The most notable change surrounding

The most notable change surrounding preeclampsia is that proteinuria is no longer a requirement for the diagnosis.1 It has been recognized that preeclampsia is a systemic process that affects multiple systems and rigidly defining it solely on the basis of findings of blood pressure and proteinuria has ignored this fact. The task force now recommends that preeclampsia be defined as 2 blood pressures higher than or equal to 140 (systolic) and 90 (diastolic) mm Hg, at least 4 hours apart, after 20 weeks with either proteinuria (300 mg/24 h, protein/creatinine ratio 0.3 mg/dL or 1+ urinary protein dipstick if no other means are available) or new onset of any other systemic finding including thrombocytopenia, impaired liver function (elevation of liver transaminases), and renal insufficiency (elevated serum creatinine in the absence of other renal disease).1 Severe preeclampsia is diagnosed with the presence of any of the following findings: systolic blood pressure of 160 mm Hg or higher or diastolic blood pressure of 110 mm Hg or higher on 2 occasions at least 4 hours apart while the patient is on bed rest; the presence of significant thrombocytopenia (1.1 mg/dL or double the normal serum concentration), pulmonary edema, or new-onset headache or visual changes.1

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

The most notable change surrounding preeclampsia is that proteinuria is no longer a requirement for the diagnosis.1 It has been recognized that preeclampsia is a systemic process that affects multiple systems and rigidly defining it solely on the basis of findings of blood pressure and proteinuria has ignored this fact. The task force now recommends that preeclampsia be defined as 2 blood pressures higher than or equal to 140 (systolic) and 90 (diastolic) mm Hg, at least 4 hours apart, after 20 weeks with either proteinuria (300 mg/24 h, protein/creatinine ratio 0.3 mg/dL or 1+ urinary protein dipstick if no other means are available) or new onset of any other systemic finding including thrombocytopenia, impaired liver function (elevation of liver transaminases), and renal insufficiency (elevated serum creatinine in the absence of other renal disease).1 Severe preeclampsia is diagnosed with the presence of any of the following findings: systolic blood pressure of 160 mm Hg or higher or diastolic blood pressure of 110 mm Hg or higher on 2 occasions at least 4 hours apart while the patient is on bed rest; the presence of significant thrombocytopenia (<100 000/microliter); impaired liver function (twofold or greater elevation of liver transaminases), severe persistent right upper quadrant or epigastric pain unresponsive to medication and not accounted for by alternative diagnoses or both; progressive renal insufficiency (serum creatinine concentration >1.1 mg/dL or double the normal serum concentration), pulmonary edema, or new-onset headache or visual changes.1

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นที่สุด preeclampsia รอบคือโปรตีนจะไม่จำเป็นสำหรับ diagnosis.1 ที่จะได้รับการยอมรับว่า preeclampsia เป็นกระบวนการที่เป็นระบบที่มีผลต่อระบบหลายอย่างเหนียวแน่นและกำหนดมัน แต่เพียงผู้เดียวบนพื้นฐานของผลการวิจัยของความดันโลหิตและโปรตีนได้ละเว้น ความเป็นจริงนี้ กำลังงานในขณะนี้แนะนำว่า preeclampsia จะกำหนดเป็น 2 ความดันเลือดสูงกว่าหรือเท่ากับ 140 (systolic) และ 90 (diastolic) มิลลิเมตรปรอทอย่างน้อย 4 ชั่วโมงออกจากกันหลังจาก 20 สัปดาห์ที่ผ่านมามีทั้งโปรตีน (300 มก. / 24 ชั่วโมงโปรตีน อัตราส่วน / creatinine 0.3 mg / dL หรือ 1+ dipstick โปรตีนในปัสสาวะหากไม่มีวิธีการอื่น ๆ ที่มีอยู่) หรือการโจมตีใหม่ของการค้นพบระบบอื่น ๆ รวมทั้ง thrombocytopenia, การทำงานของตับบกพร่อง (ระดับความสูงของ transaminases ตับ) และภาวะไต (ค่า serum creatinine สูงใน กรณีที่ไม่มีโรคไตวายเรื้อรังอื่น ๆ ) 0.1 preeclampsia รุนแรงได้รับการวินิจฉัยที่มีการปรากฏตัวของใด ๆ ของผลการวิจัยต่อไปนี้: ความดันโลหิต 160 มิลลิเมตรปรอทหรือสูงกว่าหรือความดันโลหิต diastolic 110 มิลลิเมตรปรอทหรือสูงกว่าเมื่อวันที่ 2 ครั้งอย่างน้อย 4 ชั่วโมงในขณะที่ออกจากกัน ผู้ป่วยที่อยู่ในส่วนที่เหลือเตียง; การปรากฏตัวของภาวะเกล็ดเลือดต่ำอย่างมีนัยสำคัญ (<100 000 / ไมโครลิตร); การทำงานของตับที่มีความบกพร่อง (สองเท่าหรือสูงมากขึ้นของตับ transaminases) รุนแรงถาวรด้านขวาด้านบนหรือปวดท้องไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาและไม่ได้คิดโดยการวินิจฉัยทางเลือกหรือทั้งสอง ภาวะไตก้าวหน้า (ซีรั่มเข้มข้น creatinine> 1.1 mg / dL หรือสองเท่าของความเข้มข้นของซีรั่มปกติ), ปอดบวมหรือปวดหัวใหม่ที่เริ่มมีอาการหรือ changes.1 ภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่เด่นที่สุดคือ มีการเปลี่ยนแปลงรอบ preeclampsia ไม่มีความต้องการสำหรับการวินิจฉัยที่ 1 ได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบกระบวนการ preeclampsia ที่มีผลต่อหลายระบบ และเข้มงวดการแต่เพียงผู้เดียวบนพื้นฐานของค่าความดันโลหิตและโปรตีนในปัสสาวะมีละเว้นข้อเท็จจริงนี้ทีมตอนนี้ แนะนำว่า ครรภ์เป็นพิษหมายถึง 2 เลือดความดันที่สูงกว่าหรือเท่ากับ 140 ( systolic ) และ 90 มม. ปรอท ( diastolic ) อย่างน้อย 4 ชั่วโมงนอกจากหลัง 20 สัปดาห์กับ proteinuria ( 300 mg / 24 ชั่วโมง อัตราส่วนโปรตีน / ครี 0.3 mg / dl หรือปัสสาวะโปรตีน 1 ชนิด ถ้าไม่ วิธีอื่น ๆที่ใช้ได้ ) หรือใหม่อื่น ๆรวมถึงการโจมตีของระบบการหาภาวะเกล็ดเลือดน้อย ,การทำงานของตับบกพร่อง ( ความสูงของทรานส มิเนสตับ ) และไตไม่เพียงพอ ( ครีเอตินินในเลือดสูงในการขาดงานของโรคไตเรื้อรังอื่น ๆ ) 1 preeclampsia รุนแรงมีการวินิจฉัย ด้วยการแสดงตนของใด ๆของข้อมูลต่อไปนี้ :ความดันโลหิต systolic 160 มม. ปรอทหรือสูงกว่า หรือความดันเลือดสูง 110 มม. ปรอทหรือสูงกว่า 2 ครั้ง ห่างกันอย่างน้อย 4 ชั่วโมงในขณะที่คนไข้ไปนอนพัก ; การปรากฏตัวของแคว้นเบรอตาญอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ( < 100 , 000 / ไมโครลิตร ) ; การทำงานของตับบกพร่อง ( สองเท่าหรือมากกว่าความสูงของทรานส มิเนสในตับ )รุนแรงแบบถาวรบนขวาของความเจ็บปวดหรือ epigastric ไม่ตอบสนองกับยา และไม่คิดโดยวินิจฉัยทางเลือกหรือทั้งสองไม่เพียงพอไตก้าวหน้า ( serum creatinine ความเข้มข้น > 1.1 มิลลิกรัม / เดซิลิตร หรือเพิ่มความเข้มข้นเลือดปกติ ) , ปอดบวมน้ำ หรือเริ่มมีอาการปวดหัว หรือเปลี่ยนภาพใหม่ 1
.