When you eat carrots, the beta-caro

When you eat carrots, the beta-carotene is transformed into retinol or vitamin A. Carrots are high in Vitamin A, and a deficiency in this nutrient can cause some difficulty seeing in dim light. Vitamin A is essential for the formation of the chemical retinal, whose presence in the retina is necessary for vision. Our eyes have two kinds of light sensitive cells: the rods and the cones. The rods are the cells we rely on to see in dim light. They are sensitive to Vitamin A deficiency, because it can cause a shortage of retinal.

The retina is the light-sensing part of the eye that holds the rods and cones, which contain enzymes that absorb light and allow us to see. When light strikes the retinal molecule, it changes its shape. This activates a cascade of chemical reactions that informs the brain that light has entered the eye. When the levels of light sensitive molecules are low, due to Vitamin A deficiency, there will not be enough retinal to detect the light at night. During the day there is enough light to produce vision, despite low levels of retinal. So it's only night vision that can be improved by eating carrots.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อคุณกินแครอท เบต้าแคโรทีนี้จะกลายเป็นเรติน หรือวิตามิน A. แครอทมีวิตามิน A สูง และการขาดแคลนสารอาหารนี้สามารถทำให้เกิดความยากลำบากในการมองเห็นในแสงสลัว วิตามินเอเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการก่อตัวของจอประสาทตาเคมี ที่อยู่ในเรตินาที่จำเป็นสำหรับวิสัยทัศน์ ตามีสองชนิดของเซลล์ที่ไวต่อแสง: กระบอกและกรวย แท่งมีเซลล์ที่เราใช้ต่อไปเพื่อดูในที่แสงสลัว พวกเขามีความไวต่อการขาดวิตามินเอ เนื่องจากมันสามารถทำให้เกิดการขาดแคลนของจอประสาทตาจอประสาทตาเป็นส่วนตรวจจับแสงของตาที่เก็บแท่งและเซลล์รูปกรวย ซึ่งประกอบด้วยเอนไซม์ที่ดูดซับแสง และทำให้เราเห็น เมื่อแสงส่องโมเลกุลจอประสาทตา เปลี่ยนรูปร่างของมัน การเปิดใช้งานน้ำตกของปฏิกิริยาเคมีที่แจ้งให้สมองทราบว่า แสงได้ป้อนตา เมื่อระดับของโมเลกุลที่ไวต่อแสงต่ำ เนื่องจากการขาดวิตามินเอ จะไม่มีจอประสาทตาพอตรวจจับแสงเวลากลางคืน ในระหว่างวัน ที่มีแสงเพียงพอในการผลิตวิสัยทัศน์ แม้ มีจอประสาทตาในระดับต่ำ ดังนั้นจึงเป็นเพียงคืนวิสัยทัศน์ที่สามารถถูกปรับปรุง ด้วยการกินแครอท

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อคุณกินแครอท, เบต้าแคโรทีนจะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอหรือเรตินเอแครอทมีวิตามินเอสูงและการขาดสารอาหารนี้อาจทำให้เกิดปัญหาบางอย่างที่เราได้เห็นในแสงสลัว วิตามินเอเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการก่อตัวของจอประสาทตาสารเคมีที่มีอยู่ในจอประสาทตาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวิสัยทัศน์ ดวงตาของเรามีสองชนิดของเซลล์มีความไวแสง: แท่งและกรวย แท่งเป็นเซลล์ที่เราต้องพึ่งพาการเห็นในแสงสลัว พวกเขามีความไวต่อการขาดวิตามินเอ, เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนของจอประสาทตา

จอประสาทตาเป็นส่วนที่ตรวจจับแสงของตาที่เก็บแท่งและกรวยซึ่งมีเอนไซม์ที่ดูดซับแสงและช่วยให้เราได้เห็น เมื่อแสงนัดโมเลกุลจอประสาทตาจะเปลี่ยนรูปร่างของมัน นี้เปิดใช้งานน้ำตกของปฏิกิริยาเคมีที่แจ้งสมองที่แสงได้เข้าตา เมื่อระดับของโมเลกุลที่ไวต่อแสงอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากการขาดวิตามินเอจะมีไม่เพียงพอที่จอประสาทตาในการตรวจสอบความสว่างในเวลากลางคืน ในระหว่างวันที่มีแสงสว่างพอที่จะผลิตวิสัยทัศน์แม้จะมีระดับต่ำของจอประสาทตา ดังนั้นจึงเป็นคืนวิสัยทัศน์เดียวที่สามารถได้รับการปรับปรุงโดยการกินแครอท

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อคุณกินแครอท , แคโรทีน Beta ถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ เรตินอลหรือแครอทมีวิตามินเอสูง และขาดในสารอาหารนี้สามารถก่อให้เกิดปัญหาบางอย่าง เห็นแสงไฟสลัว วิตามินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการก่อตัวของสารเคมีที่จอประสาทตา ซึ่งปรากฏอยู่ในเรตินาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวิสัยทัศน์ ตาของเรามี 2 ชนิด เซลล์ไวแสง : แท่งและกรวย แท่งเป็นเซลล์เราพึ่งดูในแสงไฟสลัว พวกเขาจะแพ้วิตามินเอ เนื่องจากมันสามารถทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนจอประสาทตา .เรตินา เป็นแสงส่วนหนึ่งของตาที่มีแท่งและกรวยตรวจวัดซึ่งประกอบด้วยเอนไซม์ที่ดูดซับแสงและช่วยให้เราเห็น เมื่อแสงกระทบโมเลกุลเรตินา มันเปลี่ยนรูปร่างของมัน นี้เปิดใช้งานทั้งหมดของปฏิกิริยาทางเคมีที่ให้มองที่แสงเข้าดวงตา เมื่อระดับของโมเลกุลของไวแสงต่ำ เนื่องจากการขาดวิตามินเอจะไม่มีเพียงพอ จอประสาทตา ตรวจจับแสงในตอนกลางคืน ช่วงกลางวันมีแสงเพียงพอที่จะสร้างวิสัยทัศน์ แม้ระดับต่ำของจอประสาทตา . ดังนั้น มันก็คืนวิสัยทัศน์ที่สามารถปรับปรุงได้โดยการรับประทานแครอท