Parents who have had their children

Parents who have had their children removed are likely to have serious and complex problems that are difficult to overcome, and it may take them several attempts to recover from drug addiction. They could also lack the strong motivating factor of living with children and may not be getting family-related support. Adults who live with children other than their own are another complex group because they tend to have more problems when they start treatment: they are more likely to use heroin or crack, inject drugs and have a housing problem. They also tend to have poorer outcomes. For instance, they are less likely to complete treatment successfully than parents who live with their own children: 36% of those who started and left treatment in 2011-12 completed their program successfully. However, they are retained in treatment for at least 12 weeks at similar rates to the rest of the non-parent treatment population. The reasons these people don’t do so well in treatment are unclear. They tend to have a worse starting point than others, which may lead to poorer outcomes. They also may not have the same motivating factors that parents have, and they might not access the same range of family-related support.
If a person lives with somebody else’s children and he or she has a serious drug problem, this may present a safeguarding issue, meaning the children need to be protected. However, children’s services should work in partnership with substance misuse services because having these people in treatment gives an opportunity to help them tackle their drug problem and address any other issues they face, to the ultimate benefit of the children in the family. Young parents in treatment Over two thirds (69%) of parents in treatment who live with their children are over 30 years old. The number of parents aged under 18 is very small (115 out of 15,031 young people starting treatment in 2011-12, while a further 145 said they were parents not living with their children). More young people in treatment live with children who are not their own (23%), though the majority of these are likely to be living with siblings rather than children of a partner. These small numbers make it difficult to draw any firm conclusions about the various family groups. But it is clear that young people’s substance misuse services need to work with a range of local services to support young people who are parents, to address their drug and alcohol use and other needs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้ปกครองที่มีเด็กเอาเป็นจะมีปัญหาที่รุนแรง และซับซ้อนที่ยากต่อการเอาชนะ และอาจใช้เวลาเหล่านั้นพยายามกู้คืนจากการติดยาเสพติดหลายครั้ง พวกเขายังอาจขาดปัจจัยสร้างแรงจูงใจที่แข็งแกร่งของกับเด็ก และอาจไม่ได้รับการสนับสนุนที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว ผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่กับเด็กอื่นที่ไม่ใช่ของตนเองเป็นกลุ่มความซับซ้อนที่อื่นเนื่องจากมักจะมีปัญหามากขึ้นเมื่อพวกเขาเริ่มการรักษา: พวกเขามีแนวโน้มการใช้เฮโรอีน หรือแตก ฉีดยา และมีปัญหาที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังมักจะมีผลย่อม เช่น พวกเขามีโอกาสน้อยที่จะทำการรักษาเสร็จสมบูรณ์กว่าผู้ปกครองที่อยู่กับเด็กของตนเอง: 36% ของผู้ที่เริ่มต้น และรักษา 2011-12 ที่เหลือเสร็จโปรแกรมของพวกเขา อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะถูกเก็บไว้ในการรักษาอย่างน้อย 12 สัปดาห์ราคาคล้ายของประชากรไม่ใช่หลักการรักษา เหตุผลคนเหล่านี้ไม่ดีดังนั้นในการรักษาไม่ชัดเจน พวกเขามักจะมีเลวจุดอื่น ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ย่อมเริ่มต้น พวกเขายังมีปัจจัยสร้างแรงจูงใจเดียวที่มีผู้ปกครอง และพวกเขาไม่อาจเข้าถึงช่วงเดียวกันของการสนับสนุนที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวถ้าคนที่อาศัยอยู่กับเด็กคนอื่น และเขาหรือเธอมีปัญหายาเสพติดร้ายแรง นี้อาจมีปัญหา safeguarding หมายความว่า เด็กต้องได้รับการป้องกัน อย่างไรก็ตาม บริการสำหรับเด็กควรทำงานร่วมกับสารที่ใช้บริการเนื่องจากมีคนเหล่านี้ในการรักษาทำให้โอกาสที่จะช่วยแก้ไขปัญหาของปัญหายาเสพติด และปัญหาอื่น ๆ ที่พวกเขาเผชิญ เพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็กในครอบครัว หนุ่มสาวพ่อแม่ในการรักษามากกว่าสองในสาม (69%) ของผู้ปกครองในการรักษาที่อาศัยอยู่กับเด็กจะอายุเกิน 30 ปี จำนวนผู้ปกครองที่อายุต่ำกว่า 18 มีขนาดเล็กมาก (หนุ่ม 115 จาก 15,031 คนเริ่มต้นรักษา 2011-12 ในขณะที่ 145 การกล่าวว่า พวกเขาเป็นผู้ปกครองที่ไม่ได้อาศัยอยู่กับหลาน) คนหนุ่มสาวเพิ่มเติมในการรักษาอยู่กับเด็กที่ไม่ได้ของพวกเขาเอง (23%), ส่วนใหญ่เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมีชีวิตอยู่กับพี่น้องมากกว่าที่เป็นเด็กของคู่ค้า เลขเหล่านี้ทำให้ยากที่จะวาดข้อสรุปใด ๆ บริษัทเกี่ยวกับกลุ่มครอบครัวต่าง ๆ แต่เป็นที่ชัดเจนว่า คนหนุ่มสาวของสารใช้บริการต้องทำงานกับบริการในท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนคนรุ่นพ่อแม่ การใช้ยาเสพติดและแอลกอฮอล์และความต้องการอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานของตนเอาออกมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาร้ายแรงและซับซ้อนที่ยากที่จะเอาชนะและมันอาจจะใช้พวกเขาพยายามหลายครั้งที่จะกู้คืนจากการเสพติดยาเสพติด พวกเขายังอาจขาดปัจจัยกระตุ้นที่แข็งแกร่งของการมีชีวิตอยู่กับเด็กและอาจไม่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับ ผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่กับเด็กคนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ของตนเองเป็นอีกกลุ่มที่มีความซับซ้อนเพราะพวกเขามีแนวโน้มที่จะมีปัญหามากขึ้นเมื่อพวกเขาเริ่มการรักษาพวกเขามีแนวโน้มที่จะใช้ยาเสพติดหรือแตกฉีดยาเสพติดและมีปัญหาที่อยู่อาศัย พวกเขายังมีแนวโน้มที่จะมีผลยากจน ตัวอย่างเช่นพวกเขามีโอกาสน้อยที่จะเสร็จสิ้นการรักษาประสบความสำเร็จกว่าพ่อแม่ที่อาศัยอยู่กับลูกของตัวเอง: 36% ของผู้ที่เริ่มต้นและการรักษาทางด้านซ้ายใน 2011-12 เสร็จสิ้นโปรแกรมของพวกเขาประสบความสำเร็จ แต่พวกเขาจะยังคงอยู่ในการรักษาเป็นเวลาอย่างน้อย 12 สัปดาห์ในอัตราที่คล้ายกับส่วนที่เหลือของประชากรรักษาไม่ผู้ปกครอง เหตุผลที่คนเหล่านี้ไม่ได้ทำเพื่อให้ดีในการรักษามีความชัดเจน พวกเขามักจะมีจุดเริ่มต้นที่เลวร้ายยิ่งกว่าคนอื่น ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยากจนกว่า พวกเขายังไม่อาจมีปัจจัยกระตุ้นเดียวกันกับที่พ่อแม่มีและพวกเขาอาจจะไม่สามารถเข้าถึงช่วงเดียวกันของการสนับสนุนที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว.
ถ้าคนที่อาศัยอยู่กับเด็กคนอื่นและเขาหรือเธอมีปัญหายาเสพติดร้ายแรงนี้อาจนำเสนอการปกป้อง ปัญหาหมายถึงเด็กจำเป็นต้องได้รับการคุ้มครอง อย่างไรก็ตามบริการเด็กควรจะทำงานร่วมกับบริการการใช้สารที่ผิดเพราะมีคนเหล่านี้ในการรักษาจะช่วยให้โอกาสที่จะช่วยให้พวกเขาจัดการกับปัญหายาเสพติดของพวกเขาและการแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ที่พวกเขาต้องเผชิญเพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็กในครอบครัวที่ พ่อแม่ของหนุ่มสาวในการรักษากว่าสองในสาม (69%) ของผู้ปกครองในการรักษาที่อาศัยอยู่กับบุตรหลานของตนมีความเก่าแก่กว่า 30 ปี จำนวนของพ่อแม่ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีมีขนาดเล็กมาก (115 จาก 15,031 คนหนุ่มสาวเริ่มต้นการรักษาใน 2011-12 ในขณะที่อีก 145 กล่าวว่าพวกเขาถูกพ่อแม่ไม่ได้อาศัยอยู่กับบุตรของตน) คนหนุ่มสาวมากขึ้นในการรักษาอยู่กับเด็กที่ไม่ได้เป็นของตัวเอง (23%) แต่ส่วนใหญ่เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมีชีวิตอยู่กับพี่น้องมากกว่าเด็กของพันธมิตร ตัวเลขเล็ก ๆ เหล่านี้ทำให้มันเป็นเรื่องยากที่จะสรุปผล บริษัท ใด ๆ ที่เกี่ยวกับกลุ่มครอบครัวต่างๆ แต่มันก็เป็นที่ชัดเจนว่าคนหนุ่มสาวบริการการใช้สารที่ผิดต้องทำงานกับช่วงของการบริการในท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนคนหนุ่มสาวที่เป็นพ่อแม่เพื่อแก้ไขยาเสพติดและการดื่มสุราของพวกเขาและความต้องการอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ครอบครัวที่มีเด็กของพวกเขาออกมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาที่รุนแรงและซับซ้อน ที่ยากจะเอาชนะได้ และมันอาจจะใช้เวลาพวกเขาต่างพยายามที่จะกู้คืนจากการติดยา พวกเขาอาจยังขาดความเข้มแข็ง ปัจจัย motivating ของชีวิตกับเด็กและอาจไม่ได้รับที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวสนับสนุน ผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่กับเด็กอื่นที่ไม่ใช่ของตนเองเป็นอีกกลุ่มที่ซับซ้อนเพราะพวกเขามีแนวโน้มที่จะมีปัญหามากขึ้นเมื่อพวกเขาเริ่มการรักษาที่พวกเขามีแนวโน้มที่จะใช้เฮโรอีนหรือโคเคน ฉีดยา และมีปัญหาที่อยู่อาศัย พวกเขายังมักจะได้ผลที่ไม่ดี ตัวอย่างเช่น พวกเขามีโอกาสน้อยที่จะรักษาความสมบูรณ์มากกว่าผู้ปกครองที่อยู่กับเด็กของตัวเอง : 36 % ของผู้ที่เริ่มต้น และเหลือรักษาใน 2011-12 ของโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม , พวกเขาจะถูกเก็บไว้ในการรักษาเป็นเวลาอย่างน้อย 12 สัปดาห์ในอัตราที่ใกล้เคียงกับส่วนที่เหลือของที่ไม่ใช่พ่อแม่ การรักษาประชากร เหตุผลที่คนเหล่านี้ไม่ทำงานได้ดีในการรักษาได้ชัดเจน พวกเขามักจะมีจุดเริ่มต้นที่เลวร้ายกว่าคนอื่น ซึ่งอาจจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ดี พวกเขายังอาจไม่ได้เหมือนกัน ปัจจัยจูงใจที่พ่อแม่ได้ และอาจไม่เข้าถึงช่วงเดียวกันของครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนถ้าเป็นคนที่อาศัยอยู่กับคนอื่น เด็ก กับ เขาหรือเธอมีปัญหาเรื่องยาที่ร้ายแรง อาจเสนอการป้องกันปัญหา หมายถึง เด็กต้องได้รับการคุ้มครอง อย่างไรก็ตาม อุปการะควรทำงานร่วมกับการใช้สารต่างๆ เพราะมีคนเหล่านี้ในการรักษา จะทำให้โอกาสที่จะช่วยให้พวกเขาจัดการปัญหายาเสพติดของพวกเขาและที่อยู่ปัญหาอื่น ๆที่พวกเขาเผชิญ เพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็กในครอบครัว เด็กผู้ปกครองในการรักษามากกว่าสองในสาม ( 69% ) ของพ่อแม่ในการรักษาผู้ที่อาศัยอยู่กับลูกๆ มากกว่า 30 ปี จำนวนของผู้ปกครองที่อายุต่ำกว่า 18 มีขนาดเล็กมาก ( 115 ออกจาก 15031 คนหนุ่มสาวที่เริ่มการรักษาใน 2011-12 , ในขณะที่อีก 145 บอกว่าพวกเขาคือพ่อแม่ไม่ได้อยู่กับลูก ) คนหนุ่มสาวมากขึ้นในการอยู่กับลูกที่ไม่ใช่ของตัวเอง ( 23% ) , แม้ว่าส่วนใหญ่ของเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะอาศัยอยู่กับพี่น้องมากกว่าเด็กของพันธมิตร ตัวเลขเหล่านี้มีขนาดเล็กทำให้ยากที่จะวาดข้อสรุปใด ๆ บริษัท เกี่ยวกับกลุ่มตระกูลต่าง ๆ แต่มันชัดเจนว่า เยาวชนใช้บริการสารต้องทำงานที่มีช่วงของการบริการท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนคนหนุ่มสาวที่เป็นพ่อแม่ ที่อยู่การใช้ยาเสพติดและแอลกอฮอล์ของพวกเขาและความต้องการอื่น ๆ