นเมื่อใช้งานเตาหรือเครื่องยนต์สันดาปภายในพื้นที่ปิดล้อม ในที่ที่มีออกซิเจนรวมทั้งความเข้มข้นของบรรยากาศการเผาไหม้ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ที่มีเปลวไฟสีฟ้า, การผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์. [1] ก๊าซถ่านหินซึ่งได้รับการใช้กันอย่างแพร่หลายก่อนปี 1960 สำหรับแสงในประเทศในการปรุงอาหารและเครื่องทำความร้อนมีก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์เป็นส่วนประกอบน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีนัยสำคัญ กระบวนการบางอย่างในเทคโนโลยีที่ทันสมัย​​เช่นถลุงเหล็กยังคงผลิตก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์เป็นผลพลอยได้. [2]
ทั่วโลกแหล่งที่ใหญ่ที่สุดของก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์เป็นธรรมชาติในการให้กำเนิดเนื่องจากปฏิกิริยาเคมีใน troposphere ที่สร้างประมาณ 5 × 1012 กิโลกรัมต่อปี. [3] แหล่งธรรมชาติอื่น ๆ ของเพื่อนร่วมรวมถึงภูเขาไฟไฟป่าและรูปแบบอื่นของการเผาไหม้.
ชีววิทยา, คาร์บอนมอนออกไซด์ที่ผลิตตามธรรมชาติโดยการกระทำของ heme oxygenase 1 และ 2 ใน heme จากการวิเคราะห์ฮีโมโกลกระบวนการนี​​้ผลิตจำนวนหนึ่งของ carboxyhemoglobin ในคนปกติถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ได้หายใจคาร์บอนมอนอกไซด์ใด ๆ ดังต่อไปนี้รายงานครั้งแรกที่คาร์บอนมอนอกไซด์เป็นสารสื่อประสาทปกติในปี 1993 [4] [5] เป็นหนึ่งในสามของก๊าซธรรมชาติที่ปรับการตอบสนองการอักเสบในร่างกาย (อีกสองคนถูกไนตริกออกไซด์และไฮโดรเจนซัลไฟด์)คาร์บอนมอนอกไซด์ได้รับการจัดการที่ดีของความสนใจทางคลินิกที่ควบคุมทางชีวภาพ ในเนื้อเยื่อหลายก๊าซทั้งสามเป็นที่รู้จักกันเพื่อทำหน้าที่เป็น inflammatories ต่อต้าน, vasodilators, และส่งเสริมการเจริญเติบโตของ Neovascular. [6] การทดลองทางคลินิกของจำนวนเงินขนาดเล็กของก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์เป็นยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) เป็นก๊าซไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และชาติที่หนาแน่นมากกว่าอากาศเล็กน้อยน้อย เป็นพิษกับมนุษย์และสัตว์เมื่อพบในความเข้มข้นสูงกว่า แม้ว่ามันยังผลิตในเผาผลาญสัตว์ปกติในปริมาณต่ำ และจะไม่มีบางฟังก์ชันชีวภาพปกติ ในบรรยากาศ มันคือ spatially แปร สั้นอาศัยอยู่ มีบทบาทในการก่อตัวของโอโซนระดับพื้นดิน
มอนอกไซด์คาร์บอนประกอบด้วยคาร์บอนหนึ่งอะตอมและอะตอมออกซิเจนหนึ่ง เชื่อมต่อ ด้วยพันธะทริปเปิ้ลที่ประกอบด้วยสองพันธบัตรโคเวเลนต์เป็นพันธะโคเวเลนต์ dative หนึ่ง เป็น oxocarbon ที่ง่ายที่สุด และ isoelectronic ด้วยไซยาไนด์ไอออนและโมเลกุลไนโตรเจน ในสิ่งอำนวยความสะดวกประสานงาน ลิแกนด์คาร์บอนมอนอกไซด์คือ carbonyl
ผลิตจากออกซิเดชันบางส่วนของคาร์บอนที่ประกอบด้วยคาร์บอนมอนอกไซด์สารประกอบ จะใช้เมื่อไม่มีออกซิเจนเพียงพอในการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2), เช่นเมื่อปฏิบัติเตาหรือการสันดาปภายในเครื่องยนต์ในพื้นที่ล้อมรอบ ในต่อหน้าของออกซิเจน รวมทั้งความเข้มข้นบรรยากาศ คาร์บอนมอนอกไซด์ไหม้ ด้วยเปลวไฟสีน้ำเงิน ผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์[1] ก๊าซถ่านหิน ซึ่งถูกใช้ก่อนปี 1960 สำหรับแสงสว่างภายในประเทศ อาหาร และเครื่องทำความร้อน มีคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นวิภาคเชื้อเพลิงอย่างมีนัยสำคัญ กระบวนการบางอย่างในเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่นเหล็ก smelting ยังคงผลิตคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพลอย[2]
เป็นแหล่งใหญ่ที่สุดของคาร์บอนมอนอกไซด์ทั่วโลก กำเนิด เป็นธรรมชาติ เนื่องจากปฏิกิริยา photochemical ในโทรโพสเฟียร์ที่สร้างประมาณ 5 × 1012 กิโลกรัมต่อปี[3] อื่น ๆ แหล่งธรรมชาติ CO รวมไฟ ไฟป่า และแบบฟอร์มอื่น ๆ ของเผาไหม้
ชีววิทยา คาร์บอนมอนอกไซด์ธรรมชาติผลิต โดยการกระทำของ heme oxygenase 1 และ 2 บน heme จากฮีโมโกลบินแบ่ง กระบวนการนี้สร้างจำนวน carboxyhemoglobin ในคนปกติ แม้ว่าพวกเขาไม่หายใจใด ๆ คาร์บอนมอนอกไซด์ ตามรายงานครั้งแรกว่า คาร์บอนมอนอกไซด์เป็นสารสื่อแบบปกติประสาทใน 1993, [4] [5] เป็นหนึ่งในสามของก๊าซที่ธรรมชาติ modulate ตอบสนองการอักเสบในร่างกาย (อื่นสองเป็นออกไซด์และไฮโดรเจนซัลไฟด์ nitric), คาร์บอนมอนอกไซด์ได้รับความสนใจทางคลินิกมากเป็นการควบคุมทางชีวภาพ ในเนื้อเยื่อมาก สามก๊าซทั้งหมดรู้จักกันเป็น anti-inflammatories, vasodilators และก่อ neovascular เจริญเติบโต[6] คลินิกจำนวนเล็ก ๆ ของคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นยามีอย่างต่อเนื่อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คาร์บอนมอนอกไซด์( CO )เป็นชนิดพิเศษไม่มีกลิ่นไม่มีรสไม่มีสีและก๊าซเรียกว่ามีลดลงเล็กน้อยมีความหนาแน่นมากกว่าอากาศ เป็นพิษต่อสัตว์และมนุษย์เมื่อพบปัญหาในความเข้มข้นสูงขึ้นถึงแม้ว่าจะมีการผลิตเจริญเติบโตในสัตว์ตามปกติอยู่ในปริมาณต่ำและมีความคิดจะมีฟังก์ชันทางชีววิทยาปกติบางอย่าง ในบรรยากาศที่เป็นตัวแปรเพื่อไปถึงได้ไม่ไกลนักโดยสิ้นเชิงจึงอาศัยอยู่การมีบทบาทในการก่อตัวขึ้นของระดับโอโซน.มอนอกซ์ไซด์
ผงถ่านกัมมันต์ประกอบไปด้วยของหนึ่งอะตอมคาร์บอนและออกซิเจน Atom เชื่อมต่อโดยพันธบัตรห้องพักสำหรับ 3 ท่านที่ประกอบไปด้วยสองพันธบัตร covalent และหนึ่งพันธบัตร covalent การกของกรรมอ้อม เป็น isoelectronic oxocarbon และง่ายที่สุดที่พร้อมด้วยไอออนไซยาไนด์และไนโตรเจนโมเลกุล คอมเพล็กซ์ในการประสานงานระหว่าง ligand คาร์บอนมอนนอกไซด์ที่เรียกว่า carbonyl .
คาร์บอนมอนนอกไซด์ได้รับการสร้างขึ้นจากออกซิไดส์บางส่วนของสารประกอบคาร์บอนที่มีแบบนี้เมื่อไม่มีออกซิเจนเพียงพอที่จะทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์( CO 2 )เช่นเมื่อใช้งานเตาแก็สหนึ่งตัวหรือเครื่องยนต์สันดาป ภายใน อยู่ในพื้นที่แบบปิดทึบที่ ในการรวมถึงความเข้มข้นของออกซิเจนที่มีบรรยากาศที่คาร์บอนมอนนอกไซด์จะสว่างขึ้นพร้อมด้วยไฟสีฟ้าที่ผลิตก๊าซคาร์บอน.[ 1 ]แก๊สถ่านหินซึ่งได้เคยถูกใช้กันอย่างกว้างขวางก่อนที่ 1960 s ให้แสงสว่างในประเทศทำอาหารและเครื่องทำความร้อนได้คาร์บอนมอนนอกไซด์เป็นเชื้อเพลิงอย่างมีนัยสำคัญที่ กระบวนการบางอย่างในด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยเช่นโรงถลุงแร่เหล็กยังผลิตคาร์บอนมอนนอกไซด์เป็นพวง.[ 2 ]
ทั่วโลกแหล่งใหญ่ที่สุดของคาร์บอนมอนนอกไซด์เป็นธรรมชาติในแหล่งที่มาเนื่องจากเครื่องเคมีเกิดปฏิกิริยาใน troposphere ที่สร้างประมาณ 5 x 1012 กิโลกรัมต่อปี.[ 3 ]อื่นๆเป็นธรรมชาติแหล่งที่มาของความร่วมมือรวมถึง ภูเขา ไฟ,ป่าไฟป่าและอื่นๆจากการเผาไหม้แบบ.
ในชีววิทยา,คาร์บอนมอนอกไซด์ได้จากธรรมชาติซึ่งผลิตโดยที่การดำเนินการของ ประเภท ฮีม oxygenase 1 และ 2 ใน ประเภท ฮีมจากธาตุฮีโมะกโล - บินเดียวกันการดำเนินการนี้จะผลิตจำนวนหนึ่งของ carboxyhemoglobin ในคนปกติแม้จะไม่หายใจคาร์บอนมอนนอกไซด์ใดๆ รายงานต่อไปนี้เป็นครั้งแรกที่คาร์บอนมอนนอกไซด์ที่เป็น neurotransmitter ตามปกติซึ่งในปี 1993 [ 4 ]:[ 5 ]และหนึ่งในสามก๊าซธรรมชาติที่ช่วยรักษาระดับการตอบกลับยั่วยุในร่างกาย(สองค่าอะไหล่และไฮโดรเจนออกไซด์ดินประสิวที่อื่น)คาร์บอนมอนนอกไซด์ได้รับข้อตกลงที่ดีเยี่ยมของความสนใจทางการแพทย์ซึ่งเป็นองค์กรกำกับดูแลทางชีววิทยา ในเนื้อเยื่อจำนวนมากทั้งสามมีก๊าซทั้งหมดเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการทำหน้าที่เป็นการป้องกันการไคโรแพรคติค vasodilators และส่งเสริมการทดลองทางการแพทย์ neovascular การขยายตัว.[ 6 ]ในจำนวนเงินขนาดเล็กของคาร์บอนมอนนอกไซด์เป็นยาที่เป็นการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง