When balanced, the Wheatstone bridg

When balanced, the Wheatstone bridge can be analysed simply as two series strings in parallel. In our tutorial about Resistors in Series, we saw that each resistor within the series chain produces an IR drop, or voltage drop across itself as a consequence of the current flowing through it as defined by Ohms Law. Consider the series circuit below.As the two resistors are in series, the same current ( i ) flows through both of them. Therefore the current flowing through these two resistors in series is given as: V/RT.The voltage at point C, which is also the voltage drop across the lower resistor, R2 is calculated as:Then we can see that the source voltage VS is divided among the two series resistors in direct proportion to their resistances as VR1 = 4V and VR2 = 8V. This is the principle of voltage division, producing what is commonly called a potential divider circuit or voltage divider network.Now if we add another series resistor circuit using the same resistor values in parallel with the first we would have the following circuit.As the second series circuit has the same resistive values of the first, the voltage at point D, which is also the voltage drop across resistor, R4 will be the same at 8 volts, with respect to zero (battery negative), as the voltage is common and the two resistive networks are the same.But something else equally as important is that the voltage difference between point C and point D will be zero volts as both points are at the same value of 8 volts as: C = D = 8 volts, then the voltage difference is: 0 volts

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อสมดุลแล้ว สะพานวีตสโตนสามารถวิเคราะห์ได้ง่าย ๆ โดยทำเป็นชุดสายสองชุดขนานกัน ในบทช่วยสอนของเราเกี่ยวกับตัวต้านทานในอนุกรม เราพบว่าตัวต้านทานแต่ละตัวในห่วงโซ่อนุกรมสร้างการตกของ IR หรือแรงดันตกคร่อมตัวเองอันเป็นผลมาจากกระแสที่ไหลผ่านตามที่กำหนดโดยกฎของโอห์ม พิจารณาวงจรอนุกรมด้านล่าง เนื่องจากตัวต้านทานสองตัวต่ออนุกรมกัน กระแส (i) เท่ากันจะไหลผ่านทั้งสองตัว ดังนั้นกระแสที่ไหลผ่านตัวต้านทานสองตัวนี้ต่ออนุกรมกันจะได้รับดังนี้: V/RT แรงดันไฟฟ้าที่จุด C ซึ่งเป็นแรงดันตกคร่อมตัวต้านทานตัวล่างเช่นกัน R2 คำนวณดังนี้: จากนั้นเราจะเห็นว่าแรงดันไฟฟ้าต้นทาง VS แบ่งระหว่างตัวต้านทานซีรีย์ทั้งสองในสัดส่วนโดยตรงกับความต้านทานของพวกมันดังนี้ VR1 = 4V และ VR2 = 8V. นี่คือหลักการของการแบ่งแรงดันไฟฟ้า ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกกันทั่วไปว่าวงจรตัวแบ่งศักย์หรือเครือข่ายตัวแบ่งแรงดันไฟฟ้า ทีนี้ถ้าเราเพิ่มวงจรตัวต้านทานซีรีย์อื่นโดยใช้ค่าตัวต้านทานเดียวกันขนานกับวงจรแรกเราจะได้วงจรต่อไปนี้ เนื่องจากวงจรอนุกรมที่สองมีค่าความต้านทานเท่ากันกับวงจรแรก แรงดันไฟฟ้าที่จุด D ซึ่งเป็นแรงดันไฟฟ้าตกคร่อมตัวต้านทาน R4 จะเท่ากันที่ 8 โวลต์ เทียบกับศูนย์ (ลบแบตเตอรี่) เนื่องจากแรงดันไฟฟ้า เป็นเรื่องธรรมดาและเครือข่ายตัวต้านทานทั้งสองก็เหมือนกัน แต่อย่างอื่นที่สำคัญพอๆ กันคือความต่างของแรงดันไฟฟ้าระหว่างจุด C และจุด D จะเป็นศูนย์โวลต์ เนื่องจากทั้งสองจุดมีค่าเท่ากันคือ 8 โวลต์ ดังนี้: C = D = 8 โวลต์ ดังนั้นความต่างศักย์ไฟฟ้าคือ 0 โวลต์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อสมดุลสะพาน Whitstone สามารถวิเคราะห์เป็นชุดขนานสองชุด ในบทช่วยสอนของเราเกี่ยวกับตัวต้านทานแบบอนุกรมเราจะเห็นว่าตัวต้านทานแต่ละตัวในห่วงโซ่อนุกรมสร้าง IR ลดลงหรือตามที่กำหนดไว้โดยกฎหมายของโอห์มตัวต้านทานเองสร้างแรงดันไฟฟ้าลดลงเนื่องจากกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวต้านทาน พิจารณาวงจรอนุกรมด้านล่าง
เนื่องจากตัวต้านทานสองตัวอยู่ในชุดเดียวกันกระแสไฟฟ้า (i) จะไหลผ่านตัวต้านทานทั้งสองนี้ ดังนั้นกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวต้านทานสองชุดคือ V / RT
แรงดันไฟฟ้าที่จุด C ยังเป็นแรงดันไฟฟ้าตกที่ปลายทั้งสองของตัวต้านทานที่ต่ำกว่า R2 คำนวณได้ดังนี้:
จากนั้นเราจะเห็นว่าแรงดันไฟฟ้าขั้วต้นทาง VS แยกแรงดันไฟฟ้าระหว่างตัวต้านทานสองชุดในลักษณะที่เป็นสัดส่วนโดยตรงกับความต้านทานของพวกเขานั่นคือ VR1 = 4V และ VR2 = 8V นี่คือหลักการแยกแรงดัน (splitting circuit) ซึ่งสร้างสิ่งที่เรียกกันทั่วไปว่า วงจรแยกแรงดัน (splitting circuit) หรือ เครือข่ายแยกแรงดัน (splitting network)
ตอนนี้ถ้าเราเพิ่มวงจรตัวต้านทานแบบอนุกรมอื่นให้ใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อสมดุลแล้วสะพานwheatstoneสามารถวิเคราะห์ได้อย่างง่ายดายเป็นสะพานคู่ขนานสองสาย ในบทแนะนําเกี่ยวกับความต้านทานแบบอนุกรมเราจะเห็นว่าความต้านทานแต่ละตัวในห่วงโซ่จะสร้างแรงดันไฟฟ้าที่ลดลงซึ่งเป็นแรงดันไฟฟ้าที่เกิดขึ้นเมื่อกระแสไหลผ่านความต้านทานตามที่กําหนดโดยกฎหมายโอห์ม พิจารณาวงจรอนุกรมด้านล่าง

เนื่องจากทั้งสองตัวต้านทานถูกเชื่อมต่อกันกระแสเดียวกัน( I )ไหลผ่านทั้งสองตัวต้านทาน ดังนั้นกระแสที่ไหลผ่านทั้งสองตัวต้านทานชุดคือ: v/RT

แรงดันไฟฟ้าของจุดcเป็นแรงดันไฟฟ้าที่ลดลงในความต้านทานต่ํากว่าr 2สูตรคํานวณดังนี้:

เราสามารถเห็นได้ว่าการกระจายแรงดันไฟฟ้าของแหล่งที่มาVSระหว่างความต้านทานสองชุดเป็นสัดส่วนกับความต้านทานVR1 = 4 vและVR2 = 8 v นี่คือหลักการแบ่งแรงดันซึ่งมักเรียกว่าวงจรแบ่งแรงดันไฟฟ้าหรือเครือข่ายแบ่งแรงดันไฟฟ้า

ตอนนี้ถ้าเราเพิ่มวงจรความต้านทานชุดอื่นและใช้ค่าความต้านทานเดียวกันกับชุดแรกเราจะมีวงจรต่อไปนี้

เนื่องจากวงจรชุดที่สองมีค่าความต้านทานเช่นเดียวกับวงจรชุดแรกคือแรงดันไฟฟ้าของจุดd (แรงดันไฟฟ้าที่ลดลงบนตัวต้านทานr 4 )วงจรชุดที่สองจะเหมือนกัน8โวลต์เมื่อเทียบกับศูนย์(แบตเตอรี่ลบ)เนื่องจากแรงดันไฟฟ้าเป็นแบบสาธารณะและทั้งสองเครือข่ายความต้านทานจะเหมือนกัน

แต่ที่สําคัญเท่าเทียมกันความแตกต่างของแรงดันไฟฟ้าระหว่างจุดcและdจะเป็นศูนย์โวลต์เนื่องจากทั้งสองจุดมีค่า8โวลต์เดียวกัน: c = d = 8โวลต์ความแตกต่างของแรงดันไฟฟ้าคือ0โวลต์