Kuwait–Najd War (1919–1921)[edit]Ma

Kuwait–Najd War (1919–1921)[edit]
Main article: Kuwait–Najd War
The Kuwait-Najd War erupted in the aftermath of World War I, when the Ottoman Empire was defeated and the British invalidated the Anglo-Ottoman Convention. The power vacuum, left by the fall of the Ottomans, sharpened the conflict between Kuwait and Najd (Ikhwan). The war resulted in sporadic border clashes throughout 1919-1920.
Battle of Jahra[edit]
Main article: Battle of Jahra
The Battle of Jahra was a battle during the Kuwait-Najd War. The battle took place in Al Jahra, west of Kuwait City on 10 October 1920 between Salim Al-Mubarak Al-Sabah ruler of Kuwait and Ikhwan Wahhabi followers of Ibn Saud of Saudi Arabia, king of Saudi Arabia.[80]
A force of 4000 Saudi Ikhwan, led by Faisal Al-Dawish, attacked the Kuwait Red Fort at Al-Jahra, defended by 2000 Kuwaiti men. The Kuwaitis were largely outnumbered by the Ikhwan of Najd.
The Uqair protocol[edit]
In response to Bedouin raids, the British High Commissioner in Baghdad, Percy Cox, imposed[81] the Uqair Protocol of 1922 which defined the boundaries between Iraq, Kuwait and Nejd. In April 1923, Shaikh Ahmad al-Sabah wrote the British Political Agent in Kuwait, Major John More, "I still do not know what the border between Iraq and Kuwait is, I shall be glad if you will kindly give me this information." More, upon learning that al-Sabah claimed the outer green line of the Anglo-Ottoman Convention (4 April), would relay the information to Sir Percy.
On 19 April, Sir Percy stated that the British government recognized the outer line of the Convention as the border between Iraq and Kuwait. This decision limited Iraq's access to the Persian Gulf at 58 km of mostly marshy and swampy coastline. As this would make it difficult for Iraq to become a naval power (the territory did not include any deepwater harbours), the Iraqi King Faisal I (whom the British installed as a puppet king in Iraq) did not agree to the plan. However, as his country was under British mandate, he had little say in the matter. Iraq and Kuwait would formally ratify the border in August. The border was re-recognized in 1932.
In 1913, Kuwait was recognized as a separate province from Iraq and given autonomy under Ottoman suzerainty in the draft Anglo-Ottoman Convention, however this was not signed before the outbreak of the first World War. The border was revisited by a memorandum sent by the British high commissioner for Iraq in 1923, which became the basis for Kuwait's northern border. In Iraq's 1932 application to the League of Nations it included information about its borders, including its border with Kuwait, where it accepted the boundary established in 1923.[82]
Discovery of oil (1937)[edit]
In 1937, the 15-year trade blockades against Kuwait were lifted and Kuwait's large oil reserves were discovered by the US-British Kuwait Oil Company. Exploration was delayed until after World War II, the exportation of oil only began in 1951. Between World War II and 1948, Kuwait's inhabitants were still largely impoverished. A few years after the end of World War II, oil exploration finally began. In 1951, a major public-work programme began to enable Kuwaitis to enjoy a better standard of living. By 1952, the country became the largest exporter of oil in the Persian Gulf region. This massive growth attracted many foreign workers, especially from Palestine, Egypt, and India.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คูเวต – นาจ์สงคราม (ค.ศ. 1919 – 1921) [แก้]บทความหลัก: สงครามคูเวต – นาจ์อิสลามาบัด การปะทุขึ้นในผลพวงของสงครามโลก เมื่อจักรวรรดิออตโตมันพ่ายแพ้ และอังกฤษยกเลิกการประชุมแองโกลออตโตมัน พลังงานสุญญากาศ ซ้าย โดยการล่มสลายของจักรวรรดิออตโต รุนแรงความขัดแย้งระหว่างคูเวตนาจ์ (Ikhwan) สงครามส่งผลให้ปะทะกันประปรายขอบตลอด 1919-1920[แก้] Jahra รบบทความหลัก: ยุทธการ Jahraรบ Jahra เป็นการรบระหว่างอิสลามาบัด การต่อสู้ที่เกิดขึ้นในอัล Jahra เมืองคูเวตบน 10 1920 ตุลาคมระหว่างเจ้าสาลิมอัลบาอัลซาบาห์บินสุอูดอัชของซาอุดิอาระเบีย กษัตริย์แห่งซาอุดิอาระเบียคูเวตและวะฮาบีย์ Ikhwan ผู้ [80]แรง 4000 Ikhwan ซาอุดิอาระเบีย นำโดย Faisal Al-Dawish โจมตีป้อมแดงคูเวตที่อัล-Jahra ป้องกันผู้ชายคูเวต 2000 Kuwaitis ที่ได้ส่วนใหญ่ปล้นสะดม โดย Ikhwan นาจ์โพรโทคอล Uqair [แก้]ในการตอบสนองงำบุก ข้าหลวงอังกฤษในกรุงแบกแดด เพอร์ซี่ค็อกซ์ กำหนด [81] โพรโทคอล Uqair ของ 1922 ซึ่งกำหนดเขตแดนระหว่างประเทศอิรัก คูเวต และ Nejd ใน 1923 เมษายน อัลอะหมัดอัลซาบาห์เขียนแทนการเมืองอังกฤษในคูเวต จอห์นเมเจอร์เพิ่มเติม, "ยังไม่รู้ว่าระหว่างอิรักและคูเวตมีอะไร ฉันจะยินดีหากคุณจะกรุณาให้ข้อมูลนี้" เพิ่มเติม เมื่อการเรียนรู้ อัลซาบาห์ที่อ้างว่า เส้นสีเขียวด้านนอกของแองโกลออตโตมัน (4 เมษายน) จะส่งข้อมูลให้เพอร์ซี่ที่รักเมษายน 19 เพอร์ซี่เซอร์ระบุว่า รัฐบาลอังกฤษรู้จักเส้นรอบนอกของอนุสัญญาระหว่างอิรักและคูเวต ตัดสินใจครั้งนี้จำกัดการเข้าของอิรักถึงอ่าวเปอร์เซียที่ 58 กม.ของชายฝั่ง marshy เป็นส่วนใหญ่ และหนอง เช่นนี้จะทำให้อิรักกลายเป็น เรือไฟ (ดินแดนไม่มีท่าเรือซิใด ๆ) , Faisal กษัตริย์อิรักที่ผม (ที่อังกฤษการติดตั้งเป็นกษัตริย์หุ่นเชิดในอิรัก) ก็ไม่เห็นด้วยกับแผนการ อย่างไรก็ตาม เป็นประเทศของเขาภายใต้อาณัติของอังกฤษ เขากล่าวเพียงเล็กน้อยในเรื่อง อิรักและคูเวตจะอย่างเป็นทางสัตยาบันขอบในเดือนสิงหาคม ขอบถูกรู้จักอีกครั้งในปี 1932ในปี 1913 คูเวตเป็นจังหวัดแยกต่างหากจากอิรัก และได้รับเอกราชภายใต้ suzerainty ออตโตมันในร่างประชุมแองโกลออตโตมัน แต่นี้ไม่ได้ลงนามก่อนการระบาดของสงครามโลก ขอบเป็นสำคัญ โดยในบันทึกส่งข้าหลวงใหญ่อังกฤษสำหรับอิรักใน 1923 ซึ่งกลายเป็นพื้นฐานสำหรับขอบเหนือของคูเวต ในโปรแกรม 1932 ของอิรักเพื่อสันนิบาต จะรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรมแดน รวมทั้งแดนกับคูเวต ที่มันยอมรับขอบเขตที่สร้างขึ้นในปี [82]ค้นพบน้ำมัน (1937) [แก้]ในปี 1937, blockades 15 ปีการค้ากับคูเวตถูกยกเลิก และสำรองน้ำมันขนาดใหญ่ของคูเวตถูกค้นพบ โดย บริษัทน้ำมันคูเวตสหรัฐ-อังกฤษ สำรวจล่าช้าจนกระทั่งหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง exportation ของน้ำมันเท่านั้นเริ่มในปี 1951 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองและ 1948 ประชากรของคูเวตยังคงยากจนส่วนใหญ่ ไม่กี่ปีหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง สำรวจน้ำมันก็เริ่มขึ้น ในปี 1951 โปรแกรมการทำงานสาธารณะสำคัญเริ่มการเปิดใช้งาน Kuwaitis กับมาตรฐานการครองชีพดีขึ้น โดย 1952 ประเทศกลายเป็น ผู้ส่งออกน้ำมันในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียที่ใหญ่ที่สุด เจริญเติบโตนี้มากดึงดูดแรงงานต่างชาติที่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากปาเลสไตน์ อียิปต์ อินเดีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คูเวต Najd สงคราม (1919-1921) [แก้ไข]
บทความหลัก: คูเวต Najd สงคราม
คูเวต-Najd สงครามปะทุขึ้นในผลพวงของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเมื่อจักรวรรดิออตโตก็พ่ายแพ้และอังกฤษถูกยกเลิกแองโกลออตโตมันประชุม สูญญากาศไฟฟ้าด้านซ้ายโดยการล่มสลายของออตโตที่รุนแรงขึ้นความขัดแย้งระหว่างคูเวตและ Najd (Ikhwan) สงครามส่งผลให้เกิดการปะทะกันเป็นระยะ ๆ ตลอดแนวชายแดน 1919-1920.
รบ Jahra [แก้ไข]
บทความหลัก: รบ Jahra
การต่อสู้ของ Jahra เป็นสงครามระหว่างคูเวต Najd สงคราม สงครามเกิดขึ้นใน Al Jahra ตะวันตกของคูเวตซิตีในวันที่ 10 ตุลาคม 1920 ระหว่าง Salim Al-Mubarak Al-Sabah เจ้าผู้ครองคูเวตและ Ikhwan Wahhabi สาวกของอิบันซูดซาอุดิอารเบียกษัตริย์แห่งซาอุดิอารเบีย. [80]
แรง 4000 ซาอุดิ Ikhwan นำโดย Faisal Al-Dawish โจมตีคูเวตป้อมแดงที่ Al-Jahra ปกป้อง 2000 ชายชาวคูเวต คูเวตถูกมากกว่าส่วนใหญ่โดย Ikhwan ของ Najd.
Uqair โปรโตคอล [แก้ไข]
เพื่อตอบสนองต่อการบุกเบดูอินที่ราชทูตอังกฤษในกรุงแบกแดดเพอร์ซี่คอคส์กำหนด [81] ที่ Uqair พิธีสาร 1922 ซึ่งกำหนดเขตแดนระหว่างอิรักคูเวต และ Nejd ในเดือนเมษายน 1923 เชคอาเหม็ดอัลซาบาห์เขียนตัวแทนทางการเมืองของอังกฤษในคูเวต, จอห์นเมเจอร์มากขึ้น "ผมก็ยังไม่ทราบว่าสิ่งที่ชายแดนระหว่างอิรักและคูเวตคือผมจะดีใจถ้าคุณจะกรุณาให้ฉันข้อมูลนี้." มากขึ้นเมื่อรู้ว่าอัลซาบาห์อ้างว่าสายสีเขียวด้านนอกของอนุสัญญาแองโกลออตโตมัน (4 เมษายน) จะถ่ายทอดข้อมูลกับเซอร์เพอร์ซี่.
เมื่อวันที่ 19 เมษายนเซอร์เพอร์ซี่กล่าวว่ารัฐบาลอังกฤษได้รับการยอมรับเส้นรอบนอกของอนุสัญญา เป็นพรมแดนระหว่างอิรักและคูเวต การตัดสินใจครั้งนี้ จำกัด การเข้าถึงของอิรักไปยังอ่าวเปอร์เซียที่ 58 กม. ส่วนใหญ่เป็นแอ่งน้ำและแอ่งน้ำชายฝั่ง เช่นนี้จะทำให้มันยากสำหรับอิรักจะกลายเป็นอำนาจทางทะเล (ดินแดนที่ไม่ได้รวมถึงท่าเรือน้ำลึกใด ๆ ) อิรักกษัตริย์ Faisal ฉัน (ซึ่งอังกฤษติดตั้งเป็นกษัตริย์หุ่นเชิดในอิรัก) ไม่เห็นด้วยกับแผน อย่างไรก็ตามในขณะที่ประเทศของเขาอยู่ภายใต้อาณัติของอังกฤษเขาน้อยกล่าวว่าในเรื่องนี้ อิรักและคูเวตอย่างเป็นทางการจะให้สัตยาบันชายแดนในเดือนสิงหาคม ชายแดนเป็นอีกครั้งที่ได้รับการยอมรับในปี 1932
ในปี 1913 คูเวตก็จำได้ว่าเป็นจังหวัดที่แยกออกจากอิรักและได้รับเอกราชภายใต้อำนาจออตโตมันในร่างแองโกลออตโตมันประชุมอย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ได้ลงนามก่อนที่การระบาดของโรคครั้งแรกสงครามโลก ชายแดนมาเยือนโดยบันทึกข้อตกลงที่ส่งมาจากข้าหลวงใหญ่อังกฤษอิรักในปี 1923 ซึ่งกลายเป็นพื้นฐานสำหรับชายแดนภาคเหนือของคูเวต ในอิรักของแอพลิเคชัน 1932 สันนิบาตแห่งชาติรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรมแดนของตนรวมทั้งชายแดนกับคูเวตที่มันได้รับการยอมรับเขตแดนก่อตั้งขึ้นในปี 1923 [82]
การค้นพบน้ำมัน (1937) [แก้ไข]
ในปี 1937 15 ปี อุปสรรคการค้ากับประเทศคูเวตถูกยกและคูเวตน้ำมันสำรองขนาดใหญ่ที่ถูกค้นพบโดยชาวอังกฤษสหรัฐอเมริกา บริษัท น้ำมันคูเวต สำรวจล่าช้าจนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่สองการส่งออกของน้ำมันเพียงเริ่มต้นขึ้นในปี 1951 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองปี 1948 ชาวคูเวตก็ยังคงยากจนส่วนใหญ่ ไม่กี่ปีหลังจากการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สองการสำรวจน้ำมันในที่สุดก็เริ่ม ในปี 1951 ซึ่งเป็นโปรแกรมสาธารณะงานใหญ่เริ่มที่จะเปิดใช้งานคูเวตเพลิดเพลินไปกับมาตรฐานที่ดีขึ้นของที่อยู่อาศัย 1952 โดยประเทศที่กลายเป็นผู้ส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของน้ำมันในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย นี้การเจริญเติบโตมากดึงดูดแรงงานต่างชาติจำนวนมากโดยเฉพาะจากปาเลสไตน์, อียิปต์, และอินเดีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คูเวต– Najd สงคราม ( ค.ศ. 1919 – 1921 ) [ แก้ไข ]บทความหลัก : คูเวต– Najd สงครามสงคราม Najd คูเวตปะทุขึ้นในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเมื่อจักรวรรดิออตโตมันพ่ายแพ้อังกฤษที่อังกฤษตุรกีและยกเลิกการประชุม พลังงานสูญญากาศทางซ้ายโดยการลดลงของออตโตมารุนแรงขึ้นความขัดแย้งระหว่างคูเวตและ Najd ( Ikhwan ) สงครามก่อให้เกิดการปะทะชายแดนเป็นระยะตลอด 1919-1920 .การต่อสู้ของจา รา [ แก้ไข ]บทความหลัก : การต่อสู้ของจา ราการต่อสู้ของ จา รา เป็นสงครามระหว่างคูเวต Najd สงคราม การต่อสู้เกิดขึ้นใน อัล จา รา ทางตะวันตกของเมืองคูเวต ในวันที่ 10 ตุลาคม 2463 ระหว่างซาลิมอัล มูบารัค อัล ซาบาห์ ไม้บรรทัดของคูเวตและ Ikhwan วะฮาบีย์ผู้ติดตามของ อิบนุซาอุดแห่งซาอุดีอาระเบีย กษัตริย์แห่งซาอุดิอาระเบีย [ 80 ]แรง 4000 ซาอุดิอาระเบีย Faisal อัล Ikhwan นำโดย dawish โจมตี คูเวตฟอร์ตสีแดงที่ อัล จา รา , ปกป้องคูเวตโดย 2000 คน การ kuwaitis ส่วนใหญ่ outnumbered โดย Ikhwan ของ Najd .การ uqair โปรโตคอล [ แก้ไข ]ในการตอบสนองกับเบดูอิน ตรวจค้น ข้าหลวงใหญ่อังกฤษในแบกแดด เพอร์ซี่ ค็อกซ์ , บังคับ [ 81 ] uqair โปรโตคอลของ 1922 ซึ่งกำหนดเขตแดนระหว่าง อิรัก คูเวต และ nejd . ในเมษายน 1923 เชคอาหมัด อัล ซาบาห์ เขียนตัวแทนทางการเมืองของอังกฤษในคูเวต , ผู้พันจอห์นมากขึ้น " ผมยังไม่รู้ว่าเขตแดนระหว่างอิรักและคูเวต ผมจะดีใจถ้าคุณจะกรุณาให้ฉันข้อมูลนี้ " มากขึ้น เมื่อเรียนรู้ว่า อัล ซาบาห์ อ้างเส้นสีเขียวด้านนอกของแองโกล ตุรกีการประชุม ( 4 เมษายน ) จะถ่ายทอดข้อมูลเซอร์เพอร์ซี่ในวันที่ 19 เมษายนครับ เพอร์ซี่ กล่าวว่า รัฐบาลอังกฤษยอมรับเส้นรอบนอกของการประชุมเป็นพรมแดนระหว่างอิรักและคูเวต การตัดสินใจนี้ จำกัด การเข้าถึงของอิรักในอ่าวเปอร์เซียที่ 58 กิโลเมตร ส่วนใหญ่ซึ่งเป็นหนองบึงแอ่งน้ำและชายฝั่ง นี้จะทำให้อิรักกลายเป็นพลังงานทางทะเล ( ดินแดนที่ไม่รวมใด ๆต่อท่าเรือ ) , อิรัก ( กษัตริย์ Faisal ที่อังกฤษติดตั้งเป็นหุ่นกษัตริย์ในอิรัก ) ไม่เห็นด้วยกับแผน อย่างไรก็ตาม ขณะที่ประเทศของเขาอยู่ภายใต้อาณัติของอังกฤษ เขาได้พูดในเรื่อง อิรักและคูเวตจะให้สัตยาบันชายแดนอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม ชายแดน เป็นอีกครั้งที่รู้จักใน 1932 .ในปี 1913 , คูเวตจึงเป็นจังหวัดที่แยกต่างหากจากอิรักและได้รับเอกราชตุรกีภายใต้ประเทศราชในร่างอนุสัญญาอังกฤษตุรกี อย่างไรก็ตามนี้ไม่ได้ลงนามก่อนที่การระบาดของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ชายแดนถูก Revisited โดยการส่งโดยข้าหลวงใหญ่อังกฤษในอิรักในปี 1923 ซึ่งกลายเป็นพื้นฐานสำหรับคูเวตทางตอนเหนือของชายแดน ในอิรัก พ.ศ. 2475 ใช้สันนิบาตชาติได้รวมข้อมูลเกี่ยวกับพรมแดนของตน รวมทั้งพรมแดนกับ คูเวต ที่ได้รับการยอมรับขอบเขตก่อตั้งขึ้นในปี 1923 . [ 82 ]ค้นพบน้ำมัน ( 1937 ) [ แก้ไข ]ในปี 1937 , 15 ปี อุปสรรคต่อการค้า และคูเวต คูเวตถูกใหญ่น้ำมันสำรองถูกค้นพบโดยสหรัฐฯ อังกฤษ คูเวต น้ำมันบริษัท การสำรวจถูกเลื่อนออกไปจนกว่าหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองการส่งออกน้ำมันเริ่มในปี 1951 . ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง และ 1948 , คูเวตประชากรส่วนใหญ่ยังยากจน . ไม่กี่ปีหลังจากการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สองการสำรวจน้ำมัน ก็เริ่มขึ้น ใน 1951 , โครงการงานสาธารณะใหญ่เริ่มเปิด Kuwaitis เพลิดเพลินกับมาตรฐานการครองชีพที่ดีขึ้น . โดย 1952 ประเทศเป็นผู้ส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของน้ำมันในอ่าวเปอร์เซีย ภาค การเจริญเติบโตขนาดใหญ่นี้ดึงดูดแรงงานต่างชาติจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากปาเลสไตน์ อียิปต์ และอินเดีย