Implementing the contains() method

Implementing the contains() method requires a backing data structure that lets you find elements efficiently, while the isPrefix() method requires us to find the “next greater element”, i.e. we need to keep the vocabulary sorted in some way.

We can easily exclude hash-based sets from our list of candidates: while such a structure would give us constant-time checking for contains(), it would perform quite poorly on isPrefix(), in the worst case requiring that we scan the whole set.

For quite the opposite reason, we can also exclude sorted linked-lists, as they require scanning the list at least up to the first element that is greater than or equal to the searched word or prefix.

Two valid options are using a sorted array-backed list or a binary tree.
On the sorted array-backed list we can use binary search to find the current sequence if present or the next greater element at a cost of O(log2(n)), where n is the number of words in the dictionary.

We can implement an array-backed vocabulary that always maintains ordering of like this, using standard

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การใช้วิธีการ contains() ต้องใช้โครงสร้างข้อมูลสำรองที่ช่วยให้คุณค้นหาองค์ประกอบที่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่วิธีการ isPrefix() ต้องพาไปหา "มากกว่าองค์ประกอบถัด" เช่นเราต้องการเก็บคำศัพท์ที่เรียงในบางวิธีเราได้อย่างง่ายดายสามารถแยกชุดยึดแฮจากรายชื่อของผู้สมัคร: ในขณะที่โครงสร้างจะให้เราตรวจหา contains() เวลาคง ทำได้ไม่ดีค่อนข้างบน isPrefix() ในกรณีเลวร้ายที่สุดต้องที่เราสแกนทั้งชุดเหตุผลค่อนข้างตรงข้าม เรายังสามารถแยกเรียงลำดับเชื่อมโยงรายการ ตามที่พวกเขาต้องการสแกนรายการน้อยถึงองค์ประกอบแรกที่มีค่ามากกว่า หรือเท่ากับคำที่ค้นหาหรือนำหน้าสองตัวเลือกที่ถูกต้องจะใช้รายการแถวลำดับสำรองเรียงลำดับหรือต้นไม้ไบนารีในรายการแถวลำดับสำรองเรียงลำดับ เราสามารถใช้ค้นหาแบบไบนารีเพื่อหาลำดับปัจจุบันถ้ามีหรือองค์ประกอบมากขึ้นถัดที่ต้นทุน O(log2(n)) โดยที่ n คือ จำนวนคำในพจนานุกรมเราสามารถใช้คำศัพท์การสนับสนุนอาร์เรย์ที่รักษาการสั่งซื้อของเช่นนี้ โดยใช้มาตรฐาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การดำเนินการมีวิธี () ต้องมีโครงสร้างข้อมูลสนับสนุนที่ช่วยให้คุณพบว่าองค์ประกอบได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่ isPrefix () วิธีต้องการให้เราหา "องค์ประกอบถัดไปมากขึ้น" คือเราจำเป็นต้องให้คำศัพท์ที่เรียงลำดับในทางใดทางหนึ่ง. เราสามารถ ยกเว้นชุดกัญชาตามจากรายชื่อของผู้สมัครของเราในขณะที่โครงสร้างดังกล่าวจะให้เราอย่างต่อเนื่องเวลาการตรวจสอบมี () ก็จะดำเนินการค่อนข้างไม่ดีใน isPrefix () ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดที่กำหนดว่าเราสแกนทั้งชุด. สำหรับ ค่อนข้างเหตุผลตรงข้ามเรายังสามารถไม่รวมเรียงเชื่อมโยงรายการเช่นที่พวกเขาจำเป็นต้องมีการสแกนรายการอย่างน้อยถึงองค์ประกอบแรกที่มากกว่าหรือเท่ากับคำค้นหาหรือคำนำหน้า. สองตัวเลือกที่ถูกต้องใช้เรียงอาร์เรย์ได้รับการสนับสนุน รายการหรือต้นไม้ไบนารี. ในการเรียงลำดับรายการอาร์เรย์ได้รับการสนับสนุนที่เราสามารถใช้การค้นหาแบบไบนารีเพื่อหาลำดับปัจจุบันถ้ามีหรือองค์ประกอบมากขึ้นต่อไปที่ค่าใช้จ่ายของ O (log2 (n)) โดยที่ n คือจำนวนคำใน พจนานุกรม. เราสามารถใช้คำศัพท์ที่อาร์เรย์ได้รับการสนับสนุนที่ก็ยังคงสั่งซื้อของเช่นนี้โดยใช้มาตรฐาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การใช้วิธี contains() ต้องสนับสนุน ข้อมูลโครงสร้างที่ช่วยให้คุณค้นหาองค์ประกอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ isprefix() วิธีของเราต้องค้นหาต่อไป " องค์ประกอบมากกว่า " คือเราต้องเก็บคำศัพท์เรียงในบางวิธีเราสามารถแยกย่อยตามชุดจากรายชื่อของผู้สมัคร ขณะที่โครงสร้างดังกล่าวจะให้เราตรวจสอบ contains() เวลาคงที่จะแสดงค่อนข้างงาน isprefix() ในกรณีเลวร้ายที่สุดต้องที่เราสแกนทั้งชุดเลยค่อนข้างตรงข้ามกับเหตุผล เรายังสามารถแยกตามรายการที่เชื่อมโยง ตามที่พวกเขาต้องการสแกนรายชื่ออย่างน้อยถึงองค์ประกอบแรกที่มากกว่าหรือเท่ากับการค้นคำหรือคำนำหน้า .สองตัวเลือกที่ถูกต้องใช้อาร์เรย์แบบจัดเรียงการสนับสนุนรายการหรือต้นไม้ไบนารีในอาร์เรย์แบบจัดเรียงการสนับสนุนรายการ เราสามารถใช้ค้นหาไบนารีเพื่อหาลำดับในปัจจุบัน ถ้าปัจจุบันหรือถัดไปมากกว่าองค์ประกอบที่ค่าใช้จ่ายของ O ( LOG ( n ) โดยที่ n คือหมายเลขของคำ ในพจนานุกรมเราสามารถใช้ array ข้อมูลคำศัพท์ที่มักจะรักษาการสั่งซื้อแบบนี้ ใช้ มาตรฐาน