Seventy-fivepercent of the individu

Seventy-fivepercent of the individuals who scored highon the adherence scale at baseline had theirblood pressure under control at 42 months, compared with only 47% of those scoringmedium or low, respectively (Fig. 1). In otherwords, a 5-percentage-point improvement inblood pressure control was noted for personsscoring low on the self-reported medicationadherence scale between 6 and 42 months,while for individuals scoring high, a 21-percentage-point increase was observed. Apaired t-test between groups using diastolicblood pressure as the criterion revealed statistically significant differences as well (t= 6.43; P < 0.01). To assess the strength ofthe relationship between the self-reportedmedication-taking scale and blood pressure control measure, the coefficient of determination (R2) was used. This coefficient wasalso found to be significant (R2 = 0.33; P

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ร้อย ละเจ็ดสิบห้าของบุคคลที่ได้คะแนนสูงในระดับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาที่พื้นฐาน มีความดันโลหิตอยู่ภายใต้การควบคุมที่ 42 เดือน เทียบกับเพียง 47% ของผู้ที่ได้คะแนนสูงปานกลางหรือต่ำ ตามลำดับ (รูปที่ 1) กล่าว อีกนัยหนึ่งการควบคุมความดันโลหิตดีขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้ที่ ให้คะแนนต่ำตามระดับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาที่รายงานด้วยตนเองระหว่าง 6 ถึง 42 เดือนในขณะที่บุคคลที่ได้คะแนนสูงนั้นเพิ่มขึ้น 21 เปอร์เซ็นต์ . การทดสอบทีแบบคู่ระหว่างกลุ่มที่ใช้ความดันโลหิตตัวล่างเป็นเกณฑ์เผยให้เห็นความแตกต่างที่มีนัยสำคัญทางสถิติเช่นกัน (t = 6.43; P < 0.01) เพื่อประเมินความแข็งแกร่งของความสัมพันธ์ระหว่างมาตราส่วนการรับประทานยาที่รายงานด้วยตนเองและมาตรการควบคุมความดันโลหิต จึงใช้สัมประสิทธิ์การพิจารณา (R2) สัมประสิทธิ์นี้มีนัยสำคัญเช่นกัน (R2 = 0.33; P

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เจ็ดสิบห้า
เปอร์เซ็นต์ของบุคคลที่ได้คะแนนสูง
บนมาตราส่วนความผูกพันที่ Baseline
ควบคุมความดันโลหิตได้ 42 เดือน เทียบกับ 47% ของผู้ให้คะแนน
ปานกลางหรือต่ำตามลำดับ (รูปที่ 1) อื่น ๆ
คำ, ใน
มีการตั้งข้อสังเกตถึงการควบคุมความดันโลหิต
รายงานตนเองได้คะแนนยาต่ำ
ระดับการปฏิบัติตามตั้งแต่ 6 เดือนถึง 42 เดือน
สําหรับบุคคลที่มีคะแนนสูง สังเกตได้ว่าเพิ่มขึ้น 21 เปอร์เซ็นต์ A.
การตรวจสอบการจับคู่ระหว่างกลุ่มโดยใช้ฟังก์ชัน diastolic
ใช้ความดันโลหิตเป็นเกณฑ์ยังแสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t
=6.43； P＜0.01）
ความสัมพันธ์ระหว่างการรายงานตนเอง
ขนาดยาและเครื่องวัดความดันโลหิตใช้ค่าสัมประสิทธิ์การตัดสินใจ (R2) สัมประสิทธิ์นี้คือ
นอกจากนี้ยังพบว่ามีนัยสำคัญ (R2 = 0.33; P

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เจ็ดสิบห้า
เปอร์เซ็นต์ของคนที่ทําคะแนนสูง
ในระดับการปฏิบัติตามพื้นฐาน
ความดันโลหิตถูกควบคุมเมื่ออายุ 42 เดือน เมื่อเทียบกับคะแนนเพียง 47%
ปานกลางหรือต่ํา(รูปที่1 ) ในแง่มุมอื่นๆ
คําพูดเพิ่มขึ้น5เปอร์เซ็นต์
บันทึกการควบคุมความดันโลหิตของผู้คน
คะแนนยาที่รายงานด้วยตัวเองต่ํา
ระดับการปฏิบัติตามข้อกําหนดระหว่าง6ถึง42เดือน
และสําหรับคนที่ได้คะแนนสูง มีการสังเกตเห็นการเพิ่มขึ้น 21 เปอร์เซ็นต์. a
ใช้ความดันdiastolicสําหรับการทดสอบการจับคู่tระหว่างกลุ่ม
ความดันโลหิตเป็นมาตรฐานยังแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ( t
= 6.43; p <0. 01). ประเมินพลังของ...
ความสัมพันธ์ที่รายงานตัวเอง
การวัดระดับยาและการวัดความดันโลหิตโดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์การตัดสินใจr 2 ค่าสัมประสิทธิ์นี้คือ
นอกจากนี้ยังพบว่ามีความสําคัญ( r2=0.33; p