The statistical test used to make a

The statistical test used to make a comparison of cooperative learning effects on mathematics achievement between experimental group students in Boys’ and Girls’ schools was also the independent-sample t-test. The Girls’ school scored mean of 47.75 (SD = 2.55), which is slightly higher than the Boys’ school with mean score of 47.37 (SD = 2.97). As mentioned in Table 4, a non-significant result was found t (38) = -0.42, p > 0.05, which indicated that there is no statistically significant difference in mathematics achievement post-test mean scores between experimental group students in Boys’ and Girls’ schools. The results show that experimental group students in Boys’ and Girls’ schools were equal in their performance in mathematics achievement after cooperative learning implementation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การทดสอบสถิติที่ใช้ในการทำการเปรียบเทียบผลการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในผลสัมฤทธิ์ทางคณิตศาสตร์ระหว่างนักเรียนกลุ่มทดลองโรงเรียนชายและหญิงยังเป็นอิสระอย่าง t-ทดสอบ โรงเรียนหญิงที่คะแนนของ 47.75 (SD = 2.55), ซึ่งเป็นเล็กน้อยสูงกว่าโรงเรียนชายที่มีคะแนนเฉลี่ย 47.37 (SD = 2.97) ตามที่กล่าวในตาราง 4 ผลไม่สำคัญพบ t (38) =-0.42, p > 0.05 ซึ่งบ่งชี้ว่า มีไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติผลสัมฤทธิ์วิชาคณิตศาสตร์คะแนนเฉลี่ยทดสอบหลังระหว่างนักเรียนกลุ่มทดลองโรงเรียนชายและหญิง ผลลัพธ์แสดงว่า นักเรียนกลุ่มทดลองโรงเรียนชายและหญิงได้เท่ากันในการปฏิบัติในผลสัมฤทธิ์วิชาคณิตศาสตร์หลังจากนำไปใช้ในการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การทดสอบทางสถิติที่ใช้ในการทำเปรียบเทียบผลการเรียนแบบร่วมมือในระหว่างสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนกลุ่มทดลองในเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงในโรงเรียนก็เป็นอิสระตัวอย่าง t-test สาวโรงเรียนคะแนนเฉลี่ย 47.75 (SD = 2.55) ซึ่งสูงกว่าเด็กโรงเรียนที่มีคะแนนเฉลี่ย 47.37 (SD = 2.97) ตามที่ระบุไว้ในตารางที่ 4 ผลที่ไม่สำคัญพบตัน (38) = -0.42, p> 0.05 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์หลังการทดสอบหมายถึงคะแนนระหว่างนักเรียนกลุ่มทดลองในเด็กและ สาวโรงเรียน ผลการศึกษาพบว่านักเรียนกลุ่มทดลองในโรงเรียนชายและหญิงมีความเท่าเทียมกันในการทำงานของพวกเขาในสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์หลังการใช้การเรียนแบบร่วมมือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การทดสอบทางสถิติที่ใช้เพื่อเปรียบเทียบผลของการเรียนแบบร่วมมือที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ ระหว่างนักเรียนกลุ่มทดลองในชายและหญิงโรงเรียนยังเป็นแบบตัวอย่างอิสระ โรงเรียนหญิง 47.75 คะแนนค่าเฉลี่ย ( SD = 2.55 ) ซึ่งเป็นโรงเรียนของพวกเด็กผู้ชาย สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของ 47.37 ( SD = 2.97 ) เป็นตารางในข้อ 4ไม่พบพบ T ( 38 ) = -0.42 , p > 0.05 ซึ่งพบว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในวิชาคณิตศาสตร์โพสต์คะแนนเฉลี่ยนักเรียนกลุ่มทดลองในโรงเรียนชายและหญิง .ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนกลุ่มทดลองในชายและหญิงในโรงเรียน เท่ากับความสามารถในการเรียนแบบร่วมมือมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ หลังจากใช้