Applications of the RE-AIM framewor

Applications of the RE-AIM framework also recommend
understanding the costs of intervention delivery in terms of
reach and effectiveness [7]. To date, determining the costeffectiveness
of diabetes prevention has been tied solely to
information gleaned from the outcomes of the DPP trial
[8–11]. In nearly every case, translational diabetes prevention
trials in the United States were adapted to reflect the DPP key
elements using a lower frequency of sessions (e.g., 11 to 16
sessions), typically delivered to groups rather than to individuals
[12–20]. These adaptations are made as a method to
reduce intervention costs, but only three studies reported cost
explicitly and those that do have simply reported on the cost of
the intervention rather than on cost-effectiveness in achieving
outcomes [13,18,21]. Studies that determine the relationships
between reach, effectiveness and cost of diabetes prevention
programs delivered in typical clinical or community settings
are needed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โปรแกรมประยุกต์กรอบใหม่มุ่งยังแนะนำต้นทุนการแทรกแซงการจัดส่งในรูปของการทำความเข้าใจเข้าถึงและประสิทธิภาพ [7] วันที่ กำหนด costeffectivenessของโรคเบาหวาน ป้องกันได้ถูกมัดแต่เพียงผู้เดียวไปข้อมูลคาดผลของ DPP ทดลอง[8-11] ในการป้องกันโรคเบาหวานกรณี translational เกือบทุกการทดลองในสหรัฐอเมริกาถูกปรับถึงคีย์ DPPองค์ประกอบที่ใช้ความถี่ต่ำของช่วง (เช่น 11-16รอบเวลา), โดยทั่วไปส่งกลุ่ม แทน กับบุคคล[12-20] ท้องเหล่านี้จะเป็นวิธีการที่จะลดต้นทุนการแทรกแซง แต่เพียงสามศึกษารายงานต้นทุนอย่างชัดเจน และที่มีรายงานเพียงแค่ต้นทุนของแทรกแซง มากกว่าประหยัดค่าใช้จ่ายในการบรรลุเป้าหมายผล [13,18,21] การศึกษาที่กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างถึง ประสิทธิภาพ และต้นทุนของการป้องกันโรคเบาหวานโปรแกรมที่จัดส่งในการตั้งค่าทางคลินิกหรือชุมชนทั่วไปมีความจำเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การประยุกต์ใช้งานของกรอบ RE-AIM ขอแนะนำให้
ทำความเข้าใจค่าใช้จ่ายในการส่งมอบการแทรกแซงในแง่ของ
การเข้าถึงและมีประสิทธิภาพ [7] ถึงวันที่กำหนด Costeffectiveness
ของการป้องกันโรคเบาหวานได้รับการเชื่อมโยงเพียงเพื่อ
ข้อมูลที่รวบรวมได้จากผลของการทดลอง DPP
[8-11] ในเกือบทุกกรณีการป้องกันโรคเบาหวานแปล
ทดลองในประเทศสหรัฐอเมริกาได้รับการปรับให้สะท้อน DPP สำคัญ
องค์ประกอบโดยใช้ความถี่ต่ำของการประชุม (เช่น 11-16
ครั้ง) ส่งไปยังกลุ่มที่มักจะมากกว่าบุคคล
[12-20] การปรับตัวเหล่านี้จะทำตามวิธีการที่จะ
ลดค่าใช้จ่ายการแทรกแซง แต่เพียงสามการศึกษาค่าใช้จ่ายในการรายงาน
อย่างชัดเจนและผู้ที่ทำมีรายงานว่ามีเพียงค่าใช้จ่ายของ
การแทรกแซงมากกว่าค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพในการบรรลุ
ผล [13,18,21] การศึกษาที่กำหนดความสัมพันธ์
ระหว่างการเข้าถึงประสิทธิภาพและค่าใช้จ่ายในการป้องกันโรคเบาหวาน
โปรแกรมส่งในการตั้งค่าทางคลินิกหรือชุมชนโดยทั่วไป
มีความจำเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การใช้งานของ re-aim กรอบยังแนะนำ
เข้าใจต้นทุนการจัดส่งการแทรกแซงในแง่ของ
ถึงประสิทธิผล [ 7 ] ในวันที่กำหนด costeffectiveness
ของการป้องกันโรคเบาหวานถูกมัดเพียง
ข้อมูลที่รวบรวมได้จากผลของการทดลองใช้ DPP
[ 8 – 11 ] ในเกือบทุกกรณี สำหรับการป้องกันโรคเบาหวาน
การทดลองในสหรัฐอเมริกาที่ถูกดัดแปลงให้ใช้ DPP คีย์
องค์ประกอบความถี่ต่ำในเซสชัน ( เช่น 11 - 16
ครั้ง ) โดยทั่วไปแล้วส่งไปยังกลุ่มมากกว่าบุคคล
[ 12 – 20 ] ดัดแปลงเหล่านี้ถูกสร้างเป็นวิธีการ
ลดต้นทุนการแทรกแซง แต่เพียงสามการศึกษารายงานต้นทุน
อย่างชัดเจน และผู้ที่ทำมีเพียงรายงานในค่าใช้จ่ายของ
การแทรกแซงมากกว่าความคุ้มค่าในการบรรลุผล 13,18,21
[ ] การศึกษาที่ศึกษาความสัมพันธ์
ระหว่างถึง ประสิทธิผล และต้นทุนของโปรแกรมการป้องกันโรคเบาหวานส่งในการตั้งค่าทางคลินิกทั่วไป

หรือชุมชนต้องการ