เรื่องแม่งยาว.......กุก็ไปวัดน้ำตาลปกติใช่ป่ะวัดเสร็จ...ก็มานั่งคุยกับ การแปล - เรื่องแม่งยาว.......กุก็ไปวัดน้ำตาลปกติใช่ป่ะวัดเสร็จ...ก็มานั่งคุยกับ ไทย วิธีการพูด

เรื่องแม่งยาว.......กุก็ไปวัดน้ำตาล

เรื่องแม่งยาว.......
กุก็ไปวัดน้ำตาลปกติใช่ป่ะวัดเสร็จ...ก็มานั่งคุยกับลุงหมอ.. ลุงหมอก็บอกว่าน้ำตาลต่ำกว่าคราวที่แล้ว...แล้วลุงหมอก็ถามกุว่ารู้มั้ยว่าทำไมคนเราถึงต้องมีน้ำตาลในเลือด กุก็บอกว่าไม่รู้ ลุงหมอก็บอกว่า น้ำตาลมีไว้รักษาสมดุลในร่างกาย...ในร่างกายเรามี...สารตัวนึงที่ต้องใช้น้ำตาลในการผลิต..นั่นคือสารสร้างความสุข....สารเซโรโทนินหรือสารสร้างความสุข จะต่ำลงเมื่อเราเครียดและจะยิ่งต่ำลงถ้าน้ำตาลในร่างกายน้อย สุดท้ายแล้วถ้าเซโรโทนินในร่างกายผิดปกติจะทำให้เกิดอาการซึมเศร้า... แล้วลุงหมอก็ถามจริงมั้ย
กุก็บอกว่าไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็รู้สึกไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน... ลุงหมอก็บอกว่า ถ้าไม่รู้ก็เดี๋ยวลองไปคุยกับหมอจิตดูจะได้รู้นะ... แล้วกุก็ไปตามที่ลุงหมอบอก ไปแผนกจิต ก็แบบไปนั่งคุบกับหมอผู้หญิงคนนึง แบบก็ยังดูเด็กอยู่เลย5555
หมอก็ถามว่าน้ำตาลน้อย...ลดความอ้วนเหรอ
กุก็บอกว่าใช่ หมอก็ถามว่าอ้าวทำไมถึงลดล่ะ ลดตั้งแต่เดือนไหน อะไรยังไง (หมอก็แบบใจดีนะ ถามว่าลดวิธีไหนหมออยากลดเหมือนกัน) กุก็บอกไป... ก็แบบเหมือนไปนั่งคุยกับเพื่อนใหม่ เรื่องเรียนที่ไหน บ้านอยู่แถวไหน ครอบครัวเป็นยัง เพื่อนมีกี่คน อาหารที่ชอบ ชอบไปไหน เวลาว่างทำอะไร คิดยังไงกับคนป่วยทางจิต คิดยังไงกับเรื่องสงคราม ปัญหาสิทธิมนุษย์ชน แล้วก็เรื่องพี่สิงห์(คุยนานมาก) 555 ทีนี้มันก็มาพีคตรงนี้แหล่ะ หมอถามกุว่า คิดว่าตัวเองเป็นยังไง กุก็บอกไปๆๆๆ แล้วหมอก็จดอะไรไม่รู้ในกระดาษประมาน15นาที แล้วก็เงยหน้ามาถามอีกว่า มีแฟนรึยัง เล่าให้หมอฟังหน่อย
เอาความจริงนะ หมออยากรู้ว่าเดี๋ยวนี้เค้าจีบกันยังไง .... กุก็บอกว่าหมอจะให้เล่าถึงคนไหนล่ะมีหลายคน 5555 หมอก็หัวเราะแล้วก็บอกว่าเล่าทุกคน กุก็ว่าแฟนมีคนเดียวแต่ที่คุยๆก็มีหลายคนนะ 5555หมอก็ว่าเอาทุกคนที่คุย กุก็เล่าตั้งแต่รักแรกของกุจนมาถึงเด็กจุฬาคนล่าสุด.....
กุเล่าตั้งหลายคนแต่หมอเสือกถามถึงเจ...= =
หมอก็ถามว่าเจนี่เรียนที่ไหน อายุเท่าไหร่เจอกันยังไง ให้กุเล่าเรื่องเจให้ฟัง....กุก็แบบ...แม่งเฮิร์ตอ่ะมึง...แต่ก็ต้องเล่าแล้วต้องละเอียดด้วยนะห่า พอเล่าจบหมอก็นั่งด่าเจกับกุ 555555 หลังจากนั้นหมอก็กลับมาถามใหม่ ถามว่าทำไมตอนนั้นที่รู้ว่าเขายังไม่ลืมแฟนเก่า ถึงไม่คิดจะรีบออกมา...กุก็บอกว่า...ตอนนั้นกุคิดว่า...จะลองสู้ซักตั้งแล้วก็ตอนนั้นคิดว่า ปล่อยไปไม่ได้จริงๆ ตอนนั้นเจเองก็ดูน่าเป็นห่วง ไม่อยากให้เค้าอ่ะต้องอยู่คนเดียว ถึงเขาไม่รักเราก็ไม่เป็นไร แค่ได้เป็นฝ่ายให้ก็พอใจแล้ว... ทีนี้หมอก็ถามว่าตอนนี้ยังคุยกันอีกรึเปล่า กุก็บอกว่าคุย... หมอก็ว่าทำไมถึงยังคุยพอกุบอกเหตุผล หมอก็ถามถึงเรื่องนิยามความรักกับกุ กุก็บอกว่าสำหรับกุมันคงหมายถึง
การเสียสละ การยอมรับสิ่งที่คนคนนึงเป็น การไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆและการมีความสุขเมื่อคนที่เรารักมีความสุข.......( คือแบบตลอดที่เล่าเรื่องเจ กุแบบอดทนมากมึงจะร้องไห้อยู่แล้ว... )
ทีนี้บรรยากาศในห้องก็เปลื่ยนไป หมอก็พูดขึ้นมาคำนึงคือ ....'เหนื่อยมั้ย' กุนี่น้ำตาปริ่ม กุก็บอกว่าเหนื่อย หมอก็ถามว่าแล้วช่วงนี้เป็นยังไง รู้สึกอะไร คิดอะไร กุก็หบอกๆๆ แล้วหมอก็บอกว่า ร้องไห้เลยไม่ต้องอดทน... กุนี่น้ำตาแตกเลย.......แล้วหมอก็หยิบกระดาษที่หมอจดให้กุดูเป็นเหมือนมายแมพที่โยงนู่นนี่ไปมา แต่คิดว่าน่าจะเรื่องกุแหล่ะ หมอบอกกุว่าที่เป็นอยู่ยังน้อย โชคดีที่กุเป็นคนมองโลกในแง่ดี ทัศนะคติดี มีเหตุผล แต่ข้อเสียเป็นคนขัดแย้งในตัวเองทำให้สับสนในตัวเองว่าจะต้องอะไร ควรทำอะไร บางครั้งก็ทำให้ลืมเหตุผลที่ควรจะทำไปหมดและหลายครั้งก็ทำให้ตัวเองมักจะไม่ได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในตัวเอง ....แล้วหมอก็ถามว่าจริงมั้ย กุก็บอกว่าจริง... หมอก็ยังบอกกุอีกว่า "มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ มนุษย์จึงต้องอยู่ร่วมกันเป็นสังคม... ไม่มีมนุษย์คนไหนที่เข้มแข็งหรอก มีแต่มนุษย์ที่ทำเป็นเข้มแข็ง...คนที่ทำเป็นเข้มแข็งเช่นคุณจึงมีโอกาสสูงกว่าคนประเภทอื่นที่จะเป็นโรคซึมเศร้า เพราะไม่แสดงออก ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าอ่อนแอถูกมั้ย ''
กุ:ถูกค่ะ
หมอ:โรคนี้มันไม่ได้เกิดเพราะเราป่วยทางจิตหรือมีปัญหาทางจิต...มันเกิดเพราะร่างกายเราป่วยอย่างเคสนี้ เห็นได้ชัดเลย เพราะว่าสารสร้างความสุขมันลดลง ทำให้สมองของเราเกิดกระบวนการคิดที่ผิดปกติไปจาก จากเมื่อก่อนมีเหตุผล คิดได้ ผ่อนคลายได้ ก็เปลื่ยนเป็น ไม่มีเหตุผลมองไม่เห็นทางออก ทำให้คนไข้มีอาการหดหู่ซึมเศร้ามากขึ้น คุณลุงหมอเลยส่งเรามาที่นี่ เพราะเราบอกว่า รู้สึกเหนื่อย เพลีย อึดอัดหนักๆในใจ เบื่อๆ นอนไม่หลับ อาการเหล่านี้เป็นอาการเข้าข่ายของคนมีภาวซึมเศร้า มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราต้องพบหมอ ถึงแม้ว่าอาการจะไม่หนัก แต่ถ้าปล่อยไปมากกว่านี้มันจะยิ่งรักษายาก
กุ:......ค่ะ ToT
หมอ:คุณเป็นผู้หญิงที่ดีนะ คุณเป็นคนดีมากเลย แต่ถึงอย่างนั้นความดีก็ต้องเลือกใช้ฉะเพาะคนเหมือนกัน......เพราะฉะนั้นเรามาดูซิว่าจะทำอะไรกับไอความซึมเศร้านี้ดี

หมอก็เอากระดาษมาอีกแผ่น แล้วก็เขียน C B T ลงไป แล้วก็บอกว่า
C = cognitive ความคิด ความรู้สึก
B = behavior พฤติกรรม
T = Therapy

แล้วหมอก็ยกตัวอย่างเหตุการณเหตุการณนึงขึ้นมาแล้วก็ถามว่าถ้าเป็นกุ กุจะรู้สึกยังไง คิดยังไง
กุก็บอกว่าก็คงรำคาญ หงุดหงิด เบื่อๆขี้เกียจรอ ง่วงอยากนอน แล้วก็คงวนกลับมาเบื่อ รำคาญ โมโห หงุดหงิด คิดว่าเมื่อไร่จะมา บลาๆ
แล้วหมอก็ถามอีกว่าแล้วระหว่างนั้นจะทำอะไร
กุก็บอกว่าก็นั่งรอ ฟังเพลง เล่นมือถือ
หมอก็บอกให้กุดูว่าความคิดกับพฤติกรรมมีอันไหนที่มันสอดคล้องกันบ้าง....
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
เรื่องแม่งยาว...กุก็ไปวัดน้ำตาลปกติใช่ป่ะวัดเสร็จ... ก็มานั่งคุยกับลุงหมอ... ลุงหมอก็บอกว่าน้ำตาลต่ำกว่าคราวที่แล้ว... แล้วลุงหมอก็ถามกุว่ารู้มั้ยว่าทำไมคนเราถึงต้องมีน้ำตาลในเลือดกุก็บอกว่าไม่รู้ลุงหมอก็บอกว่าน้ำตาลมีไว้รักษาสมดุลในร่างกาย... ในร่างกายเรามี... สารตัวนึงที่ต้องใช้น้ำตาลในการผลิต... นั่นคือสารสร้างความสุข... สารเซโรโทนินหรือสารสร้างความสุขจะต่ำลงเมื่อเราเครียดและจะยิ่งต่ำลงถ้าน้ำตาลในร่างกายน้อยสุดท้ายแล้วถ้าเซโรโทนินในร่างกายผิดปกติจะทำให้เกิดอาการซึมเศร้า... แล้วลุงหมอก็ถามจริงมั้ยกุก็บอกว่าไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็รู้สึกไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน... ลุงหมอก็บอกว่า ถ้าไม่รู้ก็เดี๋ยวลองไปคุยกับหมอจิตดูจะได้รู้นะ... แล้วกุก็ไปตามที่ลุงหมอบอก ไปแผนกจิต ก็แบบไปนั่งคุบกับหมอผู้หญิงคนนึง แบบก็ยังดูเด็กอยู่เลย5555 หมอก็ถามว่าน้ำตาลน้อย...ลดความอ้วนเหรอ กุก็บอกว่าใช่ หมอก็ถามว่าอ้าวทำไมถึงลดล่ะ ลดตั้งแต่เดือนไหน อะไรยังไง (หมอก็แบบใจดีนะ ถามว่าลดวิธีไหนหมออยากลดเหมือนกัน) กุก็บอกไป... ก็แบบเหมือนไปนั่งคุยกับเพื่อนใหม่ เรื่องเรียนที่ไหน บ้านอยู่แถวไหน ครอบครัวเป็นยัง เพื่อนมีกี่คน อาหารที่ชอบ ชอบไปไหน เวลาว่างทำอะไร คิดยังไงกับคนป่วยทางจิต คิดยังไงกับเรื่องสงคราม ปัญหาสิทธิมนุษย์ชน แล้วก็เรื่องพี่สิงห์(คุยนานมาก) 555 ทีนี้มันก็มาพีคตรงนี้แหล่ะ หมอถามกุว่า คิดว่าตัวเองเป็นยังไง กุก็บอกไปๆๆๆ แล้วหมอก็จดอะไรไม่รู้ในกระดาษประมาน15นาที แล้วก็เงยหน้ามาถามอีกว่า มีแฟนรึยัง เล่าให้หมอฟังหน่อยเอาความจริงนะ หมออยากรู้ว่าเดี๋ยวนี้เค้าจีบกันยังไง .... กุก็บอกว่าหมอจะให้เล่าถึงคนไหนล่ะมีหลายคน 5555 หมอก็หัวเราะแล้วก็บอกว่าเล่าทุกคน กุก็ว่าแฟนมีคนเดียวแต่ที่คุยๆก็มีหลายคนนะ 5555หมอก็ว่าเอาทุกคนที่คุย กุก็เล่าตั้งแต่รักแรกของกุจนมาถึงเด็กจุฬาคนล่าสุด..... กุเล่าตั้งหลายคนแต่หมอเสือกถามถึงเจ...= =หมอก็ถามว่าเจนี่เรียนที่ไหน อายุเท่าไหร่เจอกันยังไง ให้กุเล่าเรื่องเจให้ฟัง....กุก็แบบ...แม่งเฮิร์ตอ่ะมึง...แต่ก็ต้องเล่าแล้วต้องละเอียดด้วยนะห่า พอเล่าจบหมอก็นั่งด่าเจกับกุ 555555 หลังจากนั้นหมอก็กลับมาถามใหม่ ถามว่าทำไมตอนนั้นที่รู้ว่าเขายังไม่ลืมแฟนเก่า ถึงไม่คิดจะรีบออกมา...กุก็บอกว่า...ตอนนั้นกุคิดว่า...จะลองสู้ซักตั้งแล้วก็ตอนนั้นคิดว่า ปล่อยไปไม่ได้จริงๆ ตอนนั้นเจเองก็ดูน่าเป็นห่วง ไม่อยากให้เค้าอ่ะต้องอยู่คนเดียว ถึงเขาไม่รักเราก็ไม่เป็นไร แค่ได้เป็นฝ่ายให้ก็พอใจแล้ว... ทีนี้หมอก็ถามว่าตอนนี้ยังคุยกันอีกรึเปล่า กุก็บอกว่าคุย... หมอก็ว่าทำไมถึงยังคุยพอกุบอกเหตุผล หมอก็ถามถึงเรื่องนิยามความรักกับกุ กุก็บอกว่าสำหรับกุมันคงหมายถึงการเสียสละ การยอมรับสิ่งที่คนคนนึงเป็น การไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆและการมีความสุขเมื่อคนที่เรารักมีความสุข.......( คือแบบตลอดที่เล่าเรื่องเจ กุแบบอดทนมากมึงจะร้องไห้อยู่แล้ว... )ทีนี้บรรยากาศในห้องก็เปลื่ยนไป หมอก็พูดขึ้นมาคำนึงคือ ....'เหนื่อยมั้ย' กุนี่น้ำตาปริ่ม กุก็บอกว่าเหนื่อย หมอก็ถามว่าแล้วช่วงนี้เป็นยังไง รู้สึกอะไร คิดอะไร กุก็หบอกๆๆ แล้วหมอก็บอกว่า ร้องไห้เลยไม่ต้องอดทน... กุนี่น้ำตาแตกเลย.......แล้วหมอก็หยิบกระดาษที่หมอจดให้กุดูเป็นเหมือนมายแมพที่โยงนู่นนี่ไปมา แต่คิดว่าน่าจะเรื่องกุแหล่ะ หมอบอกกุว่าที่เป็นอยู่ยังน้อย โชคดีที่กุเป็นคนมองโลกในแง่ดี ทัศนะคติดี มีเหตุผล แต่ข้อเสียเป็นคนขัดแย้งในตัวเองทำให้สับสนในตัวเองว่าจะต้องอะไร ควรทำอะไร บางครั้งก็ทำให้ลืมเหตุผลที่ควรจะทำไปหมดและหลายครั้งก็ทำให้ตัวเองมักจะไม่ได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในตัวเอง ....แล้วหมอก็ถามว่าจริงมั้ย กุก็บอกว่าจริง... หมอก็ยังบอกกุอีกว่า "มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ มนุษย์จึงต้องอยู่ร่วมกันเป็นสังคม... ไม่มีมนุษย์คนไหนที่เข้มแข็งหรอก มีแต่มนุษย์ที่ทำเป็นเข้มแข็ง...คนที่ทำเป็นเข้มแข็งเช่นคุณจึงมีโอกาสสูงกว่าคนประเภทอื่นที่จะเป็นโรคซึมเศร้า เพราะไม่แสดงออก ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าอ่อนแอถูกมั้ย '' กุ:ถูกค่ะ
หมอ:โรคนี้มันไม่ได้เกิดเพราะเราป่วยทางจิตหรือมีปัญหาทางจิต...มันเกิดเพราะร่างกายเราป่วยอย่างเคสนี้ เห็นได้ชัดเลย เพราะว่าสารสร้างความสุขมันลดลง ทำให้สมองของเราเกิดกระบวนการคิดที่ผิดปกติไปจาก จากเมื่อก่อนมีเหตุผล คิดได้ ผ่อนคลายได้ ก็เปลื่ยนเป็น ไม่มีเหตุผลมองไม่เห็นทางออก ทำให้คนไข้มีอาการหดหู่ซึมเศร้ามากขึ้น คุณลุงหมอเลยส่งเรามาที่นี่ เพราะเราบอกว่า รู้สึกเหนื่อย เพลีย อึดอัดหนักๆในใจ เบื่อๆ นอนไม่หลับ อาการเหล่านี้เป็นอาการเข้าข่ายของคนมีภาวซึมเศร้า มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราต้องพบหมอ ถึงแม้ว่าอาการจะไม่หนัก แต่ถ้าปล่อยไปมากกว่านี้มันจะยิ่งรักษายาก
กุ:......ค่ะ ToT
หมอ:คุณเป็นผู้หญิงที่ดีนะ คุณเป็นคนดีมากเลย แต่ถึงอย่างนั้นความดีก็ต้องเลือกใช้ฉะเพาะคนเหมือนกัน......เพราะฉะนั้นเรามาดูซิว่าจะทำอะไรกับไอความซึมเศร้านี้ดี

หมอก็เอากระดาษมาอีกแผ่น แล้วก็เขียน C B T ลงไป แล้วก็บอกว่า
C = cognitive ความคิด ความรู้สึก
B = behavior พฤติกรรม
T = Therapy

แล้วหมอก็ยกตัวอย่างเหตุการณเหตุการณนึงขึ้นมาแล้วก็ถามว่าถ้าเป็นกุ กุจะรู้สึกยังไง คิดยังไง
กุก็บอกว่าก็คงรำคาญ หงุดหงิด เบื่อๆขี้เกียจรอ ง่วงอยากนอน แล้วก็คงวนกลับมาเบื่อ รำคาญ โมโห หงุดหงิด คิดว่าเมื่อไร่จะมา บลาๆ
แล้วหมอก็ถามอีกว่าแล้วระหว่างนั้นจะทำอะไร
กุก็บอกว่าก็นั่งรอ ฟังเพลง เล่นมือถือ
หมอก็บอกให้กุดูว่าความคิดกับพฤติกรรมมีอันไหนที่มันสอดคล้องกันบ้าง....
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!

กุก็บอกว่าไม่รู้ลุงหมอก็บอกว่า
ลุงหมอก็บอกว่า แล้วกุก็ไปตามที่ลุงหมอบอกไปแผนกจิตก็แบบไปนั่งคุบกับหมอผู้หญิงคนนึง หมอก็ถามว่าอ้าวทำไมถึงลดล่ะลดตั้งแต่เดือนไหนอะไรยังไง (หมอก็แบบใจดีนะถามว่าลดวิธีไหนหมออยากลดเหมือนกัน) กุก็บอกไป ... ก็แบบเหมือนไปนั่งคุยกับเพื่อนใหม่เรื่อง เรียนที่ไหนบ้านอยู่แถวไหนครอบครัวเป็นยังเพื่อนมีกี่คนอาหารที่ชอบชอบไปไหนเวลาว่างทำอะไรคิดยังไงกับคนป่วยทางจิตคิดยังไงกับเรื่องสงครามปัญหาสิทธิมนุษย์ชนแล้วก็เรื่องพี่สิงห์ (คุยนานมาก ) 555 ทีนี้มันก็มาพีคตรงนี้แหล่ะหมอถามกุว่าคิดว่าตัวเองเป็นยังไงกุก็บอกไปๆ ๆ ๆ ก็เงยแล้วหน้ามาถามอีกว่าได้มีแฟนรึยังเล่าให้หมอฟังหน่อยเอาความจริงนะ .... 5555 หมอก็หัวเราะแล้วก็บอกว่าเล่าทุกคน 5555 หมอก็ว่าเอาทุกคนที่คุย = หมอก็ถามว่าเจนี่เรียนที่ไหนอายุเท่าไหร่เจอกันยังไง พอเล่าจบหมอก็นั่งด่าเจกับกุ 555,555 หลังจากนั้นหมอก็กลับมาถามใหม่ ปล่อยไปไม่ได้จริงๆตอนนั้นเจเองก็ดูน่าเป็นห่วงไม่อยากให้เค้าอ่ะต้องอยู่คนเดียวถึงเขาไม่รักเราก็ไม่เป็นไรแค่ได้เป็นฝ่ายให้ก็พอใจแล้ว ... กุก็บอกว่าคุย ... การยอมรับสิ่งที่คนคนนึงเป็น คือแบบตลอดที่เล่าเรื่องเจกุแบบอดทนมากมึงจะร้องไห้อยู่แล้ว ... ) ทีนี้บรรยากาศในห้องก็เปลื่ยนไปหมอก็พูดขึ้นมาคำนึงคือ .... 'เหนื่อยมั้ย' กุนี่น้ำตาปริ่ม กุก็บอกว่าเหนื่อยหมอก็ถามว่าแล้วช่วงนี้เป็นยังไงรู้สึกอะไรคิดอะไรกุก็หบอก ๆ ๆ แล้วหมอก็บอกว่าร้องไห้เลยไม่ต้องอดทน ... แต่คิดว่าน่าจะเรื่องกุแหล่ะหมอบอกกุว่าที่เป็นอยู่ยังน้อยโชคดีที่กุเป็นคนมองโลกในแง่ดีทัศนะคติดีมีเหตุผล ควรทำอะไร .... แล้วหมอก็ถามว่าจริงมั้ยกุก็บอกว่าจริง ... หมอก็ยังบอกกุอีกว่า "มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ ไม่มีมนุษย์คนไหนที่เข้มแข็งหรอก เพราะไม่แสดงออก เห็นได้ชัดเลยเพราะว่าสารสร้างความสุขมันลดลง จากเมื่อก่อนมีเหตุผลคิดได้ผ่อนคลายได้ก็เปลื่ยนเป็นไม่มีเหตุผลมองไม่เห็นทางออก คุณลุงหมอเลยส่งเรามาที่นี่เพราะเราบอกว่ารู้สึกเหนื่อยเพลียอึดอัดหนัก ๆ ในใจเบื่อ ๆ นอนไม่หลับ ถึงแม้ว่าอาการจะไม่หนัก ToT หมอ: คุณเป็นผู้หญิงที่ดีนะคุณเป็นคนดีมากเลย แล้วก็เขียน CBT ลงไปแล้วก็บอกว่าC = ความรู้ความเข้าใจความคิดความรู้สึกB = พฤติกรรมพฤติกรรมT = จะรู้สึกกุยังไงคิดยังไงกุก็บอกว่าได้ก็คงรำคาญหงุดหงิดเบื่อ ๆ ขี้เกียจรอง่วงอยากนอนแล้วก็คงวนกลับมาเบื่อรำคาญหงุดหงิดโมโหคิดว่าได้เมื่อไร่จะมา ฟังเพลง






















การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
เรื่องแม่งยาว
กุก็ไปวัดน้ำตาลปกติใช่ป่ะวัดเสร็จก็มานั่งคุยกับลุงหมอ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ลุงหมอก็บอกว่าน้ำตาลต่ำกว่าคราวที่แล้ว . . . . . . .แล้วลุงหมอก็ถามกุว่ารู้มั้ยว่าทำไมคนเราถึงต้องมีน้ำตาลในเลือดกุก็บอกว่าไม่รู้ลุงหมอก็บอกว่าน้ำตาลมีไว้รักษาสมดุลในร่างกายในร่างกายเรามีสารตัวนึงที่ต้องใช้น้ำตาลในการผลิตนั่นคือสารสร้างความสุข . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .สารเซโรโทนินหรือสารสร้างความสุขจะต่ำลงเมื่อเราเครียดและจะยิ่งต่ำลงถ้าน้ำตาลในร่างกายน้อยสุดท้ายแล้วถ้าเซโรโทนินในร่างกายผิดปกติจะทำให้เกิดอาการซึมเศร้า . . . . . . . แล้วลุงหมอก็ถามจริงมั้ย
กุก็บอกว่าไม่รู้เหมือนกันแต่ก็รู้สึกไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน . . . . . . . ลุงหมอก็บอกว่าถ้าไม่รู้ก็เดี๋ยวลองไปคุยกับหมอจิตดูจะได้รู้นะ . . . . . . .แล้วกุก็ไปตามที่ลุงหมอบอกไปแผนกจิตก็แบบไปนั่งคุบกับหมอผู้หญิงคนนึงแบบก็ยังดูเด็กอยู่เลย 5555 หมอก็ถามว่าน้ำตาลน้อยลดความอ้วนเหรอ

. . . . . . .กุก็บอกว่าใช่หมอก็ถามว่าอ้าวทำไมถึงลดล่ะลดตั้งแต่เดือนไหนอะไรยังไง ( หมอก็แบบใจดีนะกุก็บอกไปถามว่าลดวิธีไหนหมออยากลดเหมือนกัน ) . . . . . . .ก็แบบเหมือนไปนั่งคุยกับเพื่อนใหม่เรื่องเรียนที่ไหนบ้านอยู่แถวไหนครอบครัวเป็นยังเพื่อนมีกี่คนอาหารที่ชอบชอบไปไหนเวลาว่างทำอะไรคิดยังไงกับคนป่วยทางจิตคิดยังไงกับเรื่องสงครามปัญหาสิทธิมนุษย์ชน555 ทีนี้มันก็มาพีคตรงนี้แหล่ะหมอถามกุว่าคิดว่าตัวเองเป็นยังไงกุก็บอกไปๆๆๆแล้วหมอก็จดอะไรไม่รู้ในกระดาษประมาน 15 นาทีแล้วก็เงยหน้ามาถามอีกว่ามีแฟนรึยังเล่าให้หมอฟังหน่อย
เอาความจริงนะหมออยากรู้ว่าเดี๋ยวนี้เค้าจีบกันยังไง . . . . . . .กุก็บอกว่าหมอจะให้เล่าถึงคนไหนล่ะมีหลายคน 5555 หมอก็หัวเราะแล้วก็บอกว่าเล่าทุกคนกุก็ว่าแฟนมีคนเดียวแต่ที่คุยๆก็มีหลายคนนะหมอก็ว่าเอาทุกคนที่คุยกุก็เล่าตั้งแต่รักแรกของกุจนมาถึงเด็กจุฬาคนล่าสุด 5555 . . . . . .
กุเล่าตั้งหลายคนแต่หมอเสือกถามถึงเจ . . . = =
หมอก็ถามว่าเจนี่เรียนที่ไหนอายุเท่าไหร่เจอกันยังไงให้กุเล่าเรื่องเจให้ฟังกุก็แบบแม่งเฮิร์ตอ่ะมึง . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .แต่ก็ต้องเล่าแล้วต้องละเอียดด้วยนะห่าพอเล่าจบหมอก็นั่งด่าเจกับกุ 555555 หลังจากนั้นหมอก็กลับมาถามใหม่ถามว่าทำไมตอนนั้นที่รู้ว่าเขายังไม่ลืมแฟนเก่าถึงไม่คิดจะรีบออกมากุก็บอกว่าตอนนั้นกุคิดว่า . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .จะลองสู้ซักตั้งแล้วก็ตอนนั้นคิดว่าปล่อยไปไม่ได้จริงๆตอนนั้นเจเองก็ดูน่าเป็นห่วงไม่อยากให้เค้าอ่ะต้องอยู่คนเดียวถึงเขาไม่รักเราก็ไม่เป็นไรแค่ได้เป็นฝ่ายให้ก็พอใจแล้ว . . . . . . .ทีนี้หมอก็ถามว่าตอนนี้ยังคุยกันอีกรึเปล่ากุก็บอกว่าคุย . . . . . . . หมอก็ว่าทำไมถึงยังคุยพอกุบอกเหตุผลหมอก็ถามถึงเรื่องนิยามความรักกับกุกุก็บอกว่าสำหรับกุมันคงหมายถึง
การเสียสละการยอมรับสิ่งที่คนคนนึงเป็นการไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆและการมีความสุขเมื่อคนที่เรารักมีความสุข ( คือแบบตลอดที่เล่าเรื่องเจกุแบบอดทนมากมึงจะร้องไห้อยู่แล้ว . . . . . . . . . . . . . . )
ทีนี้บรรยากาศในห้องก็เปลื่ยนไปหมอก็พูดขึ้นมาคำนึงคือ ' ' . . . . . . . เหนื่อยมั้ยกุนี่น้ำตาปริ่มกุก็บอกว่าเหนื่อยหมอก็ถามว่าแล้วช่วงนี้เป็นยังไงรู้สึกอะไรคิดอะไรกุก็หบอกๆๆแล้วหมอก็บอกว่าร้องไห้เลยไม่ต้องอดทน . . . . . . .กุนี่น้ำตาแตกเลย . . . . . . .
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: