he first Tacoma Narrows Bridge open

he first Tacoma Narrows Bridge opened to traffic on July 1, 1940. Its main span collapsed into the Tacoma Narrows four months later on November 7, 1940, at 11:00 AM (Pacific time) as a result of aeroelastic flutter caused by a 42 mph (68 km/h) wind. The bridge collapse had lasting effects on science and engineering. In many undergraduate physics texts the event is presented as an example of elementary forced resonance with the wind providing an external periodic frequency that matched the natural structural frequency, even though the real cause of the bridge's failure was aeroelastic flutter. A contributing factor was its solid sides, not allowing wind to pass through the bridge's deck. Thus its design allowed the bridge to catch the wind and sway, which ultimately took it down.[2] Its failure also boosted research in the field of bridge aerodynamics/aeroelastics, fields which have influenced the designs of all the world's great long-span bridges built since 1940.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สะพาน Narrows นเทิลทาโคมาแรกเขาเปิดการจราจรบน 1 กรกฎาคม ๒๔๘๓ ช่วงของหลักยุบเข้า Narrows นเทิลทาโคมาที่ในภายหลังสี่เดือน 7 พฤศจิกายน ๒๔๘๓ เวลา 11:00 น. (เวลาแปซิฟิก) จาก aeroelastic บินว่อนเกิดจากลมความเร็ว 42 (68 km/h) การพังทลายของสะพานมีผลยั่งยืนวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม ในข้อฟิสิกส์ปริญญาตรีหลาย เหตุการณ์นำเสนอเป็นตัวอย่างของการสั่นพ้องบังคับระดับประถมศึกษา ด้วยลมให้มีความถี่เป็นครั้งคราวที่ภายนอกที่ตรงกับความถี่ธรรมชาติโครงสร้าง แม้ว่าสาเหตุที่แท้จริงของความล้มเหลวของสะพานมีกระพือ aeroelastic มีปัจจัยด้านความทึบ ไม่ให้ลมผ่านดาดฟ้าสะพานได้ ดังนั้น การออกแบบได้สะพานไปจับลมและกทาง ที่สุด เอาลง[2] ความล้มเหลวเพิ่มขึ้นยังวิจัยด้านสะพาน aerodynamics/aeroelastics เขตซึ่งได้รับอิทธิพลการออกแบบทั้งหมดของโลกสะพานช่วงยาวดีสร้างพ.ศ. ๒๔๘๓

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ครั้งแรกที่เขาสะพาน Tacoma Narrows เปิดการจราจรในวันที่ 1 กรกฏาคม 1940 ช่วงหลักของมันทรุดลงไปในช่องแคบทาโคมาสี่เดือนต่อมาเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 1940 เวลา 11:00 (เวลาแปซิฟิก) เป็นผลจากการกระพือ aeroelastic เกิดจาก 42 ไมล์ต่อชั่วโมง (68 กิโลเมตร / ชั่วโมง) ลม สะพานพังได้ยาวนานผลกระทบต่อวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม ในหลายตำราฟิสิกส์ระดับปริญญาตรีกรณีที่จะนำเสนอเป็นตัวอย่างของการกำทอนบังคับประถมกับลมให้ความถี่ระยะภายนอกที่ตรงกับความถี่ธรรมชาติของโครงสร้างแม้ว่าสาเหตุที่แท้จริงของความล้มเหลวของสะพานเป็นกระพือ aeroelastic ปัจจัยด้านข้างเป็นของแข็งไม่ให้ลมผ่านดาดฟ้าของสะพาน ดังนั้นการออกแบบที่ได้รับอนุญาตให้สะพานที่จะจับลมและพลิ้วไหวซึ่งในที่สุดเอามันลง. [2] ความล้มเหลวมันยังได้แรงหนุนวิจัยในสาขาของอากาศพลศาสตร์สะพาน / aeroelastics เขตข้อมูลที่มีอิทธิพลต่อการออกแบบของประชากรโลกที่ดีระยะยาวช่วง สะพานที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1940

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พระองค์แรกที่สะพานแคบ Tacoma เปิดการจราจรเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. ช่วงหลักของการล้มลงใน Tacoma Narrows สี่เดือนต่อมา ในวันที่ 7 พ.ย. 1940 , เวลา 11.00 น. ( เวลาแปซิฟิก ) เป็นผลของการยืดหยุ่นได้พลิ้วเกิดจาก 42 ไมล์ต่อชั่วโมง ( 68 km / h ) ลม สะพานยุบได้ผลถาวรในวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมในระดับปริญญาตรีฟิสิกส์หลายข้อความเหตุการณ์ที่นำเสนอเป็นตัวอย่างของประถมบังคับเรโซแนนซ์กับลมให้ภายนอกเป็นระยะ ความถี่ ที่ตรงกับความถี่ธรรมชาติของโครงสร้าง แม้ว่าสาเหตุที่แท้จริงของความล้มเหลวของสะพานคือยืดหยุ่นได้พลิ้ว เป็นปัจจัย คือ ด้านของของแข็งไม่อนุญาตให้ลมผ่านสะพานดาดฟ้าดังนั้นการออกแบบอนุญาตสะพานจับลม และพลิ้วไหว ซึ่งในที่สุดก็ลง [ 2 ] ความล้มเหลวของมันยังประกอบการวิจัยในด้าน aeroelastics อากาศพลศาสตร์ / สะพาน เขตซึ่งได้รับอิทธิพลการออกแบบของทั้งหมดของโลกที่ยิ่งใหญ่สะพานช่วงยาว สร้างขึ้นตั้งแต่ปี