The results of the study showed tha

The results of the study showed that the vast majority of the respondents identified themselves as heterosexual (Table 4). Only two male nursing students (n=2/0.7%) reported as homosexual and one female (0.4%) respectively). Of the participants the majority 80.7 % reported that they had sexual experiences. Of the female nursing students 15.8% (n=44) reported never engaging in sexual activities. 23% of the male respondents reported that had four or more partners in their life and 26.5% of the female reported that they had two or three partners. Only 1.1% of male and 24% of the female reported one partner. 18 of the 45 male participants (6.5% of the total sample) and 24.4% (n=68) of female respondents said that they used a condom every time. Of the respondents 12.6% (males) and 52.8% (females) reported that they drink alcohol sometimes, while 28.8% (female) of the total sample didn’t drink at all. As illustrated in table 4 the majority of nursing students did not use drugs at all.
Chi-square tests indicated that male respondents reported more homosexual in comparison to female but it was not statistically significant. However, male students had significantly more sexual experiences in relation to female (97.8% vs 78.4%;X2 = 10.06, df=4, P=0.03). In addition, female students reported more relationships with only one partner in their life when compared to males students (29% vs 6.7%; X2 = 34.59, df =8, P=0.001). Significantly more male students reported the use of condom every time they have intercourse (40% vs 29.4%; X2 = 34.91, df=8, P=0.001).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบส่วนใหญ่ระบุว่าตัวเองเป็นรักต่างเพศ (ตาราง 4) นักศึกษาพยาบาลชายสอง (n=2/0.7%) รายงานเป็นคนรักร่วมเพศและหนึ่งหญิง (0.4%) ตามลำดับ) ของผู้เข้าร่วม ส่วนใหญ่ 80.7% รายงานว่า พวกเขามีประสบการณ์ทางเพศ ของหญิงพยาบาลนักเรียน 15.8% (n = 44) รายงานไม่มีเสน่ห์ในกิจกรรมทางเพศ 23% ของผู้ตอบชายรายงานว่า มีคู่สี่ หรือมากกว่าในชีวิตและ 26.5% ของหญิงรายงานว่า พวกเขามีสอง หรือสามคู่ เพียง 1.1% ของเพศชายและ 24% ของหญิงรายงานคู่หนึ่ง 18 คนชาย 45 (6.5% ของตัวอย่างทั้งหมด) และ 24.4% (n = 68) ของผู้ตอบหญิงกล่าวว่า พวกเขาใช้ถุงยางทุกครั้ง ของผู้ตอบที่ 12.6% (ชาย) และ 52.8% (หญิง) รายงานว่า พวกเขาดื่มแอลกอฮอล์บาง ในขณะที่ 28.8% (เพศหญิง) ของผลรวมตัวอย่างไม่ดื่มเลย ดังที่แสดงในตารางที่ 4 ส่วนใหญ่ของนักศึกษาพยาบาลได้ใช้ยาที่ไม่Chi-square ทดสอบบ่งชี้ว่า ผู้ตอบชายรายงานคนรักร่วมเพศมาก โดยเพศหญิง แต่ไม่อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ อย่างไรก็ตาม นักเรียนชายมีประสบการณ์ทางเพศมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับเพศหญิง (97.8% เทียบกับ 78.4%X 2 = 10.06, df = 4, P = 0.03) นอกจากนี้ นักเรียนหญิงรายงานความสัมพันธ์เพิ่มเติมกับคู่เดียวในชีวิตของพวกเขาเมื่อเทียบกับนักเรียนชาย (29% เทียบกับ 6.7% X 2 = 34.59, df = 8, P = 0.001) อย่างมีนัยสำคัญนักเรียนชายเพิ่มเติมรายงานการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ (40% เทียบกับ 29.4% X 2 = 34.91, df = 8, P = 0.001)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าตนเองเป็นเพศตรงข้าม (ตารางที่ 4) เพียงสองนักศึกษาพยาบาลชาย (n = 2 / 0.7%) รายงานว่าเป็นรักร่วมเพศและผู้หญิงคนหนึ่ง (0.4%) ตามลำดับ) ของผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ 80.7% รายงานว่าพวกเขามีประสบการณ์ทางเพศ ของนักศึกษาพยาบาลหญิง 15.8% (n = 44) รายงานไม่เคยมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเพศ 23% ของผู้ตอบแบบสอบถามเพศชายรายงานว่ามีสี่หรือมากกว่าคู่ค้าในชีวิตของพวกเขาและ 26.5% ของหญิงที่มีการรายงานว่าพวกเขามีสองหรือสามคู่ค้า เพียง 1.1% ของชายและ 24% ของหญิงที่มีการรายงานหุ้นส่วนคนหนึ่ง 18 ของผู้เข้าร่วม 45 เพศชาย (6.5% ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด) และ 24.4% (n = 68) ของผู้ตอบแบบสอบถามหญิงกล่าวว่าพวกเขาใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ของผู้ตอบแบบสอบถาม 12.6% (เพศชาย) และ 52.8% (หญิง) รายงานว่าพวกเขาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางครั้งในขณะที่ 28.8% (หญิง) ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดไม่ได้ดื่มเลย ดังแสดงในตารางที่ 4 ส่วนใหญ่ของนักศึกษาพยาบาลไม่ได้ใช้ยาเสพติดในทุก.
จิตารางการทดสอบแสดงให้เห็นว่าผู้ตอบแบบสอบถามเพศชายรักร่วมเพศรายงานเพิ่มเติมในการเปรียบเทียบกับหญิง แต่มันไม่เป็นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ อย่างไรก็ตามนักเรียนชายมีประสบการณ์ทางเพศมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในความสัมพันธ์กับหญิง (97.8% เทียบกับ 78.4%; X2 = 10.06, DF = 4, p = 0.03) นอกจากนี้นักเรียนหญิงรายงานความสัมพันธ์มากขึ้นมีเพียงหนึ่งคนที่ในชีวิตของพวกเขาเมื่อเทียบกับนักเรียนชาย (29% เทียบกับ 6.7%; X2 = 34.59, DF = 8, P = 0.001) อย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นนักเรียนชายรายงานการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ (40% เทียบกับ 29.4%; X2 = 34.91, DF = 8, P = 0.001)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลการศึกษาพบว่าส่วนใหญ่ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าตัวเองเป็นรักต่างเพศ ( ตารางที่ 4 ) เพียงสองชาย นักศึกษาพยาบาล ( n = 2 / 0.7% ) รายงานว่าเป็นรักร่วมเพศและหนึ่งหญิง ( 0.4% ) ตามลำดับ ) ของผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ 80.7 % รายงานว่าพวกเขามีประสบการณ์ทางเพศ ของพยาบาล นักเรียนหญิง 15.8 เปอร์เซ็นต์ ( n = 44 ) รายงานไม่เคยมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเพศ23 % ของผู้ตอบแบบสอบถามเพศชาย รายงานว่า มี 4 หรือคู่ค้ามากขึ้นในชีวิตของพวกเขา และร้อยละ 26.5 ของผู้หญิงรายงานว่าพวกเขามี สอง หรือ สามคู่ เพียง 1.1% ของเพศชายและ 24% ของผู้หญิงมีคู่หนึ่ง 18 จาก 45 ผู้เข้าร่วม ( 6.5 % ของตัวอย่างทั้งหมด ) และถ % ( n = 68 ) ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าพวกเขาใช้หญิงถุงยางอนามัยทุกครั้ง ของผู้ตอบแบบสอบถาม 12.6% ( ตัวผู้ ) และ 528% ( หญิง ) รายงานว่าพวกเขาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางครั้งในขณะที่ 28.8 % ( หญิง ) จำนวนตัวอย่างไม่ได้ดื่มเลย ดังแสดงในตารางที่ 4 ส่วนใหญ่ของนักศึกษาพยาบาลไม่ได้ใช้ยาเลย การทดสอบไคสแควร์ พบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม
รายงานรักร่วมเพศมากขึ้นในการเปรียบเทียบกับเพศชายเพศหญิง แต่อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ อย่างไรก็ตามนักเรียนชายมีพฤติกรรมทางเพศเพิ่มเติมประสบการณ์ในความสัมพันธ์กับหญิง ( 97.8 % vs 78.4 % ; x2 = 5.90 , df = 4 , p = 0.03 ) นอกจากนี้ นักเรียนหญิงมีความสัมพันธ์กับคู่เดียวเท่านั้นในชีวิตของพวกเขาเมื่อเทียบกับผู้ชายคน ( ร้อยละ 29 และ 6.7% ; x2 = 34.59 , df = 8 , p = 0.001 ) มีชายมากกว่า นักเรียนรายงานการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ร้อยละ 40 และ 29.4 % ;x2 = 34.91 , df = 8 , p = 0.001 )
.