Mystery Ulfberht Viking sword has a

Mystery Ulfberht Viking sword has archaeologists stumped
NEWSJul 18, 2015
Ulfberht [Via]


A mystery sword made by the Vikings and engraved with the word Ulfberht has stumped archaeologists. The sword is forged in such a way that it looks to have been made by technologies that weren’t available until 800 years after the Viking era.

Around 170 of the swords have been found, all of which date from between 800AD to 1000AD, but the technology that would have forged them is from the Industrial Revolution of the 1800s and 1900s.



A television programme has looked into the mystery in more detail called, ‘Secrets of the Viking Sword’. Its researchers say that to forge the iron which the swords are made of, the ore needs to be heated to around 3000 degrees (F). It then liquefies and the impurities are removed. It is then mixed with carbon to strengthen the iron. However medieval technologies, which are what the Vikings would have been using, would not have been able to heat any metal or substance that high a temperature. In those days, the impurities would have been removed by hammering them out of the iron.

In contradiction to this, the Ulfberht contains almost no impurities at all and it has thrice the amount of carbon in it than any other metals that are known to have existed at the time. The metal the swords are made of is known as crucible steel.

Furnaces that could heat metals and substances to extremely high temperatures what not invented until the industrial revolution when the tools for heating iron to these temperatures were also developed.


A blacksmith has consulted with the television programme’s researchers and has said that to make a sword like the Ulfberht Is highly complex and difficult. The blacksmith is the only person who has the skills and tools available to try to reproduce the metal of the Ulfberht. He believes that whoever made the sword during the Viking era would have surely been thought to possess magic powers since the metal was and still is so special and unique, Ancient Origins reports.

The sword bends but doesn’t break, it stays razorsharp, and is very light weight, and so to soldiers it would have been thought of as almost supernatural.

The blacksmith spent many days working to try to recreate the Ulfberht using medieval technology, and finally did produce a similar metal with great skill and hard work. Researchers now believe it is possible that the knowledge to make the swords originated in the Middle East and that trade routes between there and Europe would have spread the knowledge and technologies. When those trade routes eventually closed, due to lack of use, so too did the Ulfberht ceased to continue being made.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลึกลับดาบ Ulfberht ไวกิ้งมีนักโบราณคดีนิ่งงัน
NEWSJul 18, 2015
Ulfberht [ผ่าน] ดาบลึกลับที่ทำโดยพวกไวกิ้งและสลักคำ Ulfberht ได้นิ่งงันนักโบราณคดี ดาบปลอมแปลงในลักษณะที่ว่ามันมีลักษณะที่จะได้รับการทำโดยเทคโนโลยีที่ไม่สามารถใช้ได้จนถึง 800 ปีหลังจากยุคไวกิ้ง. รอบ 170 ดาบที่ได้รับการค้นพบซึ่งทั้งหมดระหว่างวันที่จากไป 800AD 1000AD แต่ เทคโนโลยีที่จะมีการปลอมแปลงพวกเขามาจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมของปี 1800 และปี 1900. รายการโทรทัศน์ที่มีการมองเข้าไปในความลึกลับในรายละเอียดเพิ่มเติมที่เรียกว่า 'ความลับของดาบไวกิ้ง' นักวิจัยบอกว่าการปลอมเหล็กซึ่งดาบที่ทำจากแร่จะต้องมีความร้อนประมาณ 3,000 องศา (F) จากนั้นก็ liquefies และสิ่งสกปรกจะถูกลบออก มันถูกผสมกับคาร์บอนเพื่อเสริมสร้างเหล็ก อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีในยุคกลางซึ่งเป็นสิ่งที่พวกไวกิ้งจะได้รับใช้จะไม่ได้รับสามารถที่จะให้ความร้อนโลหะหรือสารที่อุณหภูมิสูง ในวันนั้นสิ่งสกปรกจะถูกลบออกโดยตอกพวกเขาออกจากเหล็ก. ในความขัดแย้งนี้ Ulfberht มีสิ่งสกปรกเกือบจะไม่มีเลยและก็มีสามปริมาณของคาร์บอนไดออกไซด์ในกว่าโลหะอื่น ๆ ที่เป็นที่รู้จักกันที่จะมี อยู่ในเวลา โลหะดาบข้อเท็จจริงเป็นที่รู้จักกันเป็นเบ้าหลอมเหล็ก. เตาที่สามารถให้ความร้อนและสารโลหะที่มีอุณหภูมิสูงมากสิ่งที่ไม่ได้คิดค้นจนการปฏิวัติอุตสาหกรรมเมื่อเครื่องมือสำหรับเหล็กร้อนที่มีอุณหภูมิเหล่านี้ยังได้รับการพัฒนา. ช่างตีเหล็กได้ปรึกษากับ นักวิจัยรายการโทรทัศน์และได้กล่าวว่าการที่จะทำให้ดาบเหมือน Ulfberht เป็นอย่างสูงที่ซับซ้อนและยาก ช่างตีเหล็กเป็นเพียงคนเดียวที่มีทักษะและเครื่องมือที่มีการพยายามที่จะทำซ้ำโลหะของ Ulfberht เขาเชื่อว่าใครก็ตามที่ทำดาบในช่วงยุคไวกิ้งจะได้รับก็คิดว่าจะมีอำนาจเวทมนตร์ตั้งแต่โลหะและยังคงเป็นพิเศษและไม่ซ้ำกันรายงานโบราณต้นกำเนิด. ดาบโค้ง แต่ไม่ได้ทำลายมันอยู่ razorsharp และ มีน้ำหนักเบามากและเพื่อให้ทหารก็จะได้รับการคิดว่าเป็นธรรมชาติเกือบ. ช่างตีเหล็กใช้เวลาหลายวันทำการเพื่อพยายามที่จะสร้าง Ulfberht ใช้เทคโนโลยีในยุคกลางและในที่สุดก็ไม่ผลิตโลหะที่คล้ายกันด้วยทักษะที่ดีและการทำงานหนัก นักวิจัยเชื่อว่ามันเป็นไปได้ว่ามีความรู้ที่จะทำให้ดาบที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางและเส้นทางการค้าระหว่างมีและยุโรปจะมีการแพร่กระจายความรู้และเทคโนโลยี เมื่อเส้นทางการค้าเหล่านั้นในที่สุดก็ปิดเนื่องจากการขาดการใช้งานดังนั้นก็ไม่ Ulfberht หยุดที่จะดำเนินการทำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ลึกลับ ulfberht ไวกิ้งดาบมีนักโบราณคดีนิ่งงัน
18 newsjul 2015
[ ]


ulfberht ผ่านดาบลึกลับโดยไวกิ้งและตราตรึงกับคำ ulfberht ได้นิ่งงัน นักโบราณคดี . ดาบปลอมในลักษณะดังกล่าวว่า มันได้ถูกทำโดยเทคโนโลยีที่ไม่สามารถใช้ได้จนถึง 800 ปีหลังยุคไวกิ้ง .

ประมาณ 170 ของดาบที่ได้รับการพบซึ่งทั้งหมดจากวันที่ ระหว่าง 800ad เพื่อ 1000ad แต่เทคโนโลยีที่ต้องปลอมเป็นจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษ และ อังกฤษ



เป็นรายการโทรทัศน์ได้มองเข้าไปในความลึกลับในรายละเอียดเพิ่มเติมเรียกว่า ' ความลับของไวกิ้งดาบ ' นักวิจัยกล่าวว่า การปลอมซึ่งดาบที่ทำจากเหล็ก , แร่ต้องอุ่นประมาณ 3 องศา ( F )มันก็ liquefies และสิ่งสกปรกจะถูกลบออก มันผสมกับคาร์บอนเสริมเหล็ก อย่างไรก็ตามเทคโนโลยียุคกลาง ซึ่งเป็นสิ่งที่ ไวกิ้ง จะได้ใช้ คงไม่สามารถ ความร้อนโลหะหรือสารที่มีอุณหภูมิสูง . ในวันเหล่านั้น สิ่งสกปรกจะถูกลบออกโดยการเคาะพวกเขาออกจากเหล็ก

ในความขัดแย้งนี้การ ulfberht มีเกือบไม่มีสิ่งเจือปนที่ทั้งหมดและมันได้สามครั้งปริมาณของคาร์บอนในมันกว่าโลหะอื่น ๆที่ทราบว่ามีอยู่ในเวลานั้น ดาบทำจากโลหะที่เป็นที่รู้จักกันเป็นเบ้าหลอมเหล็ก

เตาที่ความร้อนโลหะและสารที่จะสูงมากอุณหภูมิที่ไม่แต่งจนกว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมเมื่อเครื่องมือเหล็กร้อน อุณหภูมิเหล่านี้ยังพัฒนา


เป็นช่างตีเหล็ก ได้ปรึกษากับนักวิจัยรายการโทรทัศน์และได้กล่าวว่า เพื่อให้ดาบเหมือน ulfberht เป็นอย่างมากที่ซับซ้อนและยากมากช่างตีเหล็กเป็นคนที่มีทักษะและเครื่องมือที่พร้อมใช้งานเพื่อพยายามที่จะทำซ้ำโลหะของ ulfberht . เขาเชื่อว่า คนที่ทำดาบในยุคไวกิ้งจะต้องถูกคิดครอบครองพลังวิเศษตั้งแต่โลหะที่ถูกและยังคงเป็นคนพิเศษและรายงานกำเนิดโบราณ

ดาบโค้งแต่ไม่แตก มันอยู่ razorsharp ,และมีน้ำหนักเบามาก และทหารก็จะได้รับคิดเป็นเกือบเหนือธรรมชาติ

ช่างตีเหล็กใช้เวลาหลายวันเพื่อพยายามที่จะสร้าง ulfberht โดยใช้เทคโนโลยีในยุคกลาง และสุดท้ายได้ผลิตโลหะคล้ายคลึงกับทักษะที่ดีและทำงานหนักนักวิจัยเชื่อว่ามันเป็นไปได้ที่การทำดาบที่มาในตะวันออกกลางและเส้นทางการค้าระหว่างมันและยุโรปจะกระจายความรู้ และเทคโนโลยี เมื่อผู้ค้าในที่สุดปิดเส้นทาง เนื่องจากการขาดการใช้ ดังนั้น เกินไป ไม่ได้ ulfberht หยุดที่จะยังคงถูกทำ